ยิงแอดเฟสบุ๊ค ทำอย่างไร? รวมทุกอย่างที่คุณต้องรู้ มือใหม่ก็สร้างยอดขายให้ปังได้

ยิงแอดเฟสบุ๊ค ทำอย่างไร? รวมทุกอย่างที่คุณต้องรู้ มือใหม่ก็สร้างยอดขายให้ปังได้
Light
Dark
Cartoon Tanaporn
Cartoon Tanaporn

มนุษย์เป็ดเขียนคอนเทนต์ ชอบเขียนมากกว่าพูด เสพติดการมองพระจันทร์เป็นชีวิตจิตใจ และหลงใหลในช่วงเวลา Magic Hour ของทุกวัน

นักเขียน

ยิงแอดเฟสบุ๊ค เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้การขายของออนไลน์ประสบความสำเร็จ สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย สร้างกำไรและยอดขายได้อย่างถล่มทลาย แต่เจ้าของธุรกิจมือใหม่หลายคนก็อาจจะยังไม่รู้ว่า ยิงแอดเฟสบุ๊ค ต้องทำอย่างไร และมีเคล็ดลับอะไรบ้างที่ช่วยให้การ ยิงแอดเฟสบุ๊ค ประสบความสำเร็จจนทำให้ธุรกิจเติบโตมากขึ้น

บทความนี้ The Growth Master ก็เลยรวบรวมทุกสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับการ ยิงแอดเฟสบุ๊ค มาให้แล้ว ซึ่งจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง ไปดูกันต่อได้เลย

ไม่พลาดทุกข้อมูลที่ช่วยให้ธุรกิจคุณเติบโตได้เร็วยิ่งขึ้น

ติดตามได้หลากหลายช่องทางที่คุณสะดวก ไม่ว่าจะเป็น e-mail, line หรือ youtube
Subscribe

Boost Post และยิงแอดเฟสบุ๊ค ต่างกันอย่างไร?

มือใหม่หลายคนอาจจะกำลังเข้าใจผิดว่า Boost Post กับการยิงแอดเฟสบุ๊ค คือแบบเดียวกัน แต่จริง ๆ แล้ว การโฆษณาทั้ง 2 รูปแบบนี้มีจุดที่แตกต่างกันด้วย เราเลยสรุปความแตกต่างของ Boost Post และ ยิงแอดเฟสบุ๊ค มาให้คุณเรียบร้อยแล้ว

Boost Post

Boost Post คือ การโปรโมตโพสต์ของเราให้เข้าถึงผู้คนจำนวนมากขึ้น โดยเราสามารถกด Boost Post จากหน้า Facebook Page ได้ทันที โดยที่ไม่จำเป็นต้องสมัคร Business Account ก็ได้ ซึ่งการแสดงผลของการ Boost Post ก็จะมีหน้าตาเหมือนกับการยิงแอดเฟสบุ๊คเลย

แต่ข้อจำกัดของ Boost Post คือ เราสามารถกำหนดเป้าหมายได้แค่การสร้างการรับรู้ของแบรนด์ (Brand Awareness), การมีส่วนร่วม (Engagement) และการทำให้คนส่งข้อความเข้ามา (Message) เท่านั้น และส่วนใหญ่ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นยอด Like, Share และ Comment

ยิงแอดเฟสบุ๊ค (Facebook Ads)

ยิงแอดเฟสบุ๊ค (Facebook Ads) คือ วิธีการยิงโฆษณาที่เราสามารถปรับแต่ง Metric ได้หลากหลายกว่า Boost Post เช่น การกำหนดวัตถุประสงค์ (Objective), งบประมาณ (Budget), กลุ่มเป้าหมาย (Target), พื้นที่ที่เราอยากให้โฆษณาไปแสดง (Placement) เป็นต้น

