คุณกำลังเป็นคนหนึ่งที่หาวิธีกอบกู้ธุรกิจจากพิษเศรษฐกิจและวิกฤตไวรัสในช่วงนี้อยู่รึเปล่าคะ วันนี้เรารวบรวมคำแนะนำจาก Grazitti Interactive ซึ่งได้แชร์ไอเดียเทรนด์คอนเทนต์มาร์เก็ตติ้งสำหรับปี 2020 ที่แสนวุ่นวายนี้ให้ผ่านไปด้วยกัน จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย…..
ในช่วงที่ไวรัสกำลังระบาดอย่างหนัก ผู้คนพากันกักตัวอยู่บ้าน (ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีต่อสังคม) เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด และเพื่อเป็นการป้องกันตัวเอง แต่นั่นเท่ากับว่าทำให้หลายธุรกิจต้องหยุดชะงักและขาดรายได้ไปตาม ๆ กัน
ว่ากันว่าในวิกฤตย่อมมีโอกาสค่ะ เพราะหากมองให้ดี ๆ ในขณะที่ช่วงนี้หลายธุรกิจหยุดทำการ แต่กลับเป็นยุคที่บางธุรกิจกลับรุ่งเรืองขึ้นมาอย่างมาก เพราะพวกเราต้องอยู่บ้าน ดังนั้น สิ่งที่ทำได้ตอนอยู่บ้านจะเป็นอะไรไปได้ล่ะคะ นอกจากสิ่งที่ทำให้แก้เบื่อ คลายเหงากันนั่นเอง
ดังนั้นแล้วช่วงเวลานี้จะเป็นช่วงที่ผู้คนเสพคอนเทนต์กันมากขึ้นนั่นเองค่ะ
ธุรกิจไหนที่มีคอนเทนต์มาร์เกตติ้งที่เจ๋ง ๆ ก็ได้เปรียบแน่นอนเลยล่ะ
แนะนำ 5 เทรนด์คอนเทนต์มาร์เก็ตติ้งที่ควรทำในปี 2020
1.วิดีโอคอนเทนต์
เมื่อก่อนมักมีผู้กล่าวกันว่าวิดีโอคอนเทนต์จะเป็นสิ่งที่จะมาแรงในการทำคอนเทนต์ แต่ปัจจุบันนี้เรียกว่า วิดีโอคอนเทนต์นั้นถือเป็นสิ่งที่ต้องปฏิบัติกันโดยทั่วไปซะแล้วค่ะ ใครไม่ทำ ถือว่าอาจจะพลาดโอกาสดี ๆ ไปหลายอย่างเลยทีเดียว
ทำไมน่ะหรือ… ?
เหล่าบริษัทดัง ๆ อย่าง Facebook, Instagram, Twitter และ LinkedIn ต่างพากันพัฒนาความสามารถในการลงคอนเทนต์วิดีโอบนแพลตฟอร์มของตัวเองกันอย่างดุเดือด มีการลงทุนไปกับการพัฒนาความสามารถของฟีเจอร์ต่าง ๆ เกี่ยวกับวิดีโอคอนเทนต์อย่างมหาศาล นั่นก็เพราะว่า คอนเทนต์ประเภทวิดีโอ สามารถดึงดูด engagement และ อัตราการซื้อซ้ำ ได้มากขึ้นนั่นเอง
81% ของธุรกิจใช้วิดีโอเป็นเครื่องมือในการทำการตลาด ซึ่งรูปแบบของวิดีโอก็มีได้หลากหลายรูปแบบเลยค่ะ ตัวอย่างดังภาพด้านล่างนี้
แน่นอนว่าการทำการตลาดด้วยวิดีโอนั้นไม่ได้เวิร์คเพียงแค่เฉพาะในปี 2020 เท่านั้น แต่ว่ากันว่าจะเวิร์คในระยะยาวไปอีกนานเลย จนกว่าจะมีอย่างอื่นที่ล้ำมาแทนที่กันล่ะค่ะ
2.คอนเทนต์เชิงโต้ตอบ
นักการตลาดกว่า 93% มีความเห็นตรงกันว่า Interactive content หรือคอนเทนต์เชิงโต้ตอบนั้นมีประสิทธิภาพในการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้บริโภคเป็นอย่างมาก โดยรูปแบบของ interactive content ส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับ Call-to-action (CTA) ซึ่งมันมีรูปแบบเหมือนการเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถมีส่วนร่วมกับแบรนด์ และเชิญชวนให้พวกเขาได้ทำอะไรบางอย่างต่อ นอกจากนี้มันยังเป็นคอนเทนต์ประเภทที่สามารถแชร์ต่อได้ ซึ่งนั่นก็ตามมาด้วย brand awareness ทำให้มีคนเห็นเพิ่มมากขึ้นนั่นเองค่ะ
ดังนั้นแล้ว ไม่แปลกเลยที่ interactive content จะเป็นอะไรมาแรงในปี 2020 นี้
รูปแบบของ interactive content ตัวอย่างเช่น
- 360-degree videos
ภาพจาก vidooly.com
- AR/VR
ภาพจาก newsbeezer.com
- Shoppable posts
ภาพจาก www.marketingweek.com
- Quizzes
- Polls
ภาพจาก www.imaginemediaconsulting.com
3.คอนเทนต์แบบ Hyper-dynamic
แน่นอนว่าทุกคนต้องการรับข่าวสาร ข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับตนเอง เกี่ยวข้องกับความสนใจ หรือไม่ก็เกี่ยวข้องโดยทางใดทางหนึ่ง ดังนั้นจะดีกว่าหรือไม่ที่คุณจะเปลี่ยนวิธีการส่งข้อความแบบแมสๆ หว่านไปหาลูกค้าทุกคน แต่กลับกัน ใช้ข้อมูลลูกค้าที่มีมา Personalize เพื่อให้คอนเทนต์เหล่านั้น Relate กับพวกเขามากที่สุด โดยเริ่มจากข้อมูลเหล่านี้ :
คุณสามารถใช้ข้อมูลของลูกค้าเหล่านี้ให้เกิดประโยชน์ ด้วยการเพิ่มหรือปรับเปลี่ยนข้อความ ตามข้อมูลแบบ Personalized ของลูกค้าแต่ละคน/กลุ่ม ซึ่งจะทำให้คุณได้ Hyper-Dynamic Content ที่มันจะเวิร์คกว่าคอนเทนต์แบบทั่วไปที่ไม่ได้ทำการ Personalization แน่นอน
4. คอนเทนต์แบบ SEO - Centric
อัลกอริทึมของ Google search มีการปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว และจงจำไว้เสมอว่าการสร้างคอนเทนต์อย่างสม่ำเสมอคือวิธีที่ชาญฉลาดในการเกาะติดให้ไม่หลุดหายไปจากวงโคจรนี้
วิธีการที่ดีที่สุดในการทำคอนเทนต์แบบ seo-centric คือการทำตามเสต็ป ดังนี้
- เริ่มต้นจากการหาคีย์เวิร์ด และคัดเลือกอันที่คิดว่าดีที่สุดมา
- พิจารณา/ค้นหาความต้องการของผู้ใช้งานว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณต้องการทำอะไร เช่น ต้องการหาความรู้ ต้องการพิจารณาเลือกซื้อ เปรียบเทียบสินค้า ต้องการหาข้อมูลวิธีการจ่ายเงิน หาช่องทางการซื้อ เป็นต้น
- หลังจากทราบข้อ 1,2 แล้ว ก็สร้างคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวเหล่านั้น ให้ตรงจุด ตรงประเด็นที่สุด
- เผยแพร่คอนเทนต์ออกสู่ Public
หลักการนี้ จำไว้ว่าให้โฟกัสที่สิ่งที่ผู้อ่านต้องการ ยึดตัวลูกค้าเป็นหลัก แล้วคุณจะเป็นคนที่สามารถทำ seo-centric ได้เก่งฉกาจค่ะ
5. คอนเทนต์แบบค้นหาด้วยเสียง
ข้อมูลจากการวิจัยของ Google พบว่า 20% ของการค้นหาบน Google เป็นการค้นหาโดยใช้โหมด Voice search
ดังนั้นแล้วการสร้างคอนเทนต์ที่ปรับรูปแบบให้เฉพาะเจาะจงกับ Voice Search ถือเป็นความท้าทายไม่น้อย เพราะว่าเวลาที่ลูกค้าของคุณใช้คำพูดในการค้น มักจะใช้ภาษาที่แตกต่างจากภาษาเขียนนั่นเองค่ะ
วันนี้เรามีวิธีการมาแนะนำ ดังนี้
- พยายามใช้ longtail keyword หรือคีย์เวิร์ดแบบยาว
- สร้างคอนเทนต์ที่ใช้ภาษาพูดแบบทั่วไป ไม่ต่องเน้นทางการมากเกินไป ใช้ภาษาที่เวลาเรานึกขึ้นมาในหัวแล้วมักจะพูดคำเหล้านั้น เพราะลูกค้าก็จะพูดประโยคแบบเดียวกัน
- ใช้วิธีการพัฒนา SEO แบบดั้งเดิมผสมเข้ามาด้วย
จำเป็นอย่างมากที่นักการตลาดสายคอนเทนต์ต้องทำการพัฒนาให้กลยุทธ์ของตนสอดคล้องกับ Voice Search ด้วย จากที่เห็นได้จากเทคโนโลยี voice ต่าง ๆ ที่ถูกเผยแพร่ออกมาในปีนี้ ดังนั้น ต้องหาความรู้และอัพเดตข่าวสารในเรื่องนี้ก่อนจะตกเทรนด์และชวดโอกาสดี ๆ กันนะคะ
สรุป
เชื่อว่าปี 2020 นี้ จะเป็นปีที่ท้าทายสำหรับผู้ประกอบการและนักการตลาดหลาย ๆ คน กันอย่างมากทีเดียว ไหนจะวิกฤตทางเศรษฐกิจและภัยจากไวรัสที่โหมเข้ามาอย่างหนักหน่วง หากใครที่ทำงานอยู่บ้านไม่ได้ไปไหน อย่าลืมแวะมาอ่านคอนเทนต์ดี ๆ อัพเดตความรู้ได้ที่ The Growth Master
หวังว่าความรู้ที่แนะนำในวันนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่มากก็น้อย และพบกันใหม่ในคอนเทนต์หน้า จะเป็นอะไร อย่าลืมติดตามกันนะคะ ; )
ปล. ดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะทุกคน Stay inside, Stay safe
อยู่บ้าน ก็อัพเดตความรู้แบบจัดเต็มได้ที่ช่องทางของ The Growth Master เลย