The Growth Master Team
The Growth Master Team ผู้รักในการเรียนรู้ หลงใหลในเทคโนโลยี และแฮปปี้กับการเติบโต
นักเขียน
จริงอยู่ที่เครื่องมือดิจิทัล ช่วยให้การทำงานง่ายขึ้น แต่การเรียนรู้วิธีใช้เครื่องมือเหล่านั้น มันไม่เห็นจะง่ายเลย! เชื่อว่าทุกคนต้องเคยเจอ คำโปรยโฆษณาซอฟต์แวร์หรือแอปพลิเคชัน ‘ที่จะเข้ามาทำให้ชีวิตคุณง่ายและสะดวกสบายขึ้น’ ใช่ไหมล่ะ ไม่ว่าจะเป็นซอฟต์แวร์จัดการเอกสาร ซอฟต์แวร์ช่วยการสื่อสาร ซอฟต์แวร์วางแผนงาน และอีกหลายซอฟต์แวร์ที่ใช้ในออฟฟิศ แต่กว่าคุณจะใช้โปรแกรมเหล่านั้นเป็น คุณต้องเสียเวลาไปอีกหลายชั่วโมง หรือบางทีก็เป็นวัน ๆ เพื่อที่จะเรียนรู้วิธีใช้ และเข้าถึงศักยภาพของเหล่าซอฟต์แวร์หน้าใหม่ก่อนที่จะใช้งานได้จริง
และจากที่ปัจจุบันนี้หลายบริษัทมีการทำงานกันคนละที่ การติดต่อกันภายในองค์กรเลยหนีไม่พ้นต้องยกแพลตฟอร์มการสื่อสารมาไว้บนออนไลน์ ถ้าสื่อสารผ่านแอปพลิเคชัน Line ที่ทุกคนใช้ในชีวิตประจำวัน อาจเกิดเป็นการทับซ้อนระหว่างช่วงในเวลางานและนอกเวลางานได้ เหมือนเลิกงานแล้วแต่ก็ยังได้รับข้อความจากหัวหน้าอยู่เลย ดังนั้น เพื่อเป็นการแยกพื้นที่ทำงานจากพื้นที่ส่วนตัว หลายองค์กรเลยต้องมีแพลตฟอร์มแยกในการสื่อสารสำหรับทำงาน
เป็นเหตุให้ต้องมานั่งทำความรู้จักกับซอฟต์แวร์ตัวใหม่เพิ่ม หน้าตาก็ไม่คุ้น ใช้งานก็ยากเย็น เสิร์ชหาวิธีใช้ก็ยังไม่เข้าใจ แต่ดันไม่มีใครช่วยสอนอีก
จะดีแค่ไหนถ้าแพลตฟอร์มสื่อสารที่บริษัทของคุณ หน้าตาเหมือนแอปพลิเคชันที่คุณคุ้นเคยเป็นอย่างดี แถมยังเข้าใช้ทุกวันจนแทบจะหลับตาเล่นได้เลยล่ะ?
Workplace ตัวกลางเชื่อมต่อการสื่อสารในบริษัท ที่พัฒนาโดย Facebook
ภาพจาก Workplace Workplace คืออะไร ? Workplace คือเครื่องมือติดต่อสื่อสารที่เชื่อมโยงทุกคนในบริษัทของคุณเข้าด้วยกัน แม้ว่าพวกเขาจะทำงานกันคนละที่ก็ตาม Workplace เป็นซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นโดยผู้ผลิต Facebook ทำให้มีฟีเจอร์ที่ทุกคนคุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็นฟีดข่าว กลุ่ม แชท ห้อง การเผยแพร่วิดีโอถ่ายทอดสด และอีกหลายฟีเจอร์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อมาทดแทนพื้นที่การทำงานแบบเก่า
“ราวกับยกทั้งบริษัทมาไว้บนออนไลน์ สร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เพราะมันทั้งใช้ง่าย สะดวก ครบวงจร” ด้วยข้อดีที่จัดเต็มขนาดนี้ ทำให้เจ้าซอฟต์แวร์ Workplace เข้าตาหลายองค์กรยักษ์ใหญ่จนนำไปใช้กัน ไม่ว่าจะเป็น Walmart, Airasia, Booking.com, WHO, Heineken, Spotify, Domino’s, Starbucks, Nestle, Familymart, Agoda ซึ่งตอนนี้มียอดผู้ใช้แบบเสียค่าบริการถึง 5 ล้านกว่าบัญชีเลยทีเดียว
บัญชี Workplace กับ บัญชี Facebook เกี่ยวกันไหม ?
หลายคนคงตั้งคำถามว่า ผู้ผลิตเดียวกันแบบนี้บัญชีเฟซบุ๊กฉันต้องไม่ปลอดภัยแน่เลย ยิ่งใครที่โพสต์บ่นเรื่องที่ทำงานไว้ คงเสียวหลังวาบกันหน่อยละ
ใจเย็นก่อนทุกคน ถึงแม้เค้าจะเป็นผู้ผลิตเดียวกัน แต่ 2 ซอฟต์แวร์นี้มันคือคนละตัวกันเลย ต้องสมัครบัญชีแยกต่างหาก ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะใช้อีเมลล์ของบริษัท เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวเลย ที่ทำงานไม่มายุ่งเกี่ยวแน่นอน
ทุกการสื่อสาร ไม่มีตกหล่นด้วย Workplace เลือกดูข้อมูลและอัปเดตข่าวสารจากแถบเมนู
เริ่มกันที่แถบเมนูที่พบได้อย่างง่ายดายเมื่อเข้ามาในซอฟต์แวร์ เพื่อให้เราเลือกว่าจะดูฟีดข่าวทั่วไป หรือฟังก์ชั่นอื่น ๆ ที่ Workplace ใส่มาสำหรับองค์กร ได้แก่
Knowledge Library แหล่งรวมข้อมูลของบริษัทที่เรามักจะค้นหากันเป็นประจำ Value, Mission ขององค์กร นโยบาย ข่าวสารหรือการแนะนำต่าง ๆ ที่จะไม่เปลี่ยนแปลงบ่อย ๆ Directory ฟีเจอร์สมุดหน้าเหลืองขององค์กร รวบรวมบุคลากร ตำแหน่ง ทีมที่อยู่ และข้อมูลติดต่อ ให้คุณได้เสิร์ชหาง่าย ๆEvents กิจกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในบริษัท ตั้งแต่ประชุมใหญ่ เป็นทางการ นัดเจอลูกค้า ไปจนพบปะสังสรรค์ทั่วไปภายในองค์กร Follow Coworkers กดติดตามผู้ร่วมงาน เพื่อให้ทราบข่าวสาร กิจกรรมที่ทำ จะได้รู้ความคืบหน้าว่าไปถึงไหนแล้ว Org Chart บอร์ดแผนผังองค์กรในบริษัท ที่จะบอกลำดับการทำงาน และสมาชิกแต่ละฝ่ายตั้งแต่ระดับสูงไล่ลงมา (เฉพาะผู้ใช้แบบ Advance)หน้าฟีด ที่เป็นมากกว่าแค่ฟีดข่าว ในหน้าฟีดข่าวทั่วไปของเฟซบุ๊ก แต่ละโพสต์จะมีการแนบสิ่งต่าง ๆ ให้เห็นภาพ หรือแทรกรายละเอียดสำคัญ ๆ มากขึ้น พอเป็นโพสต์ของ Workplace แน่นอนว่ามันต้องไม่ธรรมดา การสร้างโพสต์ใน Workplace จะสามารถประยุกต์ได้มากขึ้นไปอีก
Beyond a Post ในฟีเจอร์โพสต์ที่มีลูกเล่นมากกว่าเฟสบุ๊กโพสต์ปกติ ได้แก่ การปรับรูปแบบตัวอักษร H1, H2, ข้อความปกติ ตัวหนา ตัวเอียง, การติดแท็กในโพสต์เพื่อจัดหมวดหมู่ ที่ภายหลังสามารถเข้าไปดูโพสต์ในแต่ละหมวดของแท็ก, การแนบไฟล์เอกสารไปกับโพสต์สูงสุดถึง 6 ไฟล์ต่อโพสต์, การทำเช็คลิสต์ รวบรวมรายการที่ต้องจัดการ, การตั้งโพลล์ สำรวจความเห็นเพื่อการตัดสินใจร่วมกันในทีม, การสร้างโพสต์ Q&A ตอบคำถามในคอมเมนต์ แต่ละคำตอบสามารถกด +1หรือ -1 ดันอันดับขึ้นลง สำหรับคำถามที่ถูกใจหรือสำคัญ
Schedule Post สมมติว่าคุณมีสิ่งที่ต้องประกาศ แต่ว่าวันที่ต้องแจ้งดันเป็นวันที่คุณลางาน คุณสามารถร่างโพสต์ให้เสร็จ แล้วตั้งค่าเวลาให้ประกาศนั้นโพสต์อัตโนมัติเองได้เลย แต่ถ้ายังร่างไม่เสร็จ ก็สามารถบันทึกแบบร่างเอาไว้เอาก่อนได้เช่นกัน
การชมเชยจะทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานเพิ่มสูงขึ้น12% โพสต์ความสำเร็จเป็นอีกหนึ่งตัวช่วย ไว้ชื่นชมทีมของคุณเมื่อบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ การฉลองเล็กๆบนหน้าจอ จะส่งผลดีและเป็นกำลังใจให้ทีมของคุณในการทำงานต่อไป
Customed Feed ฟีดข่าวของ Workplace ถูกขับเคลื่อนด้วยระบบ AI ขั้นสูง ที่ปรับแต่งมาให้เฉพาะแต่ละบัญชีผู้ใช้ ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลสำคัญจะถูกส่งมอบอย่างทันเหตุการณ์ และปราศจากข้อมูลรบกวนอื่น ๆ
ภาพจาก workplace
ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ Keep in touch ได้ จะ Work from home หรือ Anywhere but home ก็ไม่หวั่น เพราะ Workplace จะทำให้ทุกที่กลายเป็นที่ทำงาน และทำให้ทุกคนรู้สึกเหมือนอยู่ใกล้กันแค่เอื้อมด้วย 3 ฟีเจอร์หลัก ๆ
Group การสร้างกลุ่มเพื่อแบ่งการทำงานเป็นทีม หรือโปรเจ็กต์ ให้ได้มีพื้นที่ส่วนตัวของสมาชิกในทีม ที่ไม่ได้จำกัดแค่ในองค์กร เพราะคุณสามารถสร้างกลุ่มข้ามบริษัท ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าหรือซัพพลายเออร์ ก็สามารถทำงานร่วมกันจากทางไกลบนแพลตฟอร์มที่ปลอดภัยของ Workplace
ภาพจาก workplace
นอกจากเรื่องงาน การสร้างกลุ่มยังสามารถนำไปใช้รวบรวมผู้ที่มีความเห็น ความสนใจคล้าย ๆ กันมาไว้ในที่เดียว ให้ได้แลกสนทนา แลกเปลี่ยนความเห็น ราวกับคลับเล็ก ๆ ภายในบริษัท ส่งเสริมความแน่นแฟ้นเป็นอันหนึ่งเดียวกัน
Communication หนึ่งสิ่งที่การทำงานขาดไม่ได้เลยคือการสื่อสาร หลายบริษัทมีการใช้แพล็ตฟอร์มเพื่อแยกในการสื่อสาร แต่สำหรับ Workplace เค้าได้รวมทุกการเชื่อมต่อมาไว้หมดแล้ว ทั้งแชท คอลเสียง วีดีโอคอลกลุ่ม ไปจนไลฟ์ถ่ายทอดสด* (เฉพาะผู้ใช้แบบ Enterprise) ให้ทั้งองค์กรได้ทราบข่าวสารและให้ความสนใจแบบเรียลไทม์ กระชับทุกคนในองค์กรให้ใกล้กันแม้ตัวจะไกลภาพจาก workplace
Events สร้างกิจกรรม นัดหมายเพื่อรวมกลุ่มกัน ไม่ว่าจะเป็นทั้งบนออนไลน์ อย่าง Virtual meeting หรือกิจกรรมในชีวิตจริง ๆ อย่างการ พรีเซ็นต์โปรเจ็กต์ ออกทริป Outing เป็นต้นIntegration ผสานข่าวสารภายนอกและเชื่อมต่อเครื่องมือการทำงาน ในกลุ่มที่สร้างขึ้น คุณสามารถใส่ Integration เพิ่มแหล่งข่าวระดับโลก เช่น Bloomberg, Harvard Business Review, Insider, Reuters เข้ามาในหน้าฟีดของทีม เป็นการเปิดรับข่าวสารหรือบทความดีๆจากภายนอก ให้คนในทีมทราบกันอย่าทั่วถึง
