Services
Services
Performance MarketingContent Led GrowthLaunchpad WebsiteBranding
PORTFOLIO
Let's Talk
Services
Performance MarketingContent Led GrowthLaunchpad WebsiteBranding
Services
Portfolio
Let's Talk
คุยกับเรา
Thank you! Your submission has been received!
Oops! Something went wrong while submitting the form.

Growth Update

สรุปทุกประเด็น! ทำไม Facebook ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้งานในออสเตรเลียเห็นคอนเทนต์ข่าวบนแพลตฟอร์ม

เพราะอะไร Facebook ถึงแบนผู้ใช้งานในประเทศออสเตรเลียไม่ให้เห็น"คอนเทนต์ข่าว" ทั้งหมดบนแพลตฟอร์มของตัวเอง หลังจากที่รัฐบาลออสเตรเลียบังคับให้ Facebook ต้องจ่ายเงินให้แก่สำนักข่าวที่เผยแพร่คอนเทนต์ในแพลตฟอร์ม
By
Pea Tanachote
February 23, 2021
Light
Dark
ส่งต่อเรื่องราวดีๆ

นับว่าเป็นข่าวใหญ่ในวงการโซเชียลมีเดียโลกของเดือนเลยก็ว่าได้หลังจากที่เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดความบาดหมางระหว่าง Facebook ผู้นำด้านโซเชียลมีเดียเบอร์ 1 ของโลกกับรัฐบาลประเทศออสเตรเลีย ที่อาจนำไปสู่ “การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่” ของการใช้งาน Facebook ทั่วโลก

ประเด็นที่ว่าคือ Facebook จะคว่ำบาตร ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้งานในประเทศออสเตรเลียทุกคน ดู แชร์แสดงความคิดเห็น หรือมีปฏิสัมพันธ์ใด ๆ ก็ตามกับคอนเทนต์ในลักษณะคอนเทนต์ข่าวจากสำนักสื่อในประเทศและสำนักข่าวทั่วโลก

เพราะทางฝั่งรัฐบาลออสเตรเลียเองที่ออกมาเริ่มก่อน ด้วยการปรับเปลี่ยนกฎหมายให้ Facebook รวมถึง Google ต้องจ่ายเงินรายได้เพื่อนำไปให้กับสำนักข่าวผู้ผลิตคอนเทนต์ด้วย 

หลังจากที่ Facebook หรือ Google ใช้เทคโนโลยีดูดข่าวต่าง ๆ ไปนำเสนอในแพลตฟอร์มตัวเองและได้รายได้จากค่าโฆษณาต่าง ๆ ไปฝ่ายเดียว แต่กลับกันฝั่งที่เป็นเจ้าของเนื้อหาเช่นสำนักข่าวต่าง ๆ ในออสเตรเลียกลับได้ส่วนแบ่งน้อยกว่าที่ควรได้

แต่รายละเอียดทั้งหมดของประเด็นร้อนนี้จะมีอะไรบ้าง หรือเรื่องนี้จะถึงจุดแตกหักระหว่าง Facebook กับประเทศออสเตรเลียจริง ๆ The Growth Master สรุปมาให้คุณแล้ว เชิญติดตามต่อได้ในบทความ

Australia VS Facebook ! จุดเริ่มต้นที่แท้จริงของประเด็นนี้ เกิดจากฝ่ายไหน ?

จุดเริ่มต้นทั้งหมดของประเด็นนี้คงต้องย้อนกลับไปเมื่อช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา หลังจากที่ Google และ Facebook จะเริ่มเข้ามาให้ความสำคัญกับคอนเทนต์ข่าวในแพลตฟอร์มของตัวเองมากขึ้นกว่าเดิม โดยทางฝั่ง Google ก็ได้ออก Google News Showcase ที่เป็นแพลตฟอร์มรวบรวมข่าวสารจากทั่วทุกมุมโลกไว้ในที่เดียว 

และทางฝั่ง Facebook ก็มีการพัฒนาฟีเจอร์ News ที่เป็นแทบสำหรับรวบรวมคอนเทนต์ข่าวสารจากสำนักข่าวต่าง ๆ ให้อ่านได้บนแพลตฟอร์ม ซึ่งในฟีเจอร์ News ก็ได้มีการเริ่มทดลองใช้ในประเทศกลุ่มตัวอย่างมาสักพักใหญ่ ๆ แล้ว (ยังไม่มีประเทศไทย)

ภาพจาก theverge

ซึ่งเรื่องนี้ในมุมผู้ใช้งานหลายคนอาจมองว่าก็เป็นเรื่องปกติ แถมเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำที่เราสามารถเสพย์ข่าวสารได้สะดวกมากขึ้น แต่เรื่องนี้ฝั่งรัฐบาลออสเตรเลียกลับไม่เห็นด้วย เพราะพวกเขามองว่าการกระทำแบบนี้ทั้ง Google และ Facebook ได้ประโยชน์อยู่ฝ่ายเดียว เพราะมีการรวบรวมข่าวสารทั้งหมดจากเว็บไซต์สำนักข่าวต่าง ๆ ไว้ในแพลตฟอร์มของตน 

ทำให้ผู้ใช้งานก็เข้ามาในแพลตฟอร์มนั้น ๆ มากขึ้น แบรนด์หรือธุรกิจต่าง ๆ ก็เห็นช่องทางในการทำโฆษณา มีการซื้อโฆษณาบนแพลตฟอร์มนั้น ๆ มากขึ้นเช่นกัน (เช่น Facebook Ads ต่าง ๆ) แต่ในขณะเดียวกันสำนักข่าว ที่ถือเป็นต้นทาง เป็นผู้สร้างคอนเทนต์นี้ขึ้นมากลับไม่ได้อะไรเลย แบบนี้ก็เท่ากับว่า Google และ Facebook ชุบมือเปิบไปง่าย ๆ 

โดย Facebook ถือว่าโดนรัฐบาลออสเตรเลียโจมตีหนัก เพราะทาง Google ในแพลตฟอร์ม Google News Showcase พวกเขาได้มีการแบ่งรายได้ไปให้กับสำนักข่าวบางส่วนด้วย ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว แต่ Facebook กลับไม่ได้มีเรื่องของการแบ่งรายได้ให้พวกสำนักข่าวเลย

ภาพจาก theguardian

เลยเป็นเหตุผลให้สุดท้ายทางรัฐบาลออสเตรเลียต้องออกกฎหมายใหม่ขึ้นมาในชื่อ News Media Bargaining Code ซึ่งเป็นกฎหมายที่เข้ามาดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ ด้วยการบังคับแพลตฟอร์มออนไลน์เหล่านั้น จ่ายเงินให้แก่สำนักข่าวในประเทศ เพื่อเป็นเหมือนค่าตอบแทนในการเอาคอนเทนต์ของสำนักข่าวนั้น ๆ ไปเผยแพร่ในแพลตฟอร์มตัวเอง 

โดยกฎ News Media Bargaining Code ก็ได้ผ่านร่างสภาของออสเตรเลียแล้วด้วย เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา นั่นเท่ากับว่ากฎหมายนี้จะเตรียมตัวใช้งานในประเทศออสเตรเลียได้ทันที ซึ่งรัฐบาลออสเตรเลียก็มุ่งเป้าไปที่ 2 ยักษ์ใหญ่อย่าง Google และ Facebook ก่อนเป็นอันดับแรก

ซึ่งในตอนแรกที่ข่าวของกฎหมายนี้ออกมา ก็ทำเอาฝั่ง Google เดือดไม่น้อย ถึงขั้นจะถอดออสเตรเลียออกจากประเทศที่ให้บริการ Google เลย เพราะ Google มองว่ารัฐบาลออสเตรเลียทำเกินไป พวกเขามี Google News Showcase ที่มีข้อตกลงในการแบ่งรายได้ให้สำนักข่าวอยู่แล้ว แต่สุดท้ายฝั่ง Google ก็ต้องจำยอมข้อเสนอของทางรัฐบาลออสเตรเลียอย่างไม่มีทางเลือก 

และทาง Google จะยอมจ่ายเงินให้กับสำนักข่าวในออสเตรเลีย เพื่อแลกกับการนำข่าวสารมาเผยแพร่ลงในแพลตฟอร์มตัวเอง โดย Google จะจ่ายเงินจำนวน 23 ล้านดอลลาร์ให้กับ Nine Entertainment และจ่ายอีก 30 ล้านดอลลาร์ให้กับ Seven West ที่ถือเป็น 2 ผู้นำด้านสื่อออนไลน์ของออสเตรเลียก่อนเป็นลำดับแรก

ภาพจาก indianexpress

แต่กลับกันฝั่ง Facebook กลับไม่เห็นด้วยและจะไม่ยอมจ่ายเงินใด ๆ ทั้งสิ้นให้กับสำนักข่าวในออสเตรเลียเพราะพวกเขามองว่า Facebook กับ Google ไม่เหมือนกัน ที่ Google ยอมจ่ายเงินให้เพราะ Google เป็น Search Engine ที่ต้องการกระตุ้นให้คนเกิดการค้นหา ยิ่งมีคอนเทนต์ในแพลตฟอร์มมากเท่าไร ก็เป็นผลดีต่อตัว Google เอง แต่ Facebook ไม่ใช่

เพราะ Facebook คือแพลตฟอร์มที่บรรดาสำนักข่าวต่าง ๆ เลือกที่จะใช้ Facebook เป็นอีกช่องทางในการเผยแพร่เอง และตลอดเวลาที่ผ่านมาคอนเทนต์ในลักษณะคอนเทนต์ข่าว ก็ไม่ได้สร้างรายได้อะไรให้กับ Facebook เลย