โดยจะเห็นได้ว่าเมื่อเรายิงแอดเฟสบุ๊ค เราจะสามารถกำหนดทุกอย่างได้อย่างละเอียดกว่าการ Boost Post ซึ่งจะเหมาะมากสำหรับธุรกิจทุกขนาด ไม่ว่าจะเป็น ขนาดเล็ก ขนาดกลาง หรือใหญ่ ที่อยากหาฐานลูกค้าใหม่ รวมถึงขยายฐานลูกค้าเดิมให้กว้างขึ้นไปอีก การยิงแอดเฟสบุ๊คจึงเข้ามาช่วยให้การเสียเงินโฆษณามีประสิทธิภาพมากกว่าการ Boost Post นั่นเอง

ข้อดีของการยิงแอดเฟสบุ๊คที่จะช่วยธุรกิจของคุณให้เติบโตและมียอดขายมากขึ้น

  • เพิ่ม Brand Awareness – Facebook ถือว่าเป็นโซเชียลมีเดียที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลก  แต่การโพสต์คอนเทนต์ลงบนหน้าเพจก็อาจทำให้คนกลุ่มเล็ก ๆ เห็นโพสต์ของเราได้เท่านั้น ซึ่งการ ยิงแอดเฟสบุ๊ค ก็จะช่วยทำให้โพสต์ของเราเข้าถึงผู้คนในวงกว้างได้ง่ายและรวดเร็วกว่าการโพสต์คอนเทนต์ลงบนเพจเฉย ๆ
  • ขยายฐานเป้าหมายเดิม – จริง ๆ กลุ่มเป้าหมายของเราอาจมีมากกว่าที่เราคิด การยิงแอดเฟสบุ๊คสามารถเข้ามาช่วยให้เราทำการ Test โฆษณาไปยังกลุ่มคนต่าง ๆ เพื่อขยายฐานเป้าหมายเพิ่มขึ้นอีกได้
  • เพิ่มโอกาสให้ปิดการขายได้ง่ายยิ่งขึ้น – เมื่อโพสต์ของเราเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น ถ้าหากพวกเขาสนใจสินค้าหรือบริการของเรา ก็ทำให้เรามีโอกาสในการปิดการขายได้มากขึ้นนั่นเอง
  • สามารถใช้งานได้ในธุรกิจทุกขนาด – ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก ขนาดกลาง หรือขนาดใหญ่ ก็สามารถใช้การ ยิงแอดเฟสบุ๊ค ช่วยเพิ่มโอกาสในการขาย รวมถึงบรรลุวัตถุประสงค์ที่เราต้องการได้ง่ายกว่าเดิม
  • สามารถวัดผลและวิเคราะห์ข้อมูลได้ – เราสามารถดูผลลัพธ์แล้วนำมาทำการวัดผลและวิเคราะห์ของการยิงแอดด้วย Metric ที่หลากหลายได้ ไม่ว่าจะเป็น Reach, Impression, Cost per Results รวมถึง Metric อื่น ๆ ตามที่เราต้องการ ซึ่งถ้าหากว่าผลลัพธ์ไหนที่ไม่เป็นไปตามที่ใจต้องการ เราก็สามารถปรับแต่งโฆษณาใหม่ได้ทันเวลา (ซึ่งการวัดผลและวิเคราะห์ข้อมูลเป็นหนึ่งในหัวใจของการทำ Growth Hacking ด้วย)

ขั้นตอนยิงแอดเฟสบุ๊ค

ยิงแอดเฟสบุ๊ค สามารถยิงได้ทั้ง Account ส่วนตัว หรือบัญชี Facebook Business Manager (ตัวจัดการธุรกิจบนเฟสบุ๊ค) ถ้าหากใครยังไม่มี Facebook Business Manager คุณสามารถทำตามวิธีด้านล่างนี้ได้เลย

1. เข้าไปที่เว็บไซต์ https://business.facebook.com ถ้าหากคุณมีบัญชี Facebook อยู่แล้ว ก็สามารถ Login เข้าไปได้เลย แต่ถ้ายังไม่มีให้สมัครก่อน แล้วทำการตั้งค่าข้อมูลที่ระบบต้องการ 

