HR (Human Resources) หรือฝ่ายทรัพยากรบุคคลนั้นถือว่าเป็นฝ่ายที่ทำงานใกล้ชิดกับพนักงานในองค์กรที่สุด ดังนั้นจึงต้องคอยมีการเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงประสิทธิภาพระบบให้ดีขึ้นอยู่เสมอ
ซึ่งในปัจจุบัน Blockchain ก็ถือว่าเป็นเทคโนโลยีคลื่นลูกใหม่ที่เข้ามามีบทบาทในด้านทรัพยากรบุคคลมากยิ่งขึ้น และมีข้อดีหลายอย่างมาก ทั้งในด้านกระบวนการ Recruit พนักงาน, ระบบ Payroll, ระบบ Cyber Security, ช่วยปรับภาพลักษณ์ขององค์กรให้ดูมีความทันสมัยขึ้น ไปจนถึงเตรียมความพร้อมสู่การทำงานบน Metaverse ได้อีกด้วย
ในบทความนี้เราก็จะพาคุณไปพูดคุยถึง 5 ข้อดีเมื่อ HR นำ Blockchain มาใช้ในองค์กรกัน จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันต่อได้เลย
กระบวนการ Recruit พนักงานมีความถูกต้องมากขึ้น
ด้วยจุดเด่นของ Blockchain ที่สะดวก รวดเร็ว มีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ ช่วยลดปัญหาการโกง หรือการปลอมแปลงต่าง ๆ ทำให้ Blockchain เข้ามาช่วยให้กระบวนการ Recruitment ของ HR มีความถูกต้องแม่นยำมากขึ้น เพราะข้อมูลทุกอย่างจะสามารถตรวจสอบได้ง่าย และมีความน่าเชื่อถือสูง
อย่างเช่น การตรวจสอบประวัติและคุณสมบัติของผู้สมัคร ไปจนถึงใบ Certification ที่ผู้สมัครแต่ละคนแนบมาใน Resume หรือ CV ของตัวเอง ซึ่งในปัจจุบันก็มีหลายมหาวิทยาลัย เช่น University of Nicosia, Astana IT University รวมถึงอีกหลายมหาวิทยาลัยในประเทศฝรั่งเศส ที่ได้มีการ Validate ใบ Certification ไว้บน Blockchain แล้ว
โดยทางฝั่ง HR ก็สามารถเข้าไปตรวจสอบเองได้ทันทีว่าใบ Certification นั้นเป็นของจริง ทำให้ช่วยลดขั้นตอนและค่าใช้จ่ายในการติดต่อทางมหาวิทยาลัย เพื่อตรวจสอบและขอเอกสารยืนยันอีกรอบ นอกจากนี้ ยังรวมถึงการตรวจสอบ Achievement ที่ผู้สมัครได้ทำในบริษัทเก่าด้วย เช่น ถ้าผู้สมัครบอกว่าเคยมีส่วนร่วมทำให้บริษัทมีผลประกอบการดีขึ้น 30% นายจ้างก็สามารถเข้าไป Validate ข้อมูลนั้นบน Blockchain ข้อมูลนี้ก็จะยิ่งช่วยให้ HR มั่นใจในผลงานและความสามารถของผู้สมัครคนนั้นยิ่งขึ้น
ครอบคลุมระบบ Payroll
แน่นอนว่าเมื่อพูดถึง Blockchain หลายคนก็จะนึกถึงเรื่องการเงินและคริปโทเคอร์เรนซีมาเป็นอันดับแรก ๆ ซึ่ง Blockchain กับระบบ Payroll มีความสัมพันธ์กันโดยเฉพาะกับองค์กรที่ทำงานแบบ Global หรือมีการจ้างงานจากพนักงานจากทั่วทุกมุมโลก
โดย Blockchain นอกจากจะช่วยลดขั้นตอนต่าง ๆ ของสถาบันการเงิน (เช่น ธนาคาร) ในการโอนเงินข้ามประเทศได้แล้ว ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายทางด้าน Admin ในการจัดการด้าน Payroll ของพนักงาน รวมถึงช่วยประหยัดค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมด้านการเงินต่าง ๆ อีกด้วย
นอกจากนี้ บางองค์กรอาจมีการสร้างคริปโทเคอร์เรนซีเป็นของตัวเองโดยเฉพาะ เพื่อใช้ในระบบ Payroll การจ่ายเงินเดือนหรือโบนัสพนักงาน รวมไปถึงยังให้พนักงานสามารถนำคริปโทของบริษัทไปใช้จ่ายด้านอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวันได้เหมือนเงินจริง ๆ ซึ่งปัจจุบันก็มีหลายประเทศที่กฎหมายอนุมัติให้นำคริปโทเคอร์เรนซีมาใช้ซื้อของแทนเงินสดได้แล้ว และเราเชื่อว่าในอนาคต องค์กรส่วนใหญ่ก็จะทำแบบเดียวกันอย่างแน่นอน
ระบบ Cyber Security รัดกุมมากขึ้น
นอกเหนือจากการจัดการข้อมูลส่วนตัวของพนักงานที่มีความละเอียดอ่อนแล้ว ทีม HR ก็ยังมีหน้าที่รับผิดชอบในการดำเนินการธุรกรรมทางการเงินขององค์กรบางส่วนด้วย เช่น ด้านการจ่ายเงินเดือนพนักงาน, การเบิกจ่ายด้านสวัสดิการต่าง ๆ, ด้านค่าใช้จ่ายการดูแลสุขภาพ รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ทำให้บางครั้งข้อมูลในส่วนของแผนก HR ก็เสี่ยงต่อการถูกโจมตีจากผู้ไม่ประสงค์ดีได้
ทีม HR จึงต้องหาวิธีการป้องกันและรักษาความปลอดภัยทางด้าน Cyber Security มากขึ้น เพื่อป้องกันปัญหาการถูกแฮ็กหรือการถูกฉ้อโกงต่าง ๆ ซึ่งปัจจุบัน Blockchain ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในวิธีการแก้ปัญหาด้าน Cyber Security ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะ Blockchain มีการเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ (Decentralize) ไม่ได้รวมอยู่ที่ใดที่หนึ่ง
ดังนั้นโอกาสที่ข้อมูลจะถูกแก้ไขก็เป็นไปได้ยาก แม้บุคคลนั้นจะมี Access ให้เข้าถึงข้อมูล แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามอำเภอใจได้ ทำให้ HR มั่นใจได้ทันทีเลยว่า Blockchain จะช่วยป้องกันทั้งการฉ้อโกงจากภายในและการโจมตีข้อมูลจากภายนอกได้เป็นอย่างดี
ปรับภาพลักษณ์ขององค์กรให้ทันสมัยขึ้น
Blockchain ถือว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่และมาแรงมาก โดยสถิติจาก Findstack บอกว่าในปี 2026 ธุรกิจ Blockchain จะมีการเติบโตขึ้นอีก 73% ถ้าหากตอนนี้บริษัทไหนที่มีการนำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในองค์กร ก็จะช่วยปรับภาพลักษณ์ขององค์กรให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าเริ่มจากทางฝั่งของ HR ก่อน เพราะก่อนที่ผู้สมัครจะเปลี่ยนมาเป็นพนักงานในบริษัท ด่านแรกที่เขาต้องเจอก็คือ HR ไม่ว่าจะเป็น การศึกษาวัฒนธรรมองค์กร, การอ่าน Overview ของบริษัท, Job Description, สวัสดิการ ไปจนถึงขั้นตอนการสัมภาษณ์
ลองนึกดูว่า ถ้าองค์กรแสดงให้ผู้สมัครเห็นตั้งแต่แรกเลยว่าบริษัทของคุณมีการนำ Blockchain เข้ามาใช้ ภาพที่ผู้สมัครคนนั้นมองบริษัทคุณก็จะเปลี่ยนไปด้วย เพราะปัจจุบันบริษัทไหนที่นำ Blockchain มาเป็นส่วนหนึ่งในองค์กร หลายคนก็จะมองว่าเป็นบริษัทที่ทันสมัยและอยากร่วมงานด้วย ซึ่งผู้สมัครที่มีความสามารถหลายคนก็นิยมเลือกที่ทำงานจากภาพลักษณ์บริษัทเป็นหลัก เมื่อเขาเห็นว่าบริษัทของคุณมีการใช้ Blockchain ชื่อบริษัทของคุณก็อาจจะขึ้นมาอยู่อันดับต้น ๆ ในใจเขาด้วยอย่างแน่นอน
เตรียมความพร้อมสู่การทำงานบน Metaverse ในอนาคต
Blockchain เป็นเทคโนโลยีเบื้องหลัง Metaverse ที่สำคัญเลยก็ว่าได้ เพราะการที่ Metaverse จะเกิดขึ้นมาได้นั้นจะต้องมีระบบกระจายศูนย์อำนาจ (Decentralization) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่สุดของ Blockchain
ในอนาคตอันใกล้นี้ เราจะเห็นได้ว่า Metaverse จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงอะไรหลาย ๆ อย่าง รวมถึงเข้ามาเป็นตัวช่วยปลดล็อกการเกิด Use Case ใหม่ ๆ ของ Blockchain ในโลกการทำงานที่ชัดเจนขึ้นไปอีกด้วย เพราะ Metaverse จะเกิดขึ้นจริงได้ ก็ต่อเมื่อมีการใช้งาน Blockchain อยู่ในโลกใบนั้น ซึ่งในอนาคตจะเห็นเป็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ
ตัวอย่าง Use Case ที่จะเกิดขึ้นบนโลกการทำงานบน Metaverse เช่น หลายบริษัทจะต้องมีการสร้างตึกออฟฟิศของตัวเองใน Metaverse ทำให้ยกระดับการทำงานแบบ Remote Working มากขึ้น เพราะพนักงานทุกคนเข้ามาเจอหน้า ทำงาน ประชุมร่วมกันในนั้นได้ แม้ว่าในโลกแห่งความเป็นจริงจะกระจายกันอยู่ยังส่วนต่าง ๆ ของโลกก็ตาม เป็นต้น
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง:
สรุปทั้งหมด
สำหรับ HR บริษัทไหนที่อยากเป็นผู้นำเหนือคู่แข่ง อยากดึงดูดพนักงานที่มีความสามารถจากทั่วโลกมาทำงานกับคุณ พร้อมทั้งอยากทำให้ระบบจัดการทรัพยากรบุคคลมีความปลอดภัย ราบรื่น และมีการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การเริ่มนำ Blockchain มาเป็นส่วนหนึ่งในองค์กรตั้งแต่วันนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีมากที่จะปูทางสู่การเติบโตขององค์กรในอนาคตที่มั่นคงอย่างแน่นอน
อย่าลืมว่า Blockchain ก็เป็นเทคโนโลยี เมื่อขึ้นชื่อว่าเทคโนโลยีแล้วทุกอย่างจะมีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ถ้าไม่เริ่มตั้งแต่วันนี้ คุณก็อาจจะช้ากว่าคู่แข่งก็ได้ ดังนั้นเริ่มวันนี้เลย เพื่อการเติบโตที่ดีกว่าในอนาคต