Facebook นั้นได้รายได้จากคอนเทนต์ข่าวไม่ถึง 4% จากรายได้ทั้งหมดและเรื่องนี้พวกสำนักข่าวต่างหากที่ได้รายได้ไปเยอะอยู่แล้ว การที่พวกสำนักข่าวหันมาลงคอนเทนต์ใน Facebook สร้างรายได้ให้พวกเขาไปมากกว่า 407 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 9,500 ล้านบาท) แล้วทำไม Facebook ยังต้องจ่ายให้อีก

ซึ่งเรื่องนี้ก็ได้นำไปสู่จุดบาดหมางระหว่าง Facebook กับรัฐบาลประเทศออสเตรเลียอย่างเต็มตัว

แตกเป็นแตก! Facebook ไม่อนุญาตให้คอนเทนต์ข่าวปรากฏบนแพลตฟอร์มในประเทศออสเตรเลียเด็ดขาด

หลังจากที่ Facebook ไม่ยอมทำตามคำสั่งในการเรียกเก็บเงินให้แก่สำนักข่าวในประเทศออสเตรเลีย Facebook ก็เลยจัดการแก้เผ็ดด้วยการไม่เผยแพร่คอนเทนต์จากสำนักข่าวใด ๆ ก็ตามในออสเตรเลียทันที นั่นเท่ากับว่าผู้ใช้งาน Facebook ในประเทศออสเตรเลียที่มีมากกว่า 17 ล้านคน จะไม่เห็นการนำเสนอข่าวอะไรเลยบน Facebook

ตัวอย่างจากสำนักข่าว Sydney Morning Herald ที่เป็นอีกหนึ่งสำนักข่าวใหญ่ของออสเตรเลียก็โดน Facebook ล้างคอนเทนต์ไปจนเกลี้ยงฟีด

ภาพจาก niemanlab

รวมไปถึงการแชร์คอนเทนต์ ในลักษณะแนบลิงก์ที่มี URL จากสำนักข่าวทั้งหมดของออสเตรเลียก็ไม่สามารถทำได้เช่นกัน เรียกว่า Facebook จริงจังถึงขั้นปิดการมองเห็นทุกช่องทางของสำนักข่าวในออสเตรเลียเพื่อเป็นการตอบโต้รัฐบาลได้แสบไม่แพ้กัน

ภาพจาก niemanlab

แน่นอนว่าเรื่องนี้ส่งผลกระทบให้กับผู้ใช้งาน Facebook ในประเทศออสเตรเลียกันเป็นแถว เพราะจากแต่ก่อนที่เคยติดตามข่าวสารต่าง ๆ บน Facebook ได้แต่ปัจจุบันไม่สามารถทำได้แล้ว เรียกได้ว่าส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันเต็ม ๆ  รวมถึงการติดตามข่าวสารด้านข้อมูลของโควิด-19 ด้วยซึ่งเรื่องนี้ทำเอาผู้ใช้งาน Facebook ในออสเตรเลียหัวเสียไม่น้อย

เพราะในสถานการณ์ที่ต้องติดตามข่าวสารของโควิด-19 แบบนี้แต่ Facebook กลับมาปิดกั้นพวกเขาซะได้ ซึ่งทางเรื่องนี้ Facebook รู้เข้าก็ถึงกับต้องรีบเปิดการติดตามข่าวสาร เฉพาะในฟีเจอร์ COVID-19 Information Center เท่านั้นแต่ส่วนอื่นยังยืนยันว่า “ปิดเหมือนเดิม”

โดยทาง Facebook ก็ได้ออกกฏใหม่ของการเผยแพร่ข้อมูลของแพลตฟอร์มตัวเอง สำหรับประเทศออสเตรเลียด้วย ได้แก่

1 - สำนักข่าวและผู้ผลิตคอนเทนต์ในประเทศออสเตรเลีย: จะไม่สามารถแชร์หรือโพสต์คอนเทนต์ในหน้า Facebook Page ได้ แต่ฟีเจอร์อื่น ๆ ของสำหรับการดูแลเพจจะใช้งานได้ปกติ เช่น Page Insights หรือ Creator Studio   

2 - สำนักข่าวและผู้ผลิตคอนเทนต์จากประเทศอื่น ๆ : สามารถโพสต์คอนเทนต์ข่าวในแพลตฟอร์มได้เหมือนเดิม แต่ผู้ใช้ในออสเตรเลียจะไม่สามารถเห็น ดู แชร์ แสดงความคิดเห็นได้

3 - ผู้ใช้งาน Facebook ในออสเตรเลีย : จะไม่สามารถเห็นหรือแชร์ข่าวไม่ว่าจะจากสำนักข่าวในประเทศใดก็ตามจากหน้าเพจได้

4 - ผู้ใช้งาน Facebook ในประเทศอื่น ๆ : จะไม่สามารถดูหรือแชร์ข่าวจากผู้ผลิตคอนเทนต์ในประเทศออสเตรเลียจากหน้า Facebook Page ได้

ผลกระทบที่ตามมา จากความบาดหมางของ Facebