ในไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา Facebook ได้ทำการประกาศถึง 3 รูปแบบใหม่ของโฆษณา โดยทั้ง 3 รูปแบบนั้นเป็น Interactive Ads (โฆษณาที่สามารถตอบสนองได้) ทั้งหมด ซึ่งประกอบไปด้วย
1. Poll Ads (โฆษณารูปแบบโพล)
2. Augmented Reality Ads (โฆษณารูปแบบ AR)
3. Playable Ads (โฆษณารูปแบบคล้ายกับการเล่นเกม)
ทีนี้เราลองไปดูรายละเอียดและตัวอย่างของแต่ละรูปแบบกัน ด้านล่างนี้
1. Poll Ads
ถ้าใครที่ใช้ Instagram ก็อาจจะคุ้นเคยกับฟีเจอร์ “โพล” เพราะมันก็เป็นหนึ่งฟีเจอร์ที่อยู่ใน Instagram Stories นั่นเอง ซึ่งมันก็เป็นหนึ่งในฟีเจอร์ที่ค่อนข้างประสบความสำเร็จ ด้วยความสามารถในการดึงดูดผู้คนให้เข้ามามีส่วนร่วมกับโพลนั้น
โดยทาง Facebook ก็เคยออกมากล่าวไว้ว่า :
“ผู้คนส่วนใหญ่รู้สึกชอบ เมื่อตัวเองได้มีส่วนร่วมไอเดียใดๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น และพวกเขาก็เลือกที่จะใช้วิธีที่ล้ำสมัยขึ้น (ในการมีส่วนร่วม)”
ซึ่งหลังจากที่ Facebook มองเห็นว่าฟีเจอร์แบบนี้สามารถดึงดูดการตอบสนองของผู้คนได้ พวกเขาก็ตัดสินใจนำมันมาพัฒนาเป็นหนึ่งในรูปแบบของโฆษณาวิดีโอบน Facebook สำหรับ Mobile Platform ทันที

ภาพจาก facebook
แบรนด์ต่างๆ สามารถใช้วิดีโอโพลเป็นเครื่องมือหนึ่งในการเรียนรู้ว่ากลุ่มเป้าหมายของเรานั้นชอบหรือไม่ชอบอะไร เช่น สินค้า บริการ หรือคอนเทนต์ ซึ่งจะทำให้คุณสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นไปพัฒนาหรือปรับปรุงสินค้าต่อได้นั่นเอง โดยเราอาจมีโอกาสได้ใช้กันในช่วงเดือนนี้เลย !
ตัวอย่างการใช้ Poll Ads

ภาพจาก pinterest
บริษัท E! ที่เป็นหนึ่งในช่องโทรทัศน์ชื่อดังของอเมริกา โดยพวกเขาได้ปล่อยโฆษณารูปแบบโพลออกไปเพื่อโปรโมทซีรีย์เรื่อง ‘Total Bellas’ ที่ฉายอยู่ในช่อง ซึ่งก็ทำให้พวกเขาได้ข้อมูลมากมายเพื่อนำไปพัฒนาซีรี่ย์ อีกทั้งยังทำให้ Brand awareness ของบริษัทนั้นเพิ่มขึ้นถึง 1.6X เท่าอีกด้วย
2. Augmented Reality (AR) Ads
และแน่นอนว่านอกจากฟีเจอร์โพลแล้ว Face Filter ก็เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์รูปแบบ AR ที่ผู้คนนั้นชื่นชอบและให้การตอบสนองดีไม่แพ้กัน
จากการสำรวจพบว่า “63% ของผู้ใช้ในอเมริกามักเคยลองใช้ประสบการณ์ AR (AR Experience) ที่แบรนด์นั้นสร้างขึ้น”
ซึ่งก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ Facebook ตัดสินใจนำมันมาพัฒนาเป็นหนึ่งในรูปแบบของโฆษณาเช่นกัน
หลังจากที่พวกเขาได้ทำการทดสอบ ก็พบว่า เมื่อเปรียบเทียบกันแล้วโฆษณารูปแบบ AR Ads นั้นสามารถมอบการลงทุนในโฆษณาที่คุ้มค่ากว่า Non-AR Video Ads ถึง 52% เลยทีเดียว
โดยทาง Facebook ก็ได้ออกมาประกาศแล้วว่าพวกเขาจะปล่อยเวอร์ชั่นเบต้าให้เราและคนทั่วไปได้ใช้กันในเร็วๆนี้
ตัวอย่างการใช้ Augmented Reality (AR) Ads

ภาพจาก facebook
แบรนด์ที่ได้ทดลองใช้รูปแบบโฆษณาประเภทนี้ก็คือแบรนด์เครื่องสำอางชื่อดังอย่าง WeMakeUp และ Bobbi Brown โดยทั้งคู่ก็ได้ใช้โฆษณานี้ด้วยลูกเล่นที่คล้ายๆ กัน นั่นก็คือ เมื่อผู้ใช้ใส่ Face Filter รูปแบบ AR นี้แล้ว ผู้ใช้ก็จะสามารถเปลี่ยนสีของริมฝีปากได้ตามเฉดสีของลิปสติกจริงของแบรนด์ ซึ่งทางแบรนด์ตั้งใจทำให้เหมือนการลองสีของลิปสติกนั่นเอง

