Services
Services
Performance MarketingContent Led GrowthLaunchpad WebsiteBranding
PORTFOLIO
Let's Talk
Services
Performance MarketingContent Led GrowthLaunchpad WebsiteBranding
Services
Portfolio
Let's Talk
คุยกับเรา
Thank you! Your submission has been received!
Oops! Something went wrong while submitting the form.

Growth Update

Amazon ประกาศจัดตั้ง Counterfeit Crimes Unit เพื่อแก้ไขปัญหาสินค้าลอกเลียนแบบบนเว็บไซต์

ปัญหาที่เกิดขึ้นกับ Amazon ยักษ์ใหญ่ด้าน e-commerce
By
The Growth Master Team
June 28, 2020
Light
Dark
ส่งต่อเรื่องราวดีๆ

หากพูดถึงการขายสินค้าในโลกออนไลน์หรือ E-commerce แล้ว คงไม่มีใครไม่รู้จัก Amazon หรือ Amazon.com เว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในแง่ของ Revenue (รายได้) ซึ่งมากถึง 280 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2019 


ภาพจาก Wikipedia

ปัญหาสินค้าลอกเลียนแบบบน Amazon.com

หนึ่งในปัญหาหลักๆที่ผู้ซื้อสินค้าต้องพบเจอเป็นจำนวนมาก ในการซื้อขายแบบออนไลน์ ก็คือเวลาสั่งสินค้าอะไรมาแล้ว ดันพบว่ามันเป็นสินค้าเลียนแบบ! ซึ่งนี่ก็เป็นอีกปัญหาใหญ่ที่เว็บไซต์อย่าง Amazon ก็พยายามแก้กันมาอยู่เรื่อยๆ แต่ก็ดูจะไม่สามารถจัดการแบบถอนรากถอนโคนได้สักที


ภาพจาก Sellercentral.Amazon

ปัญหานี้ค่อยๆก่อตัวมาจากการตัดสินใจของ Amazon ที่ต้องการจะขยายตัวเลือกของสินค้าและราคาบนเว็บไซต์ให้กว้างมากขึ้น มีทั้งสินค้าถูกและแพง เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้หลายหลาย แทนที่จะหันมาวางระบบการจัดการผู้ขายสินค้าลอกเลียนแบบแบบจริงจังมากขึ้น รวมถึงยังมีกฎในการวางขายสินค้าที่ไม่เข้มงวดมากพอ 

ที่ผ่านมา ทางเว็บไซต์นั้นใช้ระบบให้ผู้วางขายสินค้าหรือเจ้าของ brand เป็นผู้แจ้งปัญหาสินค้าลอกเลียนแบบต่างๆที่ถูกวางขาย แต่ก็ใช่ว่าทุกครั้งที่มีผู้มาแจ้งปัญหา จะมีการดำเนินการจัดการอย่างเด็ดขาดเสมอไป 

สินค้าลอกเลียนแบบหลายประเภทจะถูกส่งไปยังโกดังเก็บของของ Amazon ก่อนที่จะถูกนำจัดส่งไปยังมือลูกค้า แต่ก็น้อยครั้งมากที่จะมีการจัดตรวจสินค้าเหล่านีให้ชัดเจนก่อน ว่าเป็นของแท้หรือไม่


ภาพจาก Engadget


ผลกระทบที่เกิดขึ้นคือมีบริษัทหลายรายถอนตัวสินค้าออกจากเว็บไซต์ไป หนึ่งในนั้นคือแบรนด์ชื่อดังอย่าง Nike ซึ่งให้เหตุผลว่า เมื่อผู้ซื้อสินค้า search หาสินค้าของตัวแบรนด์ กลับมีสินค้าลอกเลียนแบบจำนวนมากในชื่อแบรนด์เดียวหรือคล้ายๆกัน ปรากฎขึ้นมาแทนที่ สิ่งนี้ทำให้เว็บไซต์เกิดความไม่น่าเชื่อถือในสายตาของผู้วางขายสินค้า และทำให้ Amazon สูญเสียรายได้เป็นจำนวนมาก

การแก้ไขปัญหาในอดีต                                                                                                                                                            

ในปี 2018 ทางบริษัทได้ใช้เงินมากกว่า 400 ล้านเหรียฐสหรัฐ ในการพยายามแก้ปัญหาสินค้าลอกเลียนแบบ ซึ่งเงินเหล่านี้ถูกลงไปกับการพยายามสร้างระบบการตรวจสอบที่เข้มงวดมากขึ้น และการว่าจ้างพนักงานเพื่อเข้ามาคอยเช็คระบบการซื้อขายของเว็บไซต์ ซึ่งเต็มไปด้วยสินค้าที่มาจากผู้ขายภายนอก 

แต่ท้ายที่สุดแล้ว การพยายามในอดีตก็ดูจะไม่เห็นผล ซึ่งก็เกิดมาจากการที่ Amazon ยังต้องการพยายามที่จะขยายตัวเลือกสินค้าให้กว้างมากขึ้นดังที่กล่าวไปตอนต้น ทางบริษัทได้มีการเพิ่มผู้ขายสินค้าในเว็บไซต์เป็นจำนวนมาก โดยที่ไม่ได้มีการตรวจสอบว่าเป็นผู้ขายที่ลงทะเบียนการค้าไว้่หรือไม่ ซึ่งนั้นก็ทำให้มีผู้ขายเข้ามาในบริษัทเข้ามากเกิน กว่าที่ทาง Amazon จะสามารถตรวจเช็คได้ด้วยตนเอง

“ทางเว็บไซต์มีการอนุญาติให้สินค้าหลายจากหลากหลายผู้ขายเข้ามาบนแพลตฟอร์มมากเกินไป ทำให้การจัดการแบบลงมือเช็คสินค้าเองเลยนั้น เป็นเรื่องยาก” - อดีตผู้บริหาร

การจัดตั้ง Counterfeit Crimes Unit ของ Amazon

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา Amazon ได้ประกาศก่อตั้ง Counterfeit Crimes Unit หรือหน่วยจับสินค้าลอกเลียนแบบเพื่อจัดการกับสินค้าลอกเลียนแบบที่มีวางขายบนเว็บไซต์ ซึ่งในคราวนี้ หน้าที่ของหน่วยนี้จะเป็นการนำผู้ที่นำสินค้ามาลงขาย มาลงโทษและดำเนินคดีตามกฎหมาย แทนที่จะเป็นการระบุและบล็อกรายการสินค้านั้นเฉยๆ โดยสมาชิกของหน่วยจะประกอบไปด้วยอดีตอัยการสหพันธรัฐ นักวิเคราะห์ข้อมูล และนักสืบ

ซึ่งงานหลักของหน่วยนี้จะเป็นการสืบสวนและยื่นฟ้องคดีแพ่ง กับผู้ขายสินค้าลอกเลียนแบบที่อาจสามารถหลบหนีจากการตรวจสอบของระบบหลักไปได้ นอกจากนั้นทางกลุ่มจะได้รับการอนุญาตให้นำข้อมูลภายในของบริษัทมาใช้เพื่อตรวจสอบหาสินค้าลอกเลียนแบบ และจะมีการจัดใช้เงินทุนของบริษัทและอุปกรณ์ต่างๆเพื่อให้สามารถเก็บข้อมูลจากภายนอกบริษัทได้ เช่น ข้อมูลการชำระเงินผ่านช่องทางต่างๆ 

Counterfeit Crimes Unit จะมีทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมายทั่วโลก และกับเจ้าของแบรนด์ต่างๆที่ได้รับผลกระทบจากสินค้าลอกเลียนแบบอีกด้วย



ภาพจาก Mashable

ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นผู้วางขายสินค้าออนไลน์

การจัดตั้งหน่วยงานนี้ขึ้นมาจะสามารถทำให้ Amazon สามารถเอาผิดกับผู้ที่นำสินค้ามาวางขายในแง่ของทางกฎหมายได้อย่างเต็มรูปแบบมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเรียกค่าเสียหายในรูปแบบของตัวเงิน การยื่นฟ้องคดีแพ่ง และการดำเนินคดีทางอาญา ซึ่งหน่วยงานนี้จะสามารถดำเนินการไปได้อย่างมีปะรสิทธิภาพตามที่คาดหวังไว้ไหมนั้น ก็ต้องรอดูกันต่อไปในอนาคต แต่ที่แน่ๆก็คือมันจะเป็นการส่งสารไปยังผู้ที่ต้องการจะวางขายสินค้าลอกเลียนแบบบนเว็บไซต์ ว่าคราวนี้ Amazon ได้เริ่มเอาจริงแล้ว

สรุป

ในโลกของ E-commerce ที่มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ปัญหาสินค้าลอกเลียนแบบก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ใหญ่และก็ยังไม่มีวิธีแก้ที่เด็ดขาดขนาดนั้น แต่การที่บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Amazon ได้เริ่มหันมาจัดการกับปัญหานี้อย่างจริงจัง คงเปรียบได้เหมือนกับคลื่นลูกใหญ่ที่จะส่งผลกระทบไปยังวงการ E-commerce ว่าให้หันมาแก้ปัญหาเหล่านี้กันอย่างจริงจังได้สักที ซึ่งผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรนั้น ก็คงต้องรอติดตามกันไปในอนาคต

นึกถึงข่าวสารในแวดวงธุรกิจและการตลาด อย่าลืมนึกถึง The Growth Master นะครับ :D

แหล่งอ้างอิง : engadget, sellercentral.amazon.com, mashable.com, wikipedia
, washingtonpost
ส่งต่อเรื่องราวดีๆ

คุณอาจจะชอบบทความนี้...

สรุปสถิติ Digital และ Social Media จาก We Are Social ที่นักการตลาดทุกคนต้องรู้ อัปเดตปี 2023
รวม 7 บทความการตลาดที่เราแนะนำให้คุณอ่านก่อนปี 2023

ไม่พลาดทุกข้อมูลที่ช่วยให้ธุรกิจคุณเติบโตได้เร็วยิ่งขึ้น

ติดตามได้หลากหลายช่องทางที่คุณสะดวก ไม่ว่าจะเป็น e-mail, line หรือ youtube
Subscribe

เราช่วยธุรกิจของคุณให้เติบโตอย่างยั่งยืนบนโลกดิจิทัลด้วยการใช้ศาสตร์ Growth, เครื่องมือด้านเทคโนโลยี, การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการสร้างทีม

Services
Growth AgencyDesign StudioSoftware ConsultingDigital TalentsOur Portfolio
Category
All ArticlesSoftware ReviewGrowth Trends
Company
We're HiringCommunityContact
ติดตามข้อมูลการตลาด
Growth Hacking ได้เลยทีนี่
มากกว่า 4,000 บริษัทติดตาม The Growth Master ตอนนี้
ไปที่หน้า Subscribe

© Copyright 2024 The Growth Master Company Limited All Rights Reserved