เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา อัลทอส คอมพิวติ้ง (Altos Computing Inc.) บริษัทในเครือบริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด ได้ทำการเปิดตัว Altos BrainSphereTM P15 F7 เวิร์กสเตชั่นรุ่นแรกที่ขับเคลื่อนด้วยซีพียู Ryzen 5000 series ใหม่ล่าสุดจากเอเอ็มดี
ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลของระบบอย่างเหนือชั้น พร้อมตอบสนองความต้องการของผู้ใช้สำหรับเวิร์กโหลดจำนวนมาก รองรับการทำงานได้อย่างหลากหลาย
โดยคุณณัฐวรรณ ตะเภาน้อย ผู้จัดการฝ่ายกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์องค์กร บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวว่า “องค์กรธุรกิจและหน่วยงานต่างๆ เช่น ธุรกิจการเงิน หลักทรัพย์ อุตสาหกรรมการผลิต โรงพยาบาล องค์กรภาครัฐและสถานศึกษา ต้องการใช้งานเวิร์คสเตชั่นที่มีสมรรถนะ มีความสามารถในการประมวลผลสูง และปลอดภัยในการใช้งาน เอเซอร์ตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าวด้วย Altos BrainSphere™ P15 F7 เวิร์คสเตชั่นรุ่นแรกที่เสริมประสิทธิภาพการประมวลด้วย AMD Ryzen™ 5000 Series ขุมพลังล่าสุดจาก AMD ที่ผนวกความยืดหยุ่นด้านการจัดการระบบด้วยซอฟต์แวร์จากอัลทอส และซอฟต์แวร์การจัดการ AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและเสถียรภาพการทำงานขององค์กร”
คุณแจ็คกี้ ซีซี ลี ประธาน บริษัท อัลทอส คอมพิวติง จำกัด กล่าวว่า “ปัจจุบันการรันแอพพลิเคชั่นหลักทางด้านอุตสาหกรรม จำเป็นต้องพึ่งพาการใช้งานระบบที่มีประสิทธิภาพสูงและมีความเสถียรในการทำงานระยะยาว รวมถึงรองรับคอมพิวเตอร์เมนเฟรมที่มีการจัดการขั้นสูง เช่น คอมพิวเตอร์เวิร์กสเตชั่นที่มีการแสดงผลหลายหน้าจอในธุรกิจหลักทรัพย์ เทอร์มินัลเวิร์กสเตชั่นในธุรกิจธนาคาร เวิร์กสเตชั่นที่ติดตั้งในสายการผลิตภายในโรงงาน และเวิร์กสเตชั่นทางการแพทย์ในโรงพยาบาล ฯลฯ Altos BrainSphere™ P15 F7 มีคุณสมบัติความพร้อมใช้งาน ที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพและจัดการได้อย่างง่ายดาย ตอบโจทย์ความต้องการในเรื่องประสิทธิภาพสำหรับแอพพลิเคชั่นที่หลากหลาย ทั้งยังสอดรับกับงบประมาณของลูกค้า”
Altos BrainSphere™ P15 F7 มาพร้อมระบบปฏิบัติการภายใน ที่ถูกพัฒนาอย่างชาญฉลาด
ขณะที่เทคโนโลยี AI และ ML ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น บริษัทต่างๆ ตอบรับกระแสการปรับเปลี่ยนองค์กรเข้าสู่ยุคดิจิทัล (Digital Transformation) จึงมีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วสำหรับคอมพิวเตอร์ที่มีอุปกรณ์เร่งความเร็ว AI (เช่น กราฟิกโปรเซสเซอร์ GPU)
Altos BrainSphere™ P15 F7 ประกอบด้วยโปรเซสเซอร์ระดับชั้นนำ พร้อมด้วย PCIe Gen4 M.2 SSD ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพในการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลอย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ลูกค้ายังสามารถเลือกที่จะติดตั้งซอฟต์แวร์จัดการระบบ Altos Smart Server Manager (ASSM) เพื่อตอบสนองความต้องการของระบบสำหรับการควบคุมดูแลระยะไกล
โดยเมื่อระบบเกิดข้อผิดพลาด เจ้าหน้าที่ฝ่ายไอทีก็จะได้รับการแจ้งเตือนในทันที และจะสามารถตรวจสอบหาสาเหตุของปัญหาและแก้ไขข้อผิดพลาดได้อย่างรวดเร็ว เวิร์คสเตชั่นรุ่นนี้นับเป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้องค์กรในภาคธุรกิจการเงิน ธุรกิจหลักทรัพย์ อุตสาหกรรมการผลิต โรงพยาบาลขนาดใหญ่ รวมไปถึงหน่วยงานภาครัฐ และสถานศึกษา
นอกจากนี้ ยังตอบโจทย์ความต้องการของอุตสาหกรรมที่เกิดใหม่ รวมถึงบิ๊กดาต้า (Big Data) และการพัฒนา AI ซึ่งล้วนแต่ต้องการด้านการประมวลผลที่สูงขึ้นอย่างมาก บวกกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของบุคลากรฝ่ายไอทีภายในองค์กรสำหรับการเพิ่มความเร็วในการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูล และการควบคุมระบบระยะไกล
Altos BrainSphereTM P15 F7 คือเวิร์กสเตชั่นที่เหมาะกับยุค Digital Tranformation อย่างแท้จริง
Altos BrainSphereTM P15 F7 เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ “เวิร์กสเตชั่น” ของอัลทอส เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการสมรรถนะของระบบขั้นสุดยอด เปี่ยมด้วยเสถียรภาพ ภายใต้งบประมาณที่จำกัด นอกเหนือจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่งแล้ว ยังมีการจัดการระบบที่ดีเยี่ยมด้วยซอฟต์แวร์จากอัลทอส (ASSM) รวมไปถึงซอฟต์แวร์การจัดการ AI (Altos aiWorks) และโซลูชั่นอื่นๆ ที่ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าองค์กร นับเป็นทางเลือกที่ลงตัวสำหรับองค์กรที่ต้องการติดตั้งใช้งานแอปพลิเคชั่นในยุค “Digital Transformation”
คุณศศิประภา สุธีรภัทร์ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เอเอ็มดี ประเทศไทย กล่าวว่า “AMD และ Acer ยังคงต่อยอดความร่วมมือผ่านผลิตภัณฑ์เวิร์คสเตชั่นใหม่ภายใต้แบรนด์ Altos ที่ออกแบบมาเพื่อกำหนดมาตรฐานใหม่ให้กับเวิร์คโหลดงานระดับมืออาชีพสำหรับลูกค้าของเราในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น ธุรกิจธนาคาร สายการผลิต การแพทย์ สถาปัตยกรรม วิศวกรรม รวมถึงแอพลิเคชั่นด้าน AI และ ML โดยผลิตภัณฑ์เวิร์คสเตชั่น Altos รุ่นใหม่นี้ขับเคลื่อนประสิทธิภาพการประมวลผลด้วยซีพียูรุ่นล่าสุดของ AMD ในซีรีย์ Ryzen 5000 ซึ่งใช้สถาปัตยกรรมการผลิต “Zen3” มีจุดเด่นในด้านประสิทธิภาพการประมวลผลทั้งแบบ Single-Core และ Multi-Core จากการพัฒนาเทคโนโลยีกระบวนการผลิตระดับชั้นนำขนาด 7 นาโนเมตร ทำให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานในระดับมืออาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพ”