มาแน่นอนสำหรับ Event แรกของปีนี้ที่ทำเอาสาวก Apple ลุ้นและคาดหวังไปตาม ๆ กัน! หลังจากประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ผ่าน Live Stream โดยใช้สโลแกนสุดพีคอย่าง “Peek Performance” ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 8 มีนาคมนี้ (ตามเวลาประเทศไทยจะตรงกับวันที่ 9 มีนาคม เวลา 01.00 น.)
โดยแฟน ๆ สามารถรับชมกันได้ทางเว็บไซต์ของ Apple เอง หรือจะกดแจ้งเตือนไว้สำหรับ Youtube ก็ไม่พลาดอย่างแน่นอน ซึ่งความพิเศษของผู้ที่รับชม Event ผ่านทาง iPhone, iPad ในครั้งนี้จะสามารถดึงโลโก้จาก Apple Event ขึ้นมารับชมแบบ AR (Augmented Reality เคลื่อนไหวเสมือนจริง)
ด้วยลูกเล่นหลากสีสัน ที่ซ้อนกันในภาพเฉดม่วง น้ำเงิน ชมพู แดง และส้ม พร้อมเพลงประกอบนั้น แค่เห็นตัวอย่างที่ปล่อยออกมา ก็ทำให้รู้สึกเหมือน ‘คุณกำลังหลุดไปในโลกดิจิทัล’ แล้ว
ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ทางเหล่าแฟน ๆ ของ Apple คาดว่าจะเปิดตัวนั้นคงไม่พ้นท็อปฟอร์มอย่าง M2 ชิปประมวลผลรุ่นใหม่ล่าสุด ที่ถูกอัปเกรดจากชิป M1 (เปิดตัวไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2020 ที่ผ่านมา) โดยชิปรุ่นใหม่นี้คาดว่าจะมาพร้อมกับ MacBook Pro และ MacBook Air รุ่นใหม่ของปี 2022 นี้
และหากพูดถึง สมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ก็ต้องบอกว่า Apple ไม่เคยพลาด เพราะไม่ว่าจะเปิดตัวมากี่ครั้งก็ได้รับความนิยมจากทั่วโลกเสมอ เรียกว่าเกิดปรากฏการณ์เข้าคิวกันให้เห็นทุกครั้งไป ซึ่งรุ่นที่จะเปิดตัวออกมาก็จะเป็นตัวจี๊ดอย่าง iPhone SE (Gen3), iPad Air (Gen5) รวมถึงเหล่า Mac Pro, Mac mini Pro และ iMac มีขนาด 27 นิ้ว ที่มาพร้อมชิป Apple Silicon
แม้ว่าในการเปิดตัวครั้งนี้ จะไม่ได้ถูกคอนเฟิร์มข้อมูลต่าง ๆ อย่างเป็นทางการ แต่ก็จัดได้ว่า Event ที่จะถึงในคืนวันอังคารนี้ ก็มีความน่าสนใจมากพอที่จะทำให้เหล่าสาวก Apple ตั้งตา รอรับชมกันเลยทีเดียว
มีความน่าสนใจใดบ้าง? สำหรับผลิตภัณฑ์จาก Apple ใน Event แรกของปี 2022
Apple ได้แสดงให้เห็นตลอดที่ผ่านมาว่า พวกเขามุ่งเน้นอัปเกรดผลิตภัณฑ์ให้ทันสมัย แปลกใหม่อยู่เสมอ ทำให้นักข่าวชื่อดังวงการ IT อย่าง Mark Gurman (สำนัก Bloomberg) ได้เข้าไปสืบถึงข้อมูลจากนักพัฒนาวงในและออกมาเผยข่าวลือไว้ว่า ‘Apple กำลังทดสอบชิปรุ่นใหม่ที่มีถึง 8 Core’ เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมานี้เอง
ซึ่งตรงกับลักษณะของชิปรุ่นใหม่อย่าง M2 (ที่หลุดมาก่อนหน้านี้) พอดิบพอดี คาดว่าตัวชิปจะมีประสิทธิภาพด้านการประหยัดพลังงานถึง 4 Core และความแรงสูงอีก 4 Core มาพร้อมกับ GPU 10 Core โดยการทดสอบนั้นจะใช้บนระบบปฏิบัติการ macOS 12.3 ที่คาดว่าจะปล่อยภายใน 2 สัปดาห์ถัดไปหลังจากจบ Event
