Eung Rachkorn
ที่ปรึกษาด้านธุรกิจ การตลาด และเทคโนโลยี / ClickUp Expert คนแรกของประเทศไทย / เป็นนักการตลาดที่ชอบเขียน และเป็นนักเรียนของทุกเรื่องใหม่ (นักทดลองผิด) 🪐
นักเขียน
ระบบ ERP คืออะไร หนึ่งสิ่งที่จะบอกว่าองค์กรของเรากำลังเติบโตขึ้น คือปริมาณงานที่มากขึ้น งานล้นมือจนทำไม่ทัน ทำให้โปรเซสต่าง ๆ ช้าลง ปัญหาเหล่านี้เราสามารถแก้ได้โดยการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยแก้ปัญหา เลือกเครื่องมือมาปรับให้เข้ากับ Process งานหรือองค์กรของเรา เพื่อให้เราได้ใช้เวลาไปกับการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เป็นที่มาของระบบ ERP หรือ Enterprise Resource Planning คือ ระบบที่จะช่วยให้จัดการงานในองค์กรของเรา ซึ่งก็มีตั้งแต่เรื่อง งานจัดซื้อ, งานขาย, งานคลังสินค้า รวมถึงงานบัญชีและการเงิน และอีกเยอะแยะมากมาย เรียกว่ามาช่วยจัดการงานและข้อมูลทุกอย่างให้อยู่ในระบบเดียว ทำงานได้ต่อเนื่องกันมากขึ้น ลดการใช้โปรแกรมจำนวนมากในองค์กรให้อยู่ในตัวเดียว ฝ่ายบริหารอยากเห็นภาพรวมก็ดูได้เลยทันทีไม่ต้องรอให้ใครมาช่วยทำสรุป แต่โดยปกติแล้ว ERP ที่เรารู้จักกันจะมีราคาสูงมาก ๆ ทำให้ธุรกิจ SME เข้าถึงได้ยาก
บทความนี้อยากจะพาทุกคนมารู้จักกับ BEECY ระบบ ERP ตัวใหม่ ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์การทำงานของคนไทยและธุรกิจในไทย ในราคาที่สบายกระเป๋ามากกว่าทำให้ทุกธุรกิจสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น
ติดต่อ BEECY เพื่อรับสิทธิ์ทดลองใช้งานฟรี 30 วัน แค่บอกว่ามาจาก The Growth Master คลิกที่นี่เลย! จุดเริ่มต้นของ BEECY BEECY จะมีสโลแกนว่า Stop Busy Start BEECY เป็นคำที่ฟังแล้วรู้สึกว่า เป็นเรื่องจริงที่บางทีงานเล็ก ๆ มารวมกันก็ทำให้เรายุ่งมากกว่าเดิม แล้วพวกระบบ ERP ก็เข้ามาช่วยเรื่องนี้โดยเฉพาะ แต่กว่าจะมาเป็น BEECY ได้ก็ผ่านกระบวนการมากว่า 10 ปีเลยทีเดียว
จริง ๆ BEECY เป็นโปรดักต์จากบริษัท ทรีนิตี้ รูทส์ ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2013 แล้วก็เป็นบริษัทที่ทำเรื่องการพัฒนาระบบ ERP ให้กับหลายบริษัทในไทย เช่น Meditop, JYSK, AMR Industry, กรมประมง
จุดที่ได้เปรียบมาก ๆ คือ ประสบการณ์กว่าสิบปีกับการทำระบบ ERP ทำให้เค้ามี Use case และองค์ความรู้ที่มากพอจะรู้ว่าในธุรกิจแต่ละประเภท ระบบ ERP ควรมีอะไร ฟีเจอร์ที่ช่วยให้คนทำงานได้ไวขึ้น คือแบบไหน และพัฒนาผ่านระบบ Odoo ออกมาเป็น BEECY ที่ครอบคลุมการทำงานหลากหลายส่วน มีโครงสร้างการเก็บข้อมูลที่ปลอดภัย