หลังจากเชื่อมต่อข้อมูลจากภายนอกแล้ว คุณยังสามารถให้ Workplace เชื่อมต่อกับเครื่องมืออื่น ๆ ที่คุณใช้งานอยู่แล้วภายในออฟฟิศ ไม่ว่าจะเป็น Office 365, G Suite, Dropbox, Salesforce หรือ SharePoint และอีกกว่า 50 บริการคลาวด์ ที่จะทำให้การโยกย้ายเอกสารการทำงานเป็นไปได้ง่ายมากขึ้น
ภาพจาก workplace ฟีเจอร์ห้ามพลาดสำหรับชาว The Growth Master Profile & Status ถ้าอยากรู้จักใครซักคน โปรไฟล์เฟซบุ๊กคงเป็นสิ่งแรกๆที่คุณนึกถึง และคงจะแปลกมาก ถ้าไม่มีฟีเจอร์โปรไฟล์นี้ปรากฎอยู่บน Workplace
Workplace ทำให้การติดต่อเพื่อนร่วมทีมของคุณง่ายเหมือนเข้าไปส่องโปรไฟล์เฟซบุ๊ก เพราะหน้าตาของฟีเจอร์นี้แทบจะยกมาจากเฟซบุ๊กหมดทั้งอัน ไม่ว่าจะเป็น Timeline, About, Photo, Follow, Chat, Group, Event และยังมี Org Chart อีก ในโปรไฟล์จะบอกกิจกรรมบนไทม์ไลน์ที่อีกฝ่ายเคยโพสต์ และแสดงข้อมูลตัวตนในฐานะพนักงานบริษัทของเขา รวมถึงสถานะตอนนี้ว่ากำลังว่าง หรือไม่อยากให้รบกวน
83% ของผู้ใช้บอกว่า Workplace ทำให้สื่อสารในองค์กรได้ง่ายขึ้นโดยเฉพาะกับการติดต่อสื่อสารกับผู้นำ ต้นเหตุเป็นเพราะหน้าตาโปรไฟล์ที่ทำให้รู้สึกกล้าเข้าถึงและสื่อสารได้โดยง่ายเพียงแค่กดปุ่มแชทหรือคอล ต่างจากการเดินไปเคาะหน้าห้องผู้บริหารระดับสูงที่จะต้องรู้สึกเกร็งไปทั้งตัว แถมยังไม่รู้จะได้เจอตัวอีกรึเปล่า
ภาพจาก workplace
Admin Panel ในส่วนของ Admin Panel คือฟีเจอร์ที่สร้างมาเพื่อให้แอดมินของบริษัทได้เข้าถึงข้อมูล และกระจายข่าวสารได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ฟีเจอร์ที่ให้มาก็จะมี...
Group Insight ที่เป็นฟีเจอร์วิเคราะห์การมีส่วนร่วมของผู้ใช้ในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นวัน หรือช่วงเวลา ที่ดีที่สุดในการโพสต์ รูปแบบของคอนเทนต์ แพลตฟอร์มที่ใช้ จนถึงใครคือคนที่มีส่วนร่วมเยอะๆบ้าง รู้แล้วก็เอาไปพัฒนาการ กระจายข่าวสารอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นSurvey สร้างแบบสอบถามเชิงลึก เพื่อเก็บข้อมูล หรือติดตามสถานการณ์ต่าง ๆ ทั้งคำถามที่มีคำตอบเป็นตัวเลือกและคำถามที่พิมพ์ตอบเอง โดยแบบสำรวจจะถูส่งไปในแชทของ Workplace Active directory หรือบัญชีผู้ใช้ที่ซิงก์กับรายชื่อพนักงานของบริษัทในระบบ โดยจะเพิ่มหรือลบบัญชีผู้ใช้ใน Workplace เวลามีคนเข้ามาใหม่หรือลาออกอัตโนมัติปักโพสต์สำคัญ แสดงความสำคัญของโพสต์ด้วยการปักให้โพสต์อยู่บนสุดของฟีดข่าว และส่งอีเมลล์หรือการแจ้งเตือนให้ทุกในกลุ่มทราบ จะได้ไม่พลาดข้อมูลที่สำคัญแต่ฟีเจอร์ส่วนใหญ่ จะต้องทำการอัพเกรดบัญชีผู้ใช้แบบเสียค่าบริการก่อนจึงจะเข้าถึงได้ แต่รับรองเลยว่า มีประโยชน์และนำไปต่อยอดได้อีกมากมายโดยเฉพาะในฝ่ายบุคคล และฝ่ายกระจายข่าวสาร
ข้อเสีย สิ่งแรกเลยก็คือ ถ้าผู้ใช้เป็นสมาชิกอยู่ในหลาย ๆ กลุ่มย่อยขององค์กร ความเคลื่อนไหวของหลาย ๆ กลุ่มย่อยรวมกันจะกลายการแจ้งเตือนที่เยอะมาก เป็นเหตุให้การแจ้งเตือนของโพสต์ที่สำคัญถูกทับและมองข้ามไป หรืออาจสร้างความรำคาญให้ผู้ใช้เมื่อเห็นกล่องแจ้งเตือนเด้งบ่อย ๆ
การใช้งาน Workplace สำหรับเว็บเบราว์เซอร์จะดีที่สุดบน Chrome เพราะยังมีบางฟีเจอร์ อย่างเช่นวีดีโอคอลที่เว็บบราวเซอร์อื่นอย่าง Safari ยังไม่สามารถเข้าถึงได้
อีกข้อเสียก็คือ Workplace ถูกสร้างเพื่อเป็น Communication tool ทำให้ฟีเจอร์ต่าง ๆ โดดเด่นด้านการสื่อสาร แต่ไม่ได้เน้นในด้านการจัดการงานเหมือนซอฟต์แวร์ที่เป็น Collaboration Tool โดยเฉพาะ เลยจะมีข้อจำกัดอยู่บ้าง ยกตัวอย่างเช่น การสร้างเช็กลิสต์ที่ไม่สามารถแนบไฟล์งานได้ หรือฟีเจอร์การติดตามงานที่ไม่ได้มีมาให้
ข้อดี ต้องยอมรับเลยว่า Workplace ทำออกมาได้ดีในเรื่องความง่ายในการใช้งาน ที่ผู้ใช้เฟสบุ๊กสามารถใช้เป็นโดยไม่ต้องเรียนรู้ และความง่ายยังรวมไปถึงบน Mobile app ที่ถูกพัฒนาให้ใช้ได้ลื่นไหล ทำให้เหมาะกับการใช้งานนอกสถานที่ เปิดขึ้นมาดูได้ทุกเมื่อ ต่างจากซอฟต์แวร์เจ้าอื่น ๆ ที่ยังเน้นการใช้บนแลปท็อปหรือคอมพิวเตอร์เป็นหลัก
การใช้ Workplace เมื่อดาวน์โหลดเป็นแอปพลิเคชันมาไว้ที่เดรสก์ท็อปหรือโทรศัพท์ ฟีเจอร์แชทจะถูกแยกออกมาเป็นอีกหนึ่งแอปพลิเคชัน เหมือนกับเวลาเล่นเฟซบุ๊กแล้วต้องดาวน์โหลดแอป Messenger แยก ซึ่ง
เป็นข้อดีกับคนที่ต้องใช้การส่งข้อความเพื่อสื่อสารบ่อย ๆ ให้เข้าถึงฟีเจอร์แชทได้เร็วขึ้นเพราะไม่ต้องผ่านแอปหลักก่อน
การทำงานบน Workplace หมดห่วงเรื่องความลับของข้อมูลองค์กร เพราะ Workplace การันตีความปลอดภัยด้วยการตรวจสอบอย่างเข้มงวดจากมาตรฐานระดับโลกอย่าง ISO27001 , ISO27018 , SOC2, และ SOC3 อีกทั้งตัวซอฟต์แวร์ยังให้เราเป็นคนควบคุมข้อมูลและความเป็นส่วนตัวด้วยตัวเอง รวมถึงมีชื่อของทั้งซอฟต์แวร์ Workplace และ Facebook เป็นการรับประกันอีกด้วย
อีกหนึ่งข้อดีคือ ภาษาในการตั้งค่าและ Auto-translation ที่ไม่ได้เห็นกันบ่อย ๆ ในซอฟต์แวร์ทั่วไป ภาษาที่ Workplaceใส่มาในซอฟต์แวร์มีมากถึง 46 ภาษา รวมภาษาไทย ซึ่งเป็นผลดีกับองค์กรที่บุคคลากรถนัดใช้ภาษาไทย ทำให้เข้าใจฟีเจอร์ต่าง ๆ ง่ายขึ้น สามารถติดต่อสื่อสารกับประเทศที่ใช้ภาษาที่ 2 หรือ 3 เป็นการนำองค์กรไปสู่ระดับนานาชาติโดยกำจัดอุปสรรคด้านภาษาไปได้เลย
ที่สำคัญที่สุด Workplace คือเครื่องมือชั้นดีในการสร้างวัฒนธรรมในองค์กร เปรียบเสมือน Social media ให้สมาชิกองค์กรได้อัปเดตความคืบหน้า และแชร์เรื่องราวดี ๆ ไปจนถึงสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในองค์กร จากชุมชมออนไลน์เล็ก ๆ บนโลกของการทำงาน