2. เมื่อทำทุกอย่างตามขั้นตอนของระบบเสร็จแล้ว คุณก็จะสามารถเข้าไปยังหน้า Facebook Business Manager ของคุณได้ทันที จากนั้นให้ทำการสร้างบัญชีโฆษณา โดยไปที่ Business Settings (คลิกที่สัญลักษณ์ 3 ขีด คล้ายแฮมเบอร์เกอร์)

3. ในขั้นตอนนี้ถ้าเป็นผู้ใช้ใหม่ของ Facebook Business Manager ระบบก็จะมีหน้าต่างเด้งขึ้นมาให้เราเลือกสร้างเพจหรือขอสิทธิ์ในการเข้าถึงเพจและบัญชีโฆษณาของธุรกิจต่าง ๆ จากนั้นก็ให้ตั้งค่าข้อมูลตามที่ระบบต้องการ

4. ในขั้นสุดท้าย เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่สำคัญนั่นก็คือ ขั้นตอนการชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ โดยให้เลือกที่ Ad Account Settings > Open Business Payments > กรอกข้อมูลบัตรเครดิต เพียงเท่านี้เป็นอันเสร็จสิ้น

หลังจากที่เรามีบัญชี Facebook Business Manager เรียบร้อยแล้ว จากนั้นให้ไปที่ Ads Manager เพื่อทำการยิงแอดเฟสบุ๊คได้เลย โดยขั้นตอนการยิงแอดเฟสบุ๊คจะมีอยู่ 3 ส่วนหลัก ๆ ด้วยกัน ประกอบไปด้วย Campaign, Ad Set และ Ads

Campaign

1. กำหนดวัตถุประสงค์ที่เราต้องการ โดยที่ปัจจุบัน (ปี 2022) Facebook จะแบ่งออกมาเป็น 3 วัตถุประสงค์ใหญ่ ๆ ด้วยกัน คือ Awareness, Consideration และ Conversion

Awareness (เน้นทำให้ธุรกิจเป็นที่รู้จัก)

  • Brand Awareness – เพิ่มการรับรู้ให้กับแบรนด์ หรือทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น
  • Reach – เพิ่มการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุดด้วยการให้เห็นซ้ำบ่อยที่สุด

Consideration (เน้นสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมาย)

  • Traffic – เพิ่มยอดผู้เข้าชมเว็บไซต์ที่เราระบุ URL เอาไว้
  • Engagement – เพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ที่พบเห็นโฆษณา โดยการกด Like, Share, Comment
  • App Installs – ทำให้กลุ่มเป้าหมายกดติดตั้งแอปพลิเคชัน ใช้ได้ทั้ง iOS และ Android และโฆษณาประเภทนี้จะแสดงเฉพาะบนโทรศัพท์เท่านั้น
  • Video Views – เพิ่มยอดเข้าชมวิดีโอที่เราโพสต์ให้กับคนที่มีโอกาสกดดูมากที่สุด
  • Lead Generation – เพื่อเก็บข้อมูลของคนที่มีโอกาสจะกลายมาเป็นลูกค้าของเรา เช่น ชื่อ, ที่อยู่, เบอร์โทรศัพท์, อีเมล
  • Messages – กระตุ้นให้เกิดการส่งข้อความมาถามข้อมูลหรือรายละเอียดของสินค้าและบริการ

Conversion (เน้นให้เกิดการกระทำบางอย่างที่เราต้องการ)

  • Conversions – เพิ่มยอดการกระทำบางอย่างที่เราต้องการให้คน ๆ นั้นทำ เช่น กดลงทะเบียน, กดเพิ่มสินค้าลงตะกร้า, กดซื้อ เป็นต้น (คุณอาจจะต้องมีการติด Pixel บนเว็บไซต์ด้วย เพื่อให้ระบบสามารถ Track การกระทำของคนที่เข้ามาในเว็บไซต์ได้ เช่น ทำการ Register เสร็จสิ้นแล้ว)
  • Catalog Sales – เพิ่มยอดขายของสินค้าที่อยู่ในหน้า Catalog บน Facebook ของธุรกิจ
  • Store Traffic – เพิ่มยอดผู้เข้าชมร้านค้า เหมาะกับธุรกิจที่มีร้านค้าจริง ๆ และมักจะใช้ยิงให้กับคนที่อยู่บริเวณใกล้เคียง