ภาพจาก facebook
ด้วยการใช้โฆษณารูปแบบนี้ทำให้ WeMakeUp นั้นมียอดขายของลิปสติกเพิ่มขึ้น 27.6 % ส่วน Bobbi Brown หลังจากรันโฆษณานี้ไปบนเพจ ก็มีผู้คนมากมายมาลองใช้ และทำให้เวลาเฉลี่ยของผู้คนที่ใช้งานโฆษณานี้สูงถึง 61 วินาทีเลยทีเดียว
3. Playable Ads
จริงๆ แล้ว Facebook ได้ปล่อยโฆษณารูปแบบนี้ให้ผู้ใช้บางกลุ่มแล้วตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2018 ซึ่งตอนนั้นส่วนใหญ่จะเป็นการเปิดโอกาสให้แอพพลิเคชั่นในหมวดหมู่เกมได้โปรโมทเกมของพวกเขาให้ดีที่สุด
แต่ล่าสุด Facebook ก็ประกาศว่าจะปล่อยให้ผู้ใช้ทุกคนได้ใช้โฆษณารูปแบบนี้กัน โดยไม่ว่าจะเป็นแอพพลิชั่นหรือแบรนด์ไหนก็สามารถสร้างโฆษณารูปแบบที่เป็นเกมขึ้นมาเพื่อให้ผู้ใช้ได้มาเล่น ส่วนตัวของผู้เขียนคิดว่าเป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่ดีในการสร้าง Brand awareness และ Conversion
ตัวอย่างการใช้ Playable Ads

ภาพจาก facebook
แบรนด์รองเท้าชื่อดังอย่าง Vans ได้มีโอกาสร่วมงานกับ Facebook Creative Shop และสร้างโฆษณารูปแบบเกมขึ้นมา โดยให้ผู้เล่นได้มีโอกาสควบคุมทิศทางการสเก็ตของ Icon ชื่อดังของ Vans นั่นคือ ‘Steve Van Doren’ เพื่อสเก็ตลงจากเขาและเก็บของขวัญสุดพิเศษต่างๆ ระหว่างทาง
ซึ่งด้วยโฆษณานี้ก็ทำให้ Vans มี Ad Recall (การจดจำโฆษณา) เพิ่มขึ้นถึง 4.4 %
Key Takeaway : สรุปรูปแบบโฆษณาทั้ง 3
Poll Ads : โฆษณาวิดีโอโพลเป็นหนึ่งทางเลือกที่ดีในการ Engage ผู้ใช้ และถึงแม้ว่าตอนนี้ Facebook ยังไม่ได้ออกมาเผยว่าจำนวนผู้คนที่เข้ามามีส่วนร่วมกับโพลนั้นจะสามารถที่ Retargeting ได้หรือไม่ แต่ผู้เขียนเองก็เชื่อว่ามันก็มีโอกาสที่จะเป็นไปได้ ซึ่งหากเป็นแบบที่คาดการณ์ไว้จริงๆ โฆษณารูปแบบนี้จะถือว่าเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับนักการตลาดทุกคน
Augmented Reality (AR) Ads : อย่างที่เห็นกันว่าเทรนด์การใช้ AR กับแบรนด์นั้นเพิ่มขึ้นขนาดไหนในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น Face filter รูปสุนัขที่โด่งดังจาก Snapchat หรือ การโชว์สินค้าตัวอย่างผ่านการใช้ระบบ AR ของ Apple ทั้งหมดล้วนเป็นสิ่งที่เพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าและทำให้พวกเขาเข้าถึงในตัวแบรนด์ยิ่งขึ้น ซึ่งผู้เขียนเองก็คิดว่าโฆษณารูปแบบ AR ของ Facebook ก็จะสามารถทำได้ดีไม่แตกต่างกัน
Playable Ads : สำหรับโฆษณารูปแบบที่คล้ายการเล่นเกมนี้ หลายคนอาจจะได้ลองสัมผัสกันมาบ้างแล้วก่อนหน้านี้ เมื่อแอพฯต่างๆเริ่มสร้างมันขึ้นมาเพื่อให้ผู้เล่นได้ลองสัมผัสประสบการณ์ของพวกเขา แต่จะอะไรขึ้นถ้าหากแบรนด์เสื้อผ้า หรือแบรนด์อื่นๆที่ไม่ใช่เกม สร้างออกมาให้ผู้ใช้ได้เล่น มันจะเวิร์คหรือไม่ คนจะ Engage หรือเปล่า เรื่องนี้เราอาจจะต้องรอดูกันครับ