หลังจากที่ Mark Zuckerberg ประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Meta เพื่อยกระดับตัวเองมุ่งสู่ Metaverse มากขึ้น หลายบริษัทก็เริ่มให้ความสนใจกับโลกเสมือนนี้มากกว่าเดิม ทำให้ไม่ใช่เฉพาะแค่เพียงทางฝั่งธุรกิจที่มีการย้ายตัวเองให้เข้าใกล้คำว่า Metaverse มากขึ้นเท่านั้น แต่สำหรับกระบวนการ HR ด้วยเช่นกัน ที่จำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนตัวเอง และรู้จักคำนี้ให้มากขึ้น
ในอนาคตอันใกล้นี้ เมื่อ Metaverse กำลังจะเข้ามาบทบาทในชีวิตเรามากขึ้น และแน่นอนว่าชีวิตในการทำงานก็จะมีการเปลี่ยนแปลงไปด้วย ในบทความนี้เราก็จะคุณไปดูว่า จะเกิดอะไรขึ้นกับ HR เมื่อ Metaverse เข้ามาเยือนโลกการทํางานมากขึ้น?!
Metaverse คืออะไร?
Metaverse คือ โลกเสมือนที่มีสภาพแวดล้อมของโลกแห่งความเป็นจริงและเทคโนโลยีผสานเข้าด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว โดยเราจะอาศัยเทคโนโลยี AR และ VR เป็นตัวกลางเชื่อมทั้งสองโลกให้กลายเป็นพื้นที่โลกเดียวกัน และเราจะถูกแทนที่ด้วย Avatar ที่สามารถเข้าไปใช้ชีวิต ทำงาน และทำสิ่งต่าง ๆ บนโลกเสมือนนั้นได้
ถ้าให้เปรียบเทียบง่าย ๆ Metaverse คือตัวเราอีกคนหนึ่งที่ถูกแทนด้วยตัว Avatar แล้วเข้าไปใช้ชีวิตอยู่บนโลกเสมือนอีกใบ ที่เราสามารถเข้าไปทำงาน พูดคุย ติดต่อ สื่อสารได้ แม้ตัวเราจะนั่งอยู่บ้านที่เอเชีย แต่ก็สามารถนั่งประชุมพร้อมหน้าพร้อมตากับเพื่อนร่วมงานทางฝั่งอเมริกาได้ง่าย ๆ โดยที่เราไม่ต้องเดินทางไปหาเขาเลย แต่เราจะได้รับประสบการณ์ที่สมจริงมาก ๆ เหมือนนั่งอยู่ข้าง ๆ กันแบบนั้นเลย
สิ่งที่จะเปลี่ยนไปเมื่อ Metaverse เข้ามาในโลกการทำงาน
ยกระดับการ Remote Working
ปัจจุบันหลายบริษัทมักจะใช้วิธี Hybrid Working ทั้งทำงานด้วยกันในออฟฟิศและทำงานจากทางไกล (Remote Working) แต่บางครั้งตอนที่ไม่ได้มาทำงานพร้อมหน้าพร้อมตากัน ประสบการณ์การพูดคุย มันทำได้แค่พบเจอกันผ่านหน้าจอแล็บท็อบหรือแท็บเล็ตเท่านั้น แต่เมื่อมาอยู่บน Metaverse พนักงานและทีมทุกคนก็จะได้สัมผัสประสบการณ์รูปแบบใหม่ แต่จะรู้สึกคุ้นเคยเหมือนนั่งอยู่ข้าง ๆ กันเหมือนเดิม เพราะ Metaverse จะทำให้เรารู้สึกว่าเหมือนได้นั่งประชุมด้วยกันตรงหน้าแบบ 3D สามารถสัมผัสจับมือกันได้ ไม่ใช่แค่เพียงนั่งมองหน้ากันผ่านหน้าจอสี่เหลี่ยมเท่านั้น
ประสบการณ์ในการสัมภาษณ์งานจะเปลี่ยนไป
สำหรับองค์กรยุคใหม่ที่กำลัง Transform ตัวเองเข้าสู่ Metaverse ก็อาจจะมีการเปลี่ยนประสบการณ์ในการสัมภาษณ์ผู้สมัคร โดยจากเดิมที่สัมภาษณ์ผ่านช่องทาง Video Conference (Zoom, Google Meet) มาเป็นบน Metaverse ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้นอกจากจะช่วยทำให้ประสบการณ์ในการสัมภาษณ์งานดูเป็นมิตรมากขึ้นแล้ว ภาพลักษณ์บริษัทก็จะมีความเป็นสมัยใหม่มากขึ้น พร้อมทั้งช่วยดึงดูดคนที่มีความสามารถและอยากทำงานในบริษัทของเรามาเพิ่มอีกได้ รวมถึงสามารถพาผู้สมัครทัวร์บริษัทไปพร้อม ๆ กันได้ แม้ผู้สมัครคนนั้นจะอยู่อีกมุมโลกหนึ่งก็ตาม
หาคนที่มีคุณสมบัติตรงกับความต้องการได้มากกว่าเดิม
ถ้าหากบริษัทกำลังเตรียมความพร้อม หรือมี Business Unit ที่อยู่ใน Metaverse อยู่แล้ว และอยากได้คนที่มีความสามารถเฉพาะทางเพื่อมาช่วยสร้างการเติบโตเพิ่มขึ้นอีก ถ้าหาก HR ไปเปิดบูธรับสมัครงานในนั้นก็อาจจะเจอผู้สมัครที่มีความสามารถและมีคุณสมบัติหาตัวจับได้ยากกว่าในช่องทางบนโลกปกติก็ได้ เพราะบน Metaverse มักจะมีคอมมูนิตี้ที่มีความสนใจเฉพาะเจาะจงกันมากขึ้น และผู้สมัครในนั้นก็จะมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับธรรมชาติความเป็น Metaverse มากกว่าคนที่ยังไม่เคยเข้าไปในนั้น HR จะได้เจอผู้สมัครที่สอดคล้องกับตำแหน่งที่ต้องการมากขึ้นอย่างแน่นอน
ไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุคกี่สมัย เทคโนโลยีก็ยังคงมีบทบาทและมีอิทธิพลที่สำคัญเสมอ จากเมื่อก่อนการทำงานมีการเปลี่ยนแปลงจากออฟไลน์มาสู่ออนไลน์ แต่ในอนาคตจะถูกยกระดับก้าวล้ำไปอีกขั้น จาก Reality ไปสู่ Metaverse ซึ่งเราก็คงจะได้เห็นตัวอย่างกันมาบ้างแล้วว่าถ้าบริษัทไหนไม่มีการปรับตัว ก็จะถูกยุคสมัยกลืนหายไปอย่างไม่มีวันย้อนกลับ เราก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะช่วยให้ HR เริ่มตระหนักเห็นความสำคัญของเทคโนโลยีและ Metaverse และรู้จักปรับตัวกันมากขึ้น
HR ต้องเตรียมตัวพร้อมรับการทำงานบน Metaverse อย่างไรบ้าง?
ทีม HR ถือว่าเป็นส่วนที่สำคัญมาก ๆ ในการขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ Metaverse ได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น เพราะนอกจากจะเป็นฝ่ายที่ต้องจัดการทรัพยากรบุคคลของบริษัทแล้ว ยังต้องเป็นฝ่ายดูแล สนับสนุนอุปกรณ์ และการอบรมต่าง ๆ อีกด้วย เพื่อให้ทุกคนในบริษัทเข้าถึง Metaverse ได้อีกก้าว
ในปัจจุบันก็มีบริษัทเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ก้าวเข้ามาเป็นหนึ่งในผู้เล่นบน Metaverse เพราะตอนนี้เทคโนโลยีสำหรับ Metaverse กำลังอยู่ในช่วงพัฒนาและอาจยังไม่ค่อยมีความเสถียรเท่าที่ควรในการใช้งาน บวกกับในการเข้าถึง Metaverse ก็ต้องใช้ตัวกลางอย่างเทคโนโลยี AR และ VR ด้วย
บริษัทจึงจำเป็นที่จะต้องสนับสนุนอุปกรณ์เหล่านี้ เพื่อให้พนักงานทุกคนสามารถเข้าถึงการทำงานบนโลกเสมือนใบนั้นได้ พอลองมาสำรวจราคาเล่น ๆ จะเห็นได้ว่าอุปกรณ์เหล่านี้ยังมีราคาแพงอยู่ (ขั้นต่ำประมาณ 15,000 บาท ต่อพนักงาน 1 คน) ซึ่งการลงทุนสำหรับเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้อาจจะสมเหตุสมผลมากกว่านี้ในอนาคตที่ Metaverse เข้ามามีบทบาทกับโลกการทำงานมากขึ้น
แต่ถ้า HR บริษัทไหนที่อยากเตรียมตัวมุ่งสู่ Metaverse และเป็นผู้นำเหนือคู่แข่งหนึ่งก้าว ในการนำธุรกิจเข้าสู่ Metaverse ผ่านเทคโนโลยี Blockchain เป็นอันดับแรก ๆ พร้อมกับการสร้างความสุขในที่ทำงานให้กับพนักงาน เราก็มีวิธีที่ง่าย ๆ กว่านั้น มาแนะนำให้ HR ทุกคนได้รู้จัก
GrowthVerse แพลตฟอร์ม Work Productively to Earn สร้างความสุขให้พนักงาน
GrowthVerse แพลตฟอร์ม Work Productively to Earn ที่ HR ไม่จำเป็นต้องมารับมือกับปัญหาต่าง ๆ ในช่วงที่จ่ายโบนัสสิ้นไตรมาสหรือสิ้นปี เพราะสามารถทยอยให้โบนัสพนักงานแบบรายวันด้วยคริปโทเคอร์เรนซีได้เลยจาก Performance ของพนักงาน ด้วยขั้นตอนง่าย ๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอนเท่านั้น นอกจากจะเป็นการช่วยรักษาพนักงาน ลดอัตราการลาออก พร้อมทั้งดึงดูดคนที่มีความสามารถให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในองค์กรของคุณ และถือว่าเป็นการสร้างภาพลักษณ์บริษัทให้ดูทันสมัยและเตรียมความพร้อมมุ่งสู่ Metaverse ได้อีกด้วย ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับ GrowthVerse ได้เลยตอนนี้ ที่นี่