2. เมื่อรู้แล้วว่าเราต้องการ ยิงแอดเฟสบุ๊ค เพื่อวัตถุประสงค์อะไร โดยในที่นี้เราจะขอยกตัวอย่างเป็น Traffic เมื่อเลือกแล้วให้กดตั้งชื่อ Campaign, Ad Set และ Ad (ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถเปลี่ยนชื่อได้ หรือว่าจะตั้งชื่อภายหลังก็ได้เช่นกัน) จากนั้นกด Continue

3. ขั้นตอนต่อไปให้เราทำการ กำหนดงบประมาณ (Budget) ที่เราต้องการใช้ในการ ยิงแอดเฟสบุ๊ค สำหรับแคมเปญนั้น โดยหลัก ๆ ในการกำหนด Budget เราจะสามารถเลือกได้ 2 อย่าง คือ Daily Budget หรือ Lifetime Budget

Daily Budget (งบประมาณรายวัน)

Daily Budget คือ Budget ที่เราต้องการใช้ ยิงแอดเฟสบุ๊ค ในแต่ละวัน เช่น เรากำหนดว่าจะให้แคมเปญนี้ใช้เงิน 600 บาท Facebook ก็จะพยายามทำให้เกิดผลลัพธ์ตามวัตถุประสงค์ที่เรากำหนดไว้ภายใต้งบ 600 บาท ที่เรากำหนดไว้

  • ข้อดีของ Daily Budget – ต้นทุนของโฆษณาจะไม่ผันผวน (ระบบจะสามารถใช้งบไม่เกินจากที่ตั้งไว้ 25%) รวมถึงมีความสะดวกในการเปิด-ปิดแคมเปญโฆษณา หรือเลื่อนวันสิ้นสุดแคมเปญ เพราะการเปิด-ปิดแคมเปญโฆษณาจะไม่ทำให้ยอดการใช้จ่ายเปลี่ยนไป
  • ข้อเสียของ Daily Budget – การตั้งงบแบบนี้จะมีความยืดหยุ่นน้อย เพราะถ้าหากวันไหนที่เรายิงแอดเฟสบุ๊คแล้วได้ผลลัพธ์ที่ดีในวันนั้น ก็อาจจะทำให้ไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่ควรจะเป็นเนื่องจากงบประมาณมีจำกัด ในขณะเดียวกันถ้าหากวันไหนที่ผลลัพธ์แอดของเราไม่ค่อยดี แต่ระบบก็ยังคงจะบังคับให้ใช้เงินตามเป้าที่เรากำหนดไว้ นี่ก็อาจทำให้ต้นทุนต่อผลลัพธ์ของเราอาจสูงขึ้นได้
  • ข้อควรระวังของ Daily Budget – ระบบจะไม่กำหนดวันสิ้นสุดแคมเปญมาให้ ถ้าหากเราไม่ได้กำหนดวันสิ้นสุดเอาไว้ แคมเปญนี้ก็อาจจะวิ่งต่อไปเรื่อย ๆ จนทำให้เราต้องเสียเงินไปจำนวนมากก็ได้

Lifetime Budget (งบประมาณตลอดอายุการใช้งาน)

Lifetime Budget คือ Budget ที่เราจะใช้ ยิงแอดเฟสบุ๊ค ตลอดช่วงเวลาที่กำหนด ซึ่งในแต่ละวันจะทำให้ยอดใช้จ่ายไม่เท่ากันในแต่ละวัน เพราะถ้าวันไหนที่โฆษณาของเรามี Performance ที่ดี โฆษณาตัวนั้นก็อาจจะใช้เงินมาก แต่ถ้าวันไหนที่ Performance ไม่ดี ระบบก็จะใช้เงินน้อยนั่นเอง

  • ข้อดีของ Lifetime Budget – มีความยืดหยุ่นสูงในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและสร้างผลลัพธ์ตามวัตถุประสงค์ เพราะโฆษณาจะสามารถทำงานและแสดง Performance ออกมาได้อย่างเต็มที่ รวมถึงค้นหาโอกาสที่ดีที่สุดให้กับโฆษณาของเรา โดยที่ไม่มีงบประมาณรายวันมาเป็นเพดานที่ตั้งเอาไว้
  • ข้อเสียของ Lifetime Budget – ไม่สามารถวางแผนงบประมาณเป็นรายวันได้ เพราะความผันผวนขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ที่ได้ในแต่ละวัน ซึ่งก็อาจทำให้ยากต่อการวางแผน

Ad Set

หลังจากที่กำหนดวัตถุประสงค์มาแล้วว่าจะ ยิงแอดเฟสบุ๊ค ไปเพื่ออะไร ในขั้นตอนนี้เราจะมากำหนดค่าในส่วนของ Ad Set กัน โดยสิ่งที่เราอยากให้คุณโฟกัสหลัก ๆ จะมีด้วยกัน 3 ส่วน คือ Budget & Schedule, Audience และ Placement

  • Budget & Schedule – เป็นการกำหนดช่วงระยะเวลาของแคมเปญนั้น หรือถ้าหากใครที่อยากให้ Budget มาแข่งกันเองใน Ad Set ก็สามารถกำหนดจำนวนเพิ่มได้ในส่วนนี้

  • Audience – เป็นตัวเลือกในการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งสามารถเลือกกำหนดได้หลายแบบ เช่น Custom Audience (เป้าหมายที่กำหนดเอง) หรือ Lookalike Audience (เป้าหมายที่คล้ายกัน) ซึ่งเราจะสามารถกำหนดได้ทั้งหมดเลย เช่น อายุ, เพศ, ตำแหน่งที่ตั้ง, ความสนใจ, ภาษา เป็นต้น 
  • Placement – เป็นการกำหนดพื้นที่ที่เราอยากให้โฆษณาของเราไปแสดง ซึ่งจะมีทั้งแบบให้ Advantage+ Placements (ระบบจัดวางตำแหน่งให้โดยอัตโนมัติ) หรือแบบ Manual Placements (เรากำหนดเองว่าจะให้ไปแสดงที่ไหน) ซึ่งจะมีทั้ง Facebook, Facebook Network, Messenger และ Instagram

Ads

ในขั้นตอนนี้จะเป็นขั้นตอนที่ให้เราเลือกว่าเราจะทำการยิงโฆษณาของเราไปยังเพจไหน พร้อมกับการเลือกโพสต์, รูปภาพ, แคปชัน ที่เราจะทำการ ยิงแอดเฟสบุ๊ค ซึ่งตรงนี้จะมีให้เลือกด้วยกัน 3 แบบ คือ

  • Create Ad – ให้เราสร้างโพสต์ใหม่ที่ไม่มีในหน้าเพจ เพื่อใช้ในการลงโฆษณา
  • Use Existing Post – การเลือกโพสต์ที่มีอยู่แล้วบนหน้าเพจ มาใช้ลงโฆษณา
  • Use Creative Hub Mockup – เลือกใช้แบบจำลองของสินค้าแทนรูปภาพจริง

สำหรับใครที่ทำขั้นตอนนี้เสร็จแล้ว ก็สามารถกดปุ่ม Publish เพื่อ ยิงแอดเฟสบุ๊ค ออกไปได้เลย หลังจากนั้นเราก็ค่อยมาดูว่าผลลัพธ์ของโฆษณาที่ยิงไปจะเป็นอย่างไรกันบ้าง ถ้าหากผลลัพธ์ยังออกมาไม่เป็นที่น่าพอใจ ให้เราลองกลับมาปรับค่าต่าง ๆ ใหม่อีกครั้ง 

เช่น การใช้งบประมาณอาจจะน้อยเกินไป, กลุ่มเป้าหมายที่เรายิงไปในครั้งแรก อาจจะไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายที่แท้จริงของเรา หรือรูปแบบคอนเทนต์ (โพสต์, รูปภาพ, แคปชัน) อาจจะยังไม่มีประสิทธิภาพมากพอ เราก็ควรที่จะต้องหมั่นทำการสังเกต วัดผล และวิเคราะห์อย่างสม่ำเสมอด้วย เพื่อให้การ ยิงแอดเฟสบุ๊ค ของเราออกมาได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่ามากที่สุด โดยที่ไม่เสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์นั่นเอง

5 เคล็ดลับง่าย ๆ ยิงแอดเฟสบุ๊ค ให้ประสบความสำเร็จ

1. เลือกยิงแอดเฟสบุ๊คให้ถูกวัตถุประสงค์

ในการ ยิงแอดเฟสบุ๊ค แน่นอนว่าแต่ละธุรกิจต่างก็มีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง Brand Awareness, Consideration หรือ Conversion ก็ตาม และเพื่อสร้างผลลัพธ์ได้ตรงตามความต้องการ เราก็ต้องเลือกวัตถุประสงค์ให้ถูกต้องด้วย เพราะถ้าเราเลือกวัตถุประสงค์ในการยิงแอดเฟสบุ๊คผิด ค่าแอดก็จะแพงขึ้นด้วย 

2. มีการกำหนดกลุ่มเป้าหมายและกลุ่มลูกค้าตรงกับที่เราต้องการ

ก่อนที่เราจะทำการยิงแอดเฟสบุ๊ค เราควรที่จะต้องมีการทำการบ้านให้ดีก่อนว่าสินค้าและบริการของเราเหมาะกับลูกค้ากลุ่มใดมากที่สุด ลูกค้าต้องการอะไร มีความสนใจอะไรบ้าง เพื่อที่ว่าเราจะได้ทำให้กลุ่มเป้าหมายแคบลง ซึ่งถ้าหากเรายิงโฆษณาไปหากลุ่มลูกค้าแบบกว้าง ๆ คนที่เห็นโฆษณาอาจจะไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายที่แท้จริงของเรา ก็อาจทำให้เสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์ และไม่ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการกลับมา (ถ้าต้องการทำ Lookalike Audience ควรที่จะมีกลุ่มเป้าหมาย 1,000 คนขึ้นไป เพื่อให้ได้ข้อมูลมากพอสำหรับการทำ Lookalike)

3. เลือกใช้ Media สำหรับการยิงแอดให้ดี

หลังจากที่เรามีการกำหนดกลุ่มเป้าหมายแล้ว สิ่งต่อมาที่เราต้องทำคือ ทำรูปภาพหรือแคปชันโฆษณา (Media) ให้โดนใจพวกเขามากยิ่งขึ้น ซึ่งถ้าหากเราสามารถทำในสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายอยากเห็น หรือดึงดูดใจพวกเขาได้ ก็จะสามารถสร้างผลลัพธ์ที่เราต้องการกลับมาให้มีประสิทธิภาพได้นั่นเอง

4. ติดตามและวัดผลของโฆษณาอย่างสม่ำเสมอ

หลังจากที่ ยิงแอดเฟสบุ๊ค ออกไป เราก็ควรที่จะคอยติดตามและวัดผลอยู่เสมอ เพราะถ้าหากเราพบว่าโฆษณาที่ยิงไปมี Performance ที่ดีมาก ๆ เราก็จะได้รู้ว่ากลุ่มเป้าหมายแบบนี้ ชอบการโฆษณาแบบนี้ หรือในทางกลับกัน ถ้าหากโฆษณาตัวนั้นมี Performance ที่ไม่ดี เราจะได้หยุดโฆษณาตัวนั้นได้ทัน แล้วมาดูว่ามีตรงไหนบ้างที่ควรปรับปรุง เช่น คำในรูปภาพอาจจะไม่ดึงดูดลูกค้ามากพอ, รูปอาจจะยังสื่ออารมณ์ได้ไม่ดี ไปจนถึงการเลือกวัตถุประสงค์และกลุ่มเป้าหมายของการโฆษณาที่อาจจะยังไม่ใช่ที่สุด