ความน่าสนใจของ iPhone SE (Gen3) และ iPad air (Gen5) ที่รองรับสัญญาณ 5G
ได้มีการคาดการณ์กันตั้งแต่เนิ่น ๆ แล้วว่า Apple จะเปิดตัวสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตรุ่นใหม่ ที่สามารถรองรับการใช้งานสัญญาณ 5G ที่มาพร้อมกับระบบประมวลผลด้วยชิป A15 Bionic ที่ทำให้เร็วกว่าเดิม แรงขึ้นกว่าเดิมทั้งสองผลิตภัณฑ์
สำหรับ iPhone SE (Gen3) ในด้านดีไซน์นั้น จะคล้ายกับ iPhone XR และคาดว่าจะเป็นรุ่นสุดท้ายที่ใช้จอ LCD (มีความเป็นไปได้สูงว่าจะยังไม่มีปุ่ม Home) โดยตัวกล้องจะยังคงคล้ายเดิม แต่ระบบภาพโดยรวมจะถูกอัปเกรดให้มีความสมจริงขึ้น ซึ่งเชื่อว่าทาง Apple จะเปิดตัวด้วย ‘ราคาที่ถูกที่สุด’ เมื่อเทียบกับรุ่นอื่น ๆ
และสำหรับ iPad Air (Gen5) การเปิดตัวครั้งนี้จะถูกดีไซน์ให้ออกมาเป็นรุ่น ‘ที่มีน้ำหนักเบา’ และเพิ่มระบบ Center Stage ให้กับตัวกล้องหน้าเพื่อให้ระบบการ ‘ซูมใบหน้าผู้ใช้งาน’ อยู่ตรงกลางเลนส์เสมอ ถึงแม้จะมี Movement หรือเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ก็จะยังคงได้ภาพที่สวยงามสมส่วน และในด้านราคานั้น ก็ยังไม่มีข่าวลือออกมา
ความน่าสนใจของ Macbook Pro และ Mac mini Pro
ซึ่งถ้ามองถึงความแตกต่างจาก Mac รุ่นก่อน ๆ ก็ต้องบอกว่าเหนือขึ้นอีกขั้น เพราะรอบนี้ดีไซน์ของ Mac จะถูกออกแบบให้มีขนาดที่เล็กลง และคาดการณ์ว่า Apple จะเปิดตัวด้วยเครื่อง Mac mini Pro รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับชิปประมวลผล M1 Pro เลยทีเดียว (ซึ่ง Mac mini รุ่นก่อนหน้าถูกผลิตออกมาพร้อมชิป Intel)
สำหรับการใช้งานแบบพกพานั้น Macbook Pro ได้ถูกคาดว่าจะมีการเปิดตัวที่ขนาด 13 นิ้ว พร้อมกับชิปประมวลผล M2 รุ่นใหม่ เรียกได้ว่าแฟน ๆ ที่เป็นสายฮาร์ดคอร์จะได้จุใจในความเร็วและแรงที่พกพาได้อย่างแน่นอน
สรุปทั้งหมด
จากข่าวการ Live Stream เปิดตัวผลิตภัณฑ์ของ Apple ที่กำลังจะมาถึงนั้น ก็ทำให้เราตื่นเต้นที่จะได้สัมผัสกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ผ่านอุปกรณ์ Gadget ใกล้ตัว เรียกว่างานนี้ ‘มีกระเป๋าตังค์สั่น’ และจากคำใบ้ของชื่อ Event ที่มุ่งเน้นคำว่า Peek Performance นั้น ก็ต้องบอกว่านี่อาจจะเป็นชื่อของอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ทุกคนเฝ้ารออย่าง VR / AR (เทคโนโลยีหูฟังล้ำสมัย) ที่มีข่าวลือมายาวนาน ดังนั้นเราก็ต้องมาลุ้นกันต่อไปว่า Apple จะสร้างเซอร์ไพรส์ให้เราได้อย่างไรอีกบ้าง ภายในระยะเวลาเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลนี้ :-)
(หากสนใจความเคลื่อนไหว เกี่ยวกับเทคโนโลยี Apple VR สามารถอ่านต่อได้ที่ บทความนี้)