Service
Business Tech Stack ConsultantClickUp ConsultantSAP APITech ReviewEndlessloop ConsultantMarketing Service
Service
All Articles
Growth Trends
Growth Video
We Need Tool Talk
Startup Partners
Community
Advertise
ClickUp Course
Subscribe
🔥 Hot!
สอบถามทุกปัญหาเกี่ยวกับการสร้างธุรกิจด้านดิจิทัลที่นี่
Service
Business Tech Stack ConsultantClickUp ConsultantSAP APITech ReviewEndlessloop Consultant
Service
All Articles
Growth Trends
Growth Video
We Need Tool Talk
Startup Partners
Community
Advertise

software review

All in one click ด้วย Supermetrics ช่วยจัดเก็บ Data ของคุณแบบอัตโนมัติ

By
The Growth Master Team
November 8, 2020
Light
Dark
ส่งต่อเรื่องราวดีๆ
The Growth Master Team
The Growth Master Team

The Growth Master Team ผู้รักในการเรียนรู้ หลงใหลในเทคโนโลยี และแฮปปี้กับการเติบโต

นักเขียน

เลือกอ่านตามหัวข้อ

- ทำความรู้จักกับ Supermetrics และทำไมถึงต้องใช้ซอฟต์แวร์ตัวนี้
- วิธีการใช้งาน Supermetrics และฟีเจอร์ต่าง ๆ
- ข้อดีและข้อเสีย
- ราคาเมื่อต้องการสมัครสมาชิก
- สรุป
- ทำความรู้จักกับ Supermetrics และทำไมถึงต้องใช้ซอฟต์แวร์ตัวนี้
- วิธีการใช้งาน Supermetrics และฟีเจอร์ต่าง ๆ
- ข้อดีและข้อเสีย
- ราคาเมื่อต้องการสมัครสมาชิก
- สรุป

เพราะทุกนาทีมีค่า เวลาจึงเป็นเงินเป็นทอง

ในมุมมองของคนทำธุรกิจ การที่เราสามารถคิดค้นสินค้าใหม่ ๆ ออกมาได้เร็ว หรือเป็นรายแรก ๆ ในตลาดนั้น ย่อมได้เปรียบคู่แข่งเสมอ ไม่ว่าจะในเรื่องของส่วนแบ่งการตลาด ยอดขาย ชื่อเสียง หรือการเติบโตของธุรกิจ แล้วยิ่งในปัจจุบัน เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทค่อนข้างมาก ทำให้เทรนด์ต่าง ๆ มาไวไปไว ธุรกิจจึงต้องปรับตัวอยู่เสมอ เพราะใครที่สามารถปรับตัวได้ไวก็จะได้ไปต่อ

เชื่อว่าคงไม่มีใครหรือธุรกิจไหนอยากหายไป ดังนั้นพวกเรา The Growth Master เลยอยากมาแนะนำ Supermetrics หรือ Automation software ที่จะมาช่วยให้คุณประหยัดเวลาและใช้ทุกนาทีให้คุ้มค่าไปกับการพัฒนาธุรกิจ

ทำความรู้จักกับ Supermetrics

ซอฟต์แวร์ที่จะมาช่วยให้คุณประหยัดเวลาได้มากถึง 30 ชั่วโมงต่อเดือน

จะรวบรวมข้อมูลสรุปผลการดำเนินงานแต่ละที ต้องกดเว็บนู้น เข้าเว็บนี้ copy paste วนไป แถมยังต้องเอามาทำแผนภูมิหรือกราฟต่าง ๆอีก หากคุณเป็นคนหนึ่งที่รู้สึกว่าใช้เวลาในการจัดการกับข้อมูลและขั้นตอนเหล่านี้เยอะเกินไป  และอยากนำเวลาตรงนั้นไปโฟกัสกับการแก้ปัญหา คิดกลยุทธ์ใหม่ ๆ หรือสร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจเพื่อให้ธุรกิจสามารถอยู่รอดและเติบโต คุณอาจเป็นคนนึงที่ต้องให้ Supermetrics เข้ามาช่วย  

ภาพจาก Supermetrics

‍

ทำไมถึงต้องมี Supermetrics

หากเราต้องการเชื่อม Data source ที่ไม่ใช่แพลตฟอร์มเดียวกันกับ Google อย่าง Facebook Ads หรือ Instagram Ads เราจำเป็นต้องมีตัวกลางสำหรับดูข้อมูล insight เหล่านั้น ซึ่ง Supermetrics นี่แหละ ที่สามารถช่วยเราได้

Supermetrics คือเครื่องมือที่เป็นตัวกลางช่วยรวบรวมข้อมูล สถิติต่าง ๆ จากหลากหลาย Data sources รวมเข้ามาไว้ที่เดียว ไม่ว่าจะใส่ใน Google Sheets, Excel, Data Studio, Big Query, API, หรือ Uploader ก็ได้ทั้งนั้น ทั้งนี้เพราะเค้าออก Product มาหลากหลายให้ผู้ใช้ได้เลือกใช้กันตามวัตถุประสงค์

ถึงการใช้งานภายในจะแตกต่างกันไปตามแต่ละ Product แต่อย่างไรก็ดี สิ่งหนึ่งที่ทุก Product มีเหมือนกันคือ การการรวมข้อมูลมาไว้ในที่เดียว ดังนั้นในบทความนี้ เราเลยจะขอโฟกัส Supermetrics for Google Sheets อย่างเดียวนะคะ

นักการตลาดบางคนอาจจะเคยได้ยิน Supermetrics กันมาบ้างแล้ว เพราะเจ้าตัวนี้ค่อนข้างเป็นที่นิยมเลยทีเดียว การันตีด้วยยอดใช้งานจากนักการตลาดกว่า 500,000 คน จาก 13,000 บริษัท ใน 120 กว่าประเทศ รวมถึงมีบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Nestlé, Warner Brothers, L’ORÉAL, Canon, Dyson เป็นลูกค้าด้วย

เริ่มใช้งาน Supermetrics ได้ที่นี่

ใช้งานง่าย โอนย้ายได้ดั่งใจ

ด้วยความที่ซอฟต์แวร์นี้เป็นโปรแกรมเสริม จึงไม่ได้มีการติดตั้งที่ซับซ้อน เพียงเข้ามาในเว็บไซต์ของ Supermetrics for Google Sheets หรือที่ลิงก์ แปะลิงค์ และกดติดตั้ง(Install) เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย

พอเราเปิด Google Sheets ขึ้นมา และไปที่แถบ Add-ons ตัวเลือก Supermetrics ก็จะขึ้นมาให้อัตโนมัติ แล้วเราแค่กด Launch sidebar แถบเครื่องมือก็จะขึ้นมาด้านขวามือให้เราได้เริ่มใช้กันเลย





ขั้นต่อไปเราก็แค่เลือก Data source ที่เราต้องการดึงข้อมูลมา เลือก account ที่ต้องการดู(กรณีมีหลายaccount) ตรง Select views เลือกช่วงเวลาตรง Select dates และเลือก metrics หรือตัวชี้วัดตรง Select metrics ได้เลย

สมมติเราต้องการดูประสบการณ์บนเว็บของผู้เข้าชมเว็บไซต์ ว่าเค้าเข้าไปกี่หน้า หน้าละกี่นาที เพื่อนำมาปรับปรุงและเพิ่ม traffic ภายในเว็บให้ดียิ่งขึ้น เราก็สามารถดูได้จาก Google Analytics และเลือก metrics ที่เกี่ยวข้องได้ เช่น Users, Pageviews, Bounce Rate, Average Session Per User เป็นต้น

หรือถ้าเราอยากรู้ว่าเงินที่เสียไปกับการทำการตลาดของ Facebook Ads นั้นคุ้มค่ามั้ย ก็อาจปรับ Metrics เป็น Reach, Link Clicks, Landing Page Views, Cost per Landing Page View เป็นต้น

จริง ๆ แล้วพวก metrics ที่มีให้เลือกนั้นมีเยอะมาก และจะแตกต่างกันตาม Platform ที่เราต้องการดึงข้อมูล ดังนั้นไม่ต้องกังวลว่าหากเราจะใช้ Platform นี้ เราสามารถเลือก Metrics ไหนได้บ้าง เพราะโปรแกรมจะจัดมาให้เราอยู่แล้ว แต่สิ่งที่นักการตลาดอย่างเรา ๆควรคำนึงถึง คือการเลือกดู Metrics ให้ตรงกับจุดประสงค์ที่ต้องการมากกว่า

นอกจากเลือก metrics ได้แล้ว ซอฟต์แวร์ยังให้เราสามารถกำหนด rows และ columns เองได้ด้วยตรง Split by Dimensions ยกตัวอย่างเช่น แถวแนวนอน เราอยากจะดูตามช่วงเวลา ดูตาม Account ID, Product ID, หรือ user’s region ก็สามารถทำได้ รวมถึงสามารถเพิ่มความพิเศษได้โดยใช้ Filter และ Options สำหรับการค้นหาอื่น ๆเพิ่มเติม

อ่านเกมขาด ได้ภาพช่วย

ข้อมูลที่ดึงมานั้น ไม่ได้ถูกจำกัดในแค่รูปแบบตาราง แต่ถ้าต้องการดูในรูปแบบของแผนภูมิหรือกราฟ เพื่อเห็นภาพใหญ่เปรียบเทียบตามช่วงเวลาก็ทำได้เช่นกัน

 

ภาพจาก Supermetrics
การนำข้อมูลดิบมาแปลงเป็นในรูปแบบแผนภูมิต่าง ๆ หรือ Data Visualization จะช่วยเพิ่มคุณค่าของข้อมูล เพราะเราจะสามารถมองเห็นแนวโน้มของข้อมูลมากขึ้น แถมยังสามารถดึงความสนใจจากลูกค้าของเราได้ด้วยในกรณีที่เราต้องนำข้อมูลเหล่านี้ไปทำรายงานนำเสนอแก่ลูกค้า

งานสวยโดดเด่นได้ ด้วยTemplate

ถ้าหากใครนึกไม่ออก บอกไม่ถูกว่าควรจะจัดรูปแบบ report ยังไง หรือยังขาดอะไรไปมั้ย โปรแกรมก็มี template มาให้ดาวน์โหลดใช้กัน โดยเข้าไปดูได้ที่ Open Template Gallery จากมุมซ้ายบนใน Sidebar หรือไปที่ Add-ons > Supermetrics > Template Gallery ก็ได้

Template ที่มีให้ แบ่งหมวดหมู่สำหรับ PPC(Pay-per-click), Analytics, SEO, หรือ Social Networks ทำให้ค้นหาแบบที่ต้องการได้ง่าย ตรงตามวัตถุประสงค์อีกด้วย


ตั้งเวลาล่วงหน้า ข้อมูลอัพเข้ามาอัตโนมัติ  

การที่ได้ข้อมูลสดใหม่ และ real-time ถือเป็น painpoint ของการเก็บรวบรวมข้อมูลของเหล่านักการตลาดทั้งหลาย แต่ถ้าให้มานั่งดึงข้อมูลทุกวัน ทุกครึ่งวัน หรือเป็นรายชั่วโมง เดาได้ว่าคงไม่ค่อยมีใครเอนจอยกับการทำอะไรแบบนี้เท่าไหร่ แถมยังเสียเวลามาก ๆ อีกด้วย

แต่ความกังวลเหล่านี้จะหมดไป หากเราใช้ฟีเจอร์ Schedule refresh & emailing ที่สามารถตั้งเวลาให้โปรแกรมดึงข้อมูลให้เราอัตโนมัติ และสามารถให้ข้อมูลเหล่านั้นส่งเข้าอีเมลล์ด้วยก็ได้


เราสามารถตรวจสอบ Queries ที่ขอไปได้ โดยตารางจะมีบอกรายละเอียดว่าดึงเมื่อไหร่, refresh ครั้งล่าสุดเมื่อไหร่, status การดึง, ช่วงเวลาที่เลือก เป็นต้น


‍

เริ่มใช้งาน Supermetrics ได้ที่นี่

ข้อดี ข้อเสีย

อย่างที่ได้เกริ่นไปในตอนแรกแล้วนั้นว่า Supermetrics ดีตรงที่ช่วยให้เราจัดการกับข้อมูลได้เร็วขึ้น ทำให้เรามีเวลาไปโฟกัสกับการปรับเปลี่ยนหรือสร้างกลยุทธ์ใหม่เพื่อแก้ปัญหาได้เร็วและทันท่วงที ซึ่งจุดเด่นตรงนี้จะมีประโยชน์ค่อนข้างมากสำหรับธุรกิจที่อาศัยความรวดเร็วและมีการแข่งขันค่อนข้างสูง

นอกจากเรื่องความเร็วแล้ว Supermetrics เค้าเคลมตัวเองในเรื่องของความน่าเชื่อถือของข้อมูลด้วย เพราะข้อมูลที่ดึงมาได้นั้น เป็นข้อมูลจริง เกิดขึ้นจริง และมีความแม่นยำสูง ลดความผิดพลาดจากการดึงข้อมูลด้วยมือในแบบเดิม ๆไปได้ ส่วนเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล ทางซอฟต์แวร์จะไม่มีการเก็บข้อมูลใด ๆของเราในช่วงขั้นตอนการดึงข้อมูล และทุกอย่างจะถูกเข้ารหัส(encrypt)ไว้อย่างแน่นหนา ป้องกันข้อมูลรั่วไหล ดังนั้นเราจึงมั่นใจตรงจุดนี้ได้เลย

ไม่ว่าใครก็ใช้ Supermetrics

ทีนี้ ถ้าพูดถึงเรื่องประโยชน์การนำไปใช้ด้านอื่น ๆ

ในกรณีที่คุณเป็นเอเจนซี่ นอกจาก Supermetrics จะช่วยให้คุณลดเวลาในการจัดการข้อมูล แล้วนำเวลานั้นไปโฟกัสกับการคิด recommendation และ solution สำหรับลูกค้า Template ของโปรแกรมยังช่วยให้การทำ report ที่ต้องทำส่งลูกค้านั้นง่ายขึ้น สะดวกขึ้น ข้อมูลถูกจัดสวยงาม อ่านง่าย ถูกใจลูกค้าอย่างแน่นอน

แต่หากคุณเพิ่งเริ่มทำธุรกิจและกำลังเติบโต อาจมีการทดลองใช้กลยุทธ์ต่าง ๆเพื่อปรับหาแผนที่เหมาะกับธุรกิจ ซอฟต์แวร์นี้แหละ จะช่วยย่นเวลาและวิเคราะห์ผลว่ากลยุทธ์ไหนที่ให้ผลดีที่สุด

หรือถ้าคุณเป็นองค์กร เชื่อได้เลยว่าปริมาณข้อมูลในแต่ละวัน คงมากมายมหาศาลเลยทีเดียว ดังนั้นซอฟต์แวร์ตัวนี้แหละจะช่วยทำให้กระบวนการมันง่ายขึ้น  ทุกคนในองค์กรเข้าถึงข้อมูลได้ไวและ real-time อีกด้วย  

ในด้านของ eCommerce ซอฟต์แวร์จะช่วยให้ข้อมูลตัวเลข ที่บ่งชี้ว่าช่องทางการขายไหนสามารถให้ยอดขายได้ดีที่สุด แคมเปญไหนเวิคหรือไม่เวิค หรือผลิตภัณฑ์ประเภทไหนที่คนกำลังให้ความสนใจ เป็นต้น

ข้อเสียนิดหน่อย หน่วง ๆ เล็กน้อย

ส่วนข้อเสียที่เด่น ๆเลยคือ ความเร็วในการประมวลผล โดยเฉพาะตอนเปิดเรียกใช้ sidebar หรือดึงข้อมูล ฉะนั้นเราอาจจะต้องใจเย็นนิดนึง อีกอย่างนึงคือการที่ซอฟต์แวร์แยก product ไว้อย่างชัดเจน เช่น Supermetrics for Google Sheets, Supermetrics for Excel, หรือ Supermetrics for Data Studio ทำให้ไม่สามารถทำงานข้ามโปรแกรมได้ อาจต้องรอจนหมดรอบบิลก่อน

ของดี มีราคา

หากเรากดลงทะเบียนใช้ Supermetrics ในตอนแรก จะเห็นได้ว่าเค้ามีแบบทดลองให้ใช้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไร แต่เราจะใช้ได้เพียง 14 วันเท่านั้น ดังนั้นหากใครตกหลุมรักและอยากใช้น้องไปยาว ๆ อาจต้องยอมลงทุนกันหน่อย

เริ่มต้นกันด้วยแบบ Pro $99/เดือน โดยเราจะสามารถเชื่อมต่อกับ Data sources ได้ 33 แห่ง Refresh ข้อมูลได้เป็นรายสัปดาห์ รีเควสได้ 1,500 Queries ต่อวัน และได้ rows สูงสุดถึง 1,000,000 rows ต่อ query โดยทั่วไปใช้ $99 ก็ครอบคลุม Data sources ส่วนใหญ่ที่ใช้กันในไทยแล้ว อาจจะพิจารณาเป็นเรื่องจำนวนข้อมูลที่คุณจะต้องเก็บในประกอบการตัดสินใจมากกว่า

ถัดมาเป็นแบบ Super Pro $199/เดือน เพิ่มความพิเศษโดยสามารถเชื่อมต่อกับ Data sources ได้ 42 แห่ง refresh ข้อมูลได้เป็นรายวันและรีเควสได้ 3,000 Queries ต่อวัน แถมยังตั้งเวลาให้ส่งรีพอร์จผ่านทางอีเมลได้ด้วย

แบบสุดท้าย สำหรับ Enterprise ที่ต้องติดต่อกับฝ่ายขายของซอฟต์แวร์โดยตรงเรื่องของราคา ส่วนด้านฟังก์ชั่น จะสามารถเชื่อมต่อกับ Data sources ได้มากถึง 48 แห่ง เรียกได้ว่าครอบคลุมแทบจะทุกแพลตฟอร์มเลย แถม Refresh ข้อมูลได้เป็นรายชั่วโมงอีกด้วย ส่วนจำนวน Rows ต่อ query และจำนวน Queries ต่อวัน สามารถปรับได้ตามต้องการ

“Price is what you pay. VALUE is what you get” - Warren Buffet

ถึงแม้ราคาเริ่มต้นนั้นค่อนข้างจะแพง แต่ถ้าหากเทียบกับประโยชน์ของการนำข้อมูลที่ได้ไปต่อยอด สร้างกลยุทธ์ใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มมูลค่ายอดขายที่จะได้ในอนาคต นี่อาจเป็นการลงทุนที่คุ้มซะยิ่งกว่าคุ้มเลยก็ว่าได้

เริ่มใช้งาน Supermetrics ได้ที่นี่

สรุป

Supermetrics คือตัวกลางที่ช่วยให้เราสามารถดึงข้อมูลเชิงลึกจากหลากหลาย Data sources ในกรณีที่ Platform ต่าง ๆ ไม่ได้เชื่อมต่อกัน ฟังดูซับซ้อน แต่ตัวโปรแกรมมีขั้นตอนการใช้งานที่ไม่ซับซ้อนเลยหากได้ลองใช้ และนอกจากนี้ Supermetrics ยังช่วยให้ขั้นตอนการเก็บรวบรวมข้อมูลนั้นง่ายดายยิ่งขึ้น ทำให้เราประหยัดเวลาในการทำงานในส่วนนี้ได้ และไปโฟกัสกับขั้นตอนอื่น ๆที่เพิ่มคุณค่าให้ตัวธุรกิจได้มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นการคิดกลยุทธ์ การแก้ปัญหาต่าง ๆที่เกิดขึ้น หรือการช่วยคิดหา solutions ให้ลูกค้า เป็นต้น

ช่องทางอัปเดตซอฟต์แวร์กับ The Growth Master

ติดตาม Youtube Channel ‘The Growth Master’ และ We Need TOOL Talk ได้ก่อนใคร ไม่พลาดทุกการแชร์ซอฟต์แวร์น่าใช้ที่จะทำให้การทำงานของคุณง่ายขึ้น

และช่องทางอัปเดตข่าวสารการตลาดที่สดใหม่

Facebook : The Growth Master

Facebook Group : TechTribe Thailand

Blockdit : The Growth Master

Line@ : @thegrowthmaster

‍

สามารถให้กำลังใจพวกเราได้ผ่านการกดไลก์ กดแชร์ และกดติดตาม รวมไปถึงการสมัครใช้งานผ่านลิงก์ด้านบน โดย The Growth Master จะได้รับค่าแนะนำจากซอฟต์แวร์บางตัวเท่านั้นเมื่อมีการกดสมัครใช้งานซอฟต์แวร์นั้น ๆ

‍



ส่งต่อเรื่องราวดีๆ

ไม่พลาดทุกข้อมูลที่ช่วยให้ธุรกิจคุณเติบโตได้เร็วยิ่งขึ้น

ติดตามได้หลากหลายช่องทางที่คุณสะดวก ไม่ว่าจะเป็น e-mail, line หรือ youtube
Subscribe
แหล่งเรียนรู้สำหรับคุณและธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนบนโลกดิจิทัลด้วยการใช้ศาสตร์ Growth, เครื่องมือด้านเทคโนโลยี, การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการสร้างทีม
connect@thegrowthmaster.com
Privacy Policy
Terms & Agreement
User Data Deletion
Services
Business Tech Stack
Advertise
Tech Review
Subscribe
Category
Software Review
All Articles
Growth Trends
Company
We're Hiring
Internship Program
Community
Contact
Channels
Facebook
Line OA
Youtube
© Copyright 2020 W JAMES Company Limited All Rights Reserved
"Grow Like a Master"