5. การจ้างเอเจนซี่หรือผู้เชี่ยวชาญทางด้านยิงแอดเฟสบุ๊ค

สำหรับธุรกิจไหนหรือมือใหม่คนใดก็ตามที่อาจจะยังไม่เชี่ยวชาญด้าน ยิงแอดเฟสบุ๊ค แต่อยากได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว และไม่อยากทดลองยิงโฆษณาด้วยตัวเอง การจ้างเอเจนซี่หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการยิงแอดเฟสบุ๊คโดยเฉพาะก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ 

เพราะถ้าหากเป็นมือใหม่ที่ยังขาดทักษะในการยิงแอดอย่างถูกต้อง ในช่วงแรกอาจจะเป็นเรื่องยากและมักสร้างปัญหาให้บ่อยครั้ง เช่น ไม่รู้ว่าจะเลือกงบประมาณอย่างไร หรือต้องใช้ภาพและแคปชันแบบไหนถึงจะดี รวมถึงปัญหาอื่น ๆ อีกด้วย ซึ่งคุณก็ต้องติดตาม ดูแล และวัดผลด้วยตัวเอง แต่ถ้าจ้างเอเจนซี่ คุณก็จะได้มืออาชีพเข้ามาช่วยงานให้สำเร็จตามเป้าหมายได้เลย เพราะพวกเขามีประสบการณ์ในการยิงแอดเป็นอย่างดี คุณจะได้มีเวลาไปพัฒนาธุรกิจในด้านอื่น ๆ อีกด้วย

สำหรับใครที่สนใจและกำลังมองหาเอเจนซี่ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการยิงแอดเฟสบุ๊ค The Growth Master ก็มีทีมผู้เชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะ สามารถติดต่อเข้ามาพูดคุยหรือปรึกษาเราได้เลย ตอนนี้

สรุปทั้งหมด

การยิงแอดเฟสบุ๊ค ถือเป็นอีกหนึ่งเทคนิคสำคัญในการทำ Digital Marketing มาก ๆ ที่สามารถช่วยสร้างผลลัพธ์ตามที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะเป็น แบรนด์สามารถเข้าถึงกลุ่มคนจำนวนมากได้ง่าย, ขยายฐานลูกค้าให้ได้มากกว่าเดิม, เพิ่มโอกาสปิดการขาย ไปจนถึงสามารถสร้างยอดขายได้อย่างถล่มทลายเลย 

โดยเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกคนที่อ่านบทความนี้จะมีความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการยิงแอดเฟสบุ๊คมากขึ้นนะคะ ขอให้ทุกธุรกิจเติบโตและสร้างผลลัพธ์ได้อย่างใจหวังนะคะ :)


ไม่พลาดทุกข้อมูลที่ช่วยให้ธุรกิจคุณเติบโตได้เร็วยิ่งขึ้น

ติดตามได้หลากหลายช่องทางที่คุณสะดวก ไม่ว่าจะเป็น e-mail, line หรือ youtube
Subscribe

เราช่วยธุรกิจของคุณให้เติบโตอย่างยั่งยืนบนโลกดิจิทัลด้วยการใช้ศาสตร์ Growth, เครื่องมือด้านเทคโนโลยี, การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการสร้างทีม

ติดตามข้อมูลการตลาด
Growth Hacking ได้เลยทีนี่
มากกว่า 2,000 บริษัทติดตาม The Growth Master ตอนนี้
ไปที่หน้า Subscribe