แต่ละแพ็กเกจมีดียังไง? Workplace มีรูปแบบการใช้งานให้เลือกทั้งหมด 3 รูปแบบด้วยกัน ตามขนาดขององค์กร
Essential แบบฟรี ที่ไม่เสียค่าใช้จ่าย เหมาะกับการผู้ใช้ประเภททีม สามารถสร้างกลุ่มหรือโปรเจ็กต์ได้สูงสุด 50 กลุ่ม เข้าถึงฟีเจอร์พื้นฐานทั่วไปที่กล่าวข้างต้น จำกัด Video call สูงสุดครั้งละ 20 คน และได้ที่เก็บข้อมูลไฟล์ 5 GB ต่อคน
Advance $4 ต่อเดือน ต่อ 1 ผู้ใช้งาน (มีให้ทดลองใช้ฟรี 30 วัน) เหมาะสำหรับผู้ใช้ระดับองค์กร เพราะให้สร้างทีมหรือโปรเจ็กต์ ได้ไม่จำกัด ใช้ฟีเจอร์ Video call ได้ครั้งละ 50 คน โดยที่มีที่เก็บข้อมูลไฟล์ 1TB ต่อคน และมีฟีเจอร์ที่เพิ่มเติมมา ไม่ว่าจะเป็น ดูแผนภูมิองค์กรและโครงสร้างทีม ปักโพสต์สำคัญ มีระบบ SSO (Sigle Sign-n) ให้ล็อกอินก่อนเข้าใช้งาน ฟีเจอร์ Active directory
Enterprise $8 ต่อเดือน ต่อ 1 ผู้ใช้งาน เหมาะกับรูปแบบผู้ใช้ที่เป็นองค์กรขนาดใหญ่ สิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาอีกก็คือ ที่เก็บไฟล์ข้อมูลแบบไม่จำกัด สามารถเข้าถึงฟีเจอร์ Enterprise live สตรีมให้ผู้ชมจำนวนมากรับชม (เหมือนไลฟ์สดในเฟซบุ๊ก) มีทีมสนับสนุนเฉพาะจาก Workplace ที่จะคอยช่วยให้คำปรึกษา ที่สำคัญคือ ได้ลองฟีเจอร์ใหม่ที่ถูกพัฒนาขึ้นก่อนใคร
สรุป Workplace เป็นอีกหนึ่งซอฟต์แวร์ที่ใช้เชื่อมต่อบุคลากร โดยเฉพาะองค์กรที่ชอบความเรียบง่าย ด้วยลักษณะหน้าตาของฟีเจอร์ที่คุ้นเคย ใช้ง่าย และครบวงจร ทำให้ลืมอุปสรรคในการเรียนรู้หรือปรับตัวไปได้เลย
ในอนาคต เชื่อว่าแทบทุกบริษัทไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ จะเก่าหรือใหม่ ยังไงก็หนีไม่พ้น การทำงานบนแพลตฟอร์มออนไลน์
ถ้าคุณกำลังมองหาการเปลี่ยนแปลงองค์กรจากออฟไลน์มาเป็นออนไลน์โดยใช้ความพยายามน้อยที่สุด เจ้า Workplace เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอีกตัวหนึ่ง
สำหรับใครที่ชื่นชอบบทความจากเรา อย่าลืมกดติดตาม The Growth Master เพื่อรับชมการรีวิวซอฟต์แวร์เจ๋ง ๆ และข่าวสารในแวดวงธุรกิจกัน! :)
ติดตาม Youtube Channel ‘The Growth Master’ และ We Need TOOL Talk ได้ก่อนใคร ไม่พลาดทุกการแชร์ซอฟต์แวร์น่าใช้ที่จะทำให้การทำงานของคุณง่ายขึ้น
และช่องทางอัปเดตข่าวสารการตลาดที่สดใหม่
Facebook : The Growth Master
Blockdit : The Growth Master
Facebook Group : TechTribe Thailand
Line@ : @thegrowthmaster
สามารถให้กำลังใจพวกเราได้ผ่านการกดไลก์ กดแชร์ และกดติดตาม รวมไปถึงการสมัครใช้งานผ่านลิงก์ด้านบน โดย The Growth Master จะได้รับค่าแนะนำจากซอฟต์แวร์บางตัวเท่านั้นเมื่อมีการกดสมัครใช้งานซอฟต์แวร์นั้น ๆ