เกร็ดความรู้เพิ่มเติม: Odoo คือ Opensource ขนาดใหญ่ เป็นระบบที่ธุรกิจทั่วโลกยอมรับในมาตรฐานการใช้งาน และความปลอดภัย ทำให้นักพัฒนานิยมเลือกมาใช้สร้างระบบ ERP ของธุรกิจต่าง ๆ ฟีเจอร์หลักของ BEECY ตัวของ BEECY เราสามารถเปิดใช้งานผ่าน Web browser ได้เลย ดังนั้นไม่ว่าในทีมจะใช้อุปกรณ์อะไรในการทำงาน ก็สามารถทำงานด้วยกันได้แบบไม่มีข้อจำกัด โดยฟีเจอร์หลัก ๆ ของ BEECY จะครอบคลุมตั้งแต่ขั้นตอนการขายให้กับลูกค้า, การจัดการดูแลลูกค้า, การจัดซื้อสั่งของจากซัพพลายเออร์, และระบบบัญชีที่มาดูแลรายรับ รายจ่าย เชื่อมโยงทั้งธุรกิจ มาเริ่มที่ส่วนแรกกันเลย
1. ฟีเจอร์สำหรับฝ่ายจัดซื้อ ด้วยความเป็น ERP ทำให้ระบบแต่ละส่วนเชื่อมต่อถึงกัน ถ้าจัดซื้อต้องการสั่งซื้อสินค้า แค่มาที่เมนู Order เลือก Request for Quotation กดสร้าง New เพื่อสร้าง Quotation ใบใหม่ เลือก Vendor แล้วระบุสินค้าที่ต้องการขอราคา แล้วกดส่งอีเมลผ่านตัว BEECY ได้เลย (หรือต้องการพิมพ์ออกมาก็ได้เช่นกัน) ถ้ามีการคอนเฟิร์มเพื่อเปิด PO เรียบร้อย แล้วเป็นสินค้าที่นับสต็อก ระบบเค้าก็จะไปสร้างใบรับสินค้ารอไว้ให้เราต่อทันที
จุดที่น่าสนใจคือ เอกสารตัวนี้สามารถติดตามสถานะของเอกสารได้ ถ้าเราเปลี่ยนสถานะเป็น To Approve จะมีแถบแจ้งเตือนให้อนุมัติขึ้นมา เราสามารถตั้งเงื่อนไขได้ว่าอยากจะอนุมัติยังไง แล้วแต่โฟลวของแต่ละบริษัท เรามาตั้งเองได้ที่ Configuration เลือก Tier Defination หรือ Approvel Control ได้เลย (สามารถตั้งเงื่อนไขการอนุมัติได้หลายฝ่ายเลย บางที่อาจจะชื่อเมนูแตกต่างกันเล็กน้อย)
เราสามารถเลือกได้ว่าจะให้ใครเป็นคนแอพพรูฟ หรือจะแอพพรูฟกี่ขั้น เช่น ถ้าเป็นยอดต่ำกว่า 1,000,000 ให้หัวหน้าฝั่งจัดซื้ออนุมัติ แต่ถ้ายอดสูงกว่า 1,000,000 ต้องมี CEO อนุมัติอีกขั้นก่อนถึงจะดำเนินการต่อได้
2. ฟีเจอร์สำหรับฝ่ายขาย สามารถดู Sales Pipeline ผ่านมุมมองแบบ Kanban ที่เราสามารถลากการ์ด Lead ไปตามสเตตัสได้ง่าย ๆ เลย มีฟีเจอร์ซัพพอร์จสำหรับการตั้ง reminder สำหรับแต่ละ Lead เช่น โทรนัดคอนเฟิร์ม, นัดออนไลน์มีตติ้ง, หรือตามเอกสารใบเสนอราคา สามารถใช้ฟีเจอร์นี้ได้เลย
ส่วนการออก Quotation ก็ได้ง่ายมาก ในหน้าของ Lead แต่ละรายจะมีปุ่มให้สร้าง Quotation ใหม่ได้ทันที ซึ่ง Quotation จาก BEECY ก็ยืดหยุ่นรองรับการแบ่งชำระเงิน และการแปลงค่าเงิน เช่น ลูกค้าจ่ายมาเป็นเงินดอลลาร์ก็จะแปลงค่าเงินให้ตามธนาคารกลางในวันนั้น ๆ เลย
ตอนเราออกเอกสาร ถ้าเรามีข้อมูลการติดต่อของลูกค้าไว้อยู่แล้ว BEECY ก็จะดึงข้อมูลจากระบบหลังบ้านมาใส่ให้ได้เลย แปลว่าถ้ามีการซื้อซ้ำ ก็ไม่ต้องค้นแชทหรือเอกสารเก่า ๆ มากรอกใหม่ รวมไปถึงกดส่งอีเมลให้ลูกค้าได้จากใน BEECY ไม่ต้องเข้าออกหลายโปรแกรม (อีเมลอิงจากข้อมูลการติดต่อที่มีในรายชื่อเลย)
ติดต่อ BEECY เพื่อรับสิทธิ์ทดลองใช้งานฟรี 30 วัน แค่บอกว่ามาจาก The Growth Master คลิกที่นี่เลย! 3. ฟีเจอร์สำหรับระบบคลังสินค้า ระบบคลังจะบอกข้อมูลอย่างละเอียดว่าเรามีของเท่าไร แล้วจัดเก็บอยู่ที่ไหนบ้าง รวมถึงมีฟีเจอร์ที่ช่วย Forecast เพื่อประมาณการณ์คงเหลือสินค้าจะเป็นเท่าไร ส่วนนี้จะช่วยให้ทีมจัดซื้อวางแผนการสั่งซื้อได้ดีมากขึ้น เชื่อมต่อกับระบบของบัญชีบน BEECY หากมีการเปลี่ยนแปลงในคลังก็รองรับลงบันทึกบัญชีด้วย
ในตัวสินค้ายังสามารถตั้งค่าได้หลายแบบมาก ๆ โดยเราสามารถตั้งค่าให้เหมาะสมกับสินค้าแต่ละประเภทของเราได้ เช่น สินค้าที่เราต้องการนับสต็อก หรือสินค้าประเภทงานบริการ ระบบเค้าก็จะมีการปรับโฟลวให้เหมาะกับประเภทสินค้าที่เราเลือก เพื่อให้ยืดหยุ่นกับสินค้าและบริการแต่ละรูปแบบ
4. ฟีเจอร์สำหรับบัญชี จริง ๆ ต้องบอกว่าจุดของ BEECY คือ ระบบบัญชีที่ใช้ง่าย เพราะจะมีฟีเจอร์ที่ครอบคลุมงานบัญชี รวมถึงตัวช่วยกำหนดผังบัญชีให้ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับ SME ที่อาจจะไม่ได้มีพนักงานบัญชีประจำบริษัท ก็จะเริ่มต้นได้ง่ายมากขึ้น
BEECY จะดูแลครอบคลุมทั้งรายได้จากสินค้าขายได้ หรือว่ามีรายจ่ายจากการสั่งซื้อสินค้า รวมไปถึงการเบิกจ่ายของพนักงาน และการเงินส่วนอื่น ๆ ทำให้การประมาณการณ์ต่าง ๆ ทำได้ง่ายมากขึ้น
ที่สำคัญคือ ตัวรีพอร์ตของ BEECY จะช่วยลดงานบัญชีมาก ๆ เพราะ รายงานมีรายละเอียดที่ครบถ้วนถูกต้อง และรองรับการยื่นสรรพากรด้วย เช่น รายงานภาษีซื้อ ภาษีขาย หัก ณ ที่จ่าย และรายงานอื่น ๆ ประหยัดเวลาการเตรียมเอกสาร และช่วยป้องกันข้อผิดพลาดได้
5. ฟีเจอร์แดชบอร์ด นอกจากรายงานละเอียด ๆ แล้ว ยังมีฟีเจอร์แดชบอร์ดที่รวมข้อมูลให้ในหน้าเดียว เราสามารถปรับแต่ง และเลือกข้อมูลเฉพาะส่วนที่ต้องการดูได้ตามต้องการ
สำหรับฝ่ายบริหาร หรือหัวหน้าทีมที่อาจจะไม่ต้องลงลึกรายละเอียดมากแต่ต้องการเห็นภาพรวมได้ทันที ฟีเจอร์นี้จะตอบโจทย์มาก ๆ เพราะเข้าดูได้ทุกที่ แค่มีอินเทอร์เน็ต ไม่ต้องรอให้ใครสรุปรายเดือน
4. ฟีเจอร์อื่น ๆ ฟีเจอร์สำหรับย้ายข้อมูลคราวละมาก ๆ
พอทำงานกับระบบ ERP สิ่งที่หลายคนกังวลเลย เมื่อมันเป็นแหล่งเก็บข้อมูล การเพิ่ม การลด การย้าย หรือปรับข้อมูลคราว ๆ ละมาก ๆ อาจเป็นเรื่องยุ่งยาก
BEECY จะมีระบบสำหรับ Import และ Export ไฟล์ให้ เช่น เราต้องการลงสินค้า 100,000 SKU ก็สามารถอัปโหลดไฟล์ .csv หรือไฟล์ excel ได้เลย หรือต้องการย้ายรายชื่อลูกค้าจาก CRM ตัวเดิม ให้มาอยู่บน BEECY ก็สามารถทำได้ในรูปแบบเดียวกัน งานย้ายข้อมูลสำเร็จได้ในไม่กี่คลิก
สำหรับการ Export ด้วยความเป็นฐานข้อมูลรวมของบริษัท ดังนั้นในการ Export จะมีการตั้งค่าสำหรับผู้ใช้งานเฉพาะบางกลุ่มได้ ว่าใครบ้างที่สามารถนำข้อมูลออกไปได้ เพื่อป้องกันข้อมูลของบริษัทรั่วไหล
ฟีเจอร์สำหรับการสื่อสาร
มีระบบแชตที่รองรับการสื่อสารทั้งผ่านการแชตตัวอักษร การโทร และวิดีโอคอล กับคนในองค์กร และสามารถสร้างห้องมีตติ้งที่ส่งลิงก์ให้คนภายนอกองค์กร เช่น ลูกค้า คู่ค้า เข้ามาพูดคุยกันได้
ฟีเจอร์สำหรับปรับแต่งการใช้งาน
รองรับการใช้งานในภาษาไทย และภาษาอังกฤษ สามารถปรับ Layout ของโปรแกรมได้ว่าต้องการใช้รูปแบบแบบไหนให้ถนัดมือ (บางคนอาจจะคุ้นเคยกับการที่เมนูอยู่ด้านข้าง หรือต้องการตัวอักษรที่ใหญ่ขึ้น) รวมถึงการเลือกสีธีมให้สวยงามตามต้องการ ถ้าอยากเปลี่ยนเป็นสีของบริษัทก็ทำได้ทันที
แพ็กเกจราคา BEECY สามารถเลือกการจ่ายได้ว่าต้องการจ่ายแบบเป็นรายเดือน หรือรายปี ซึ่งทั้งสองแพลน สามารถใช้งานได้ครบทุกฟีเจอร์
รายเดือน ราคา 790 บาท/คน/เดือน
รายปี ราคา 490 บาท/คน/เดือน
โดยการจ่ายแบบรายปีจะเป็นการจ่ายแบบครั้งเดียว เช่น พนักงาน 10 คน จะจ่ายครั้งเดียว (10 คน x 12 เดือน) 58,800 บาท ถ้ามีการเพิ่มคนก็สามารถเข้าไปปรับเพิ่มเติมได้ในภายหลัง
หรือถ้าใครยังตัดสินใจไม่ได้ก็ ไปลองใช้ระบบเค้าดูก่อน ตอนนี้เค้าเปิดให้ลองใช้ได้ฟรี 15 วัน แต่พิเศษสำหรับใครที่ดูคลิปนี้ แค่แอดไลน์ Line: @BEECY หรือคลิกที่นี่เลย แล้วบอกกับทีมงานว่าติดตามมาจาก The Growth Master รับสิทธิ์ทดลองใช้งานฟรีเพิ่มไปเลยเป็น 30 วัน
สรุปทั้งหมด ทำไมควรใช้ BEECY 1. เป็นซอฟต์แวร์ อิงจากกระบวนการทำงานของคนไทย และประสบการณ์ในการพัฒนา ERP ของ Roots กว่า 10 ปี ดังนั้นแล้วตอบโจทย์การทำงานแน่นอน มีทีมซัพพอร์ตคอยดูแลให้
2. ใช้งานได้บนทุกอุปกรณ์ เพราะรันผ่าน Browser ไม่ต้องโหลดโปรแกรมอะไรมาเพิ่ม
3. วางฟีเจอร์มาตามโฟลวการทำงานในบริษัท ยืดหยุ่น ครอบคลุมทุกส่วน มีระบบแชทในตัว แรก ๆ อาจจะใช้เวลาเรียนรู้นิดหน่อย เพราะฟีเจอร์เยอะมาก แต่ถือว่าเป็นการลงทุนเวลาของเราในระยะยาวที่ เราได้เก็บทั้ง Data ที่สำคัญทุกจุด แล้วดึงออกมาใช้ได้ง่ายขึ้น สื่อสาร ทำงานกันได้เร็วขึ้น
4. มีระบบการ Import/Export ข้อมูล ทำให้การย้ายข้อมูลครั้งละมาก ๆ ทำได้ง่าย
5. ออกแบบโครงสร้างมาให้ใช้ได้ทั้ง Single Company และ Multi-Company ปกติถ้าซอฟต์แวร์ไม่ได้ซัพพอร์ตบริษัทที่มีบริษัทลูก เราจะต้องเสีย License แยกตามจำนวนบริษัทเลย ทำให้ค่าใช้จ่ายส่วนนี้บานปลาย หรือถ้ามาย้ายข้อมูลไปซอฟต์แวร์ตัวใหม่ที่ซัพพอร์ต Multi Company ทีหลัง ยิ่งบริษัทไหนเก็บข้อมูลเยอะ ก็ยิ่งย้ายลำบาก ดังนั้นการวางโครงสร้างการใช้งานซอฟต์แวร์ในบริษัทก็เป็นส่วนสำคัญ
6. ราคาเริ่มต้นเค้าน่ารักมาก ๆ แค่เดือนละ 490 บาทต่อคนต่อเดือน ปกติถ้าจะเอา ERP ไปใช้ในบริษัททีหนึ่งราคาอาจสูงถึง 7-8 หลัก แต่ BEECY มีราคาจับต้องได้ง่ายกว่า ทำให้ทุกธุรกิจตั้งแต่ SME ไปจนบริษัทใหญ่ ๆ เข้าถึงได้ระบบ ERP ง่ายกว่าเดิม
ส่งท้าย ERP คือระบบที่จะเข้ามาช่วยเราในการจัดการการทำงานทุกส่วนของบริษัท ทำให้เราทำงานได้ไวขึ้น ข้อมูลเป็นระเบียบมากขึ้น วิเคราะห์ได้ง่ายขึ้น เพราะอีกปัญหาคลาสิคสำหรับคนที่เริ่มทำ Digital Transformation คือ Data เดิม ๆ ที่เราเก็บมานาน ส่วนใหญ่ดิบมาก ๆ เอามาทำต่อได้ยาก ERP จะเข้ามาช่วยเราจัดการส่วนนี้ได้เป็นสัดเป็นส่วน
การวาง Infrastructure วางรากฐานการเก็บ Data ที่ดี คือจุดเริ่มต้น ทำให้เราหยิบข้อมูลไปใช้ได้ดีมากขึ้น แต่ละทีมทำงานได้เป็นระบบและต่อเนื่องกัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เริ่มได้เลย ตั้งแต่วันนี้
สำหรับใครที่สนใจใช้งาน BEECY อย่าลืมบอกว่ามาจาก The Growth Master เพื่อรับสิทธิ์ทดลองใช้ 30 วัน หรืออยากศึกษาเกี่ยวกับฟีเจอร์เพิ่มเติม ติดต่อได้ตามด้านล่างนี้เลย
Website: https://beecy.co
Facebook: https://www.facebook.com/beecy.platform
Line: @beecy
เบอร์โทร: 02 821 6656
ช่องทางอัปเดตซอฟต์แวร์กับ The Growth Master ติดตาม Youtube Channel ‘The Growth Master’ และ We Need TOOL Talk ได้ก่อนใคร ไม่พลาดทุกการแชร์ซอฟต์แวร์น่าใช้ที่จะทำให้การทำงานของคุณง่ายขึ้น
และช่องทางอัปเดตข่าวสารการตลาดที่สดใหม่
Facebook : The Growth Master
Facebook Group : TechTribe Thailand
Blockdit : The Growth Master
Line@ : bit.ly/2TFIdAR
===================================
สามารถให้กำลังใจพวกเราได้ผ่านการกดไลก์ กดแชร์ และกดติดตาม รวมไปถึงการสมัครใช้งานผ่านลิงก์ด้านบน โดย The Growth Master จะได้รับค่าแนะนำจากซอฟต์แวร์บางตัวเท่านั้นเมื่อมีการกดสมัครใช้งานซอฟต์แวร์นั้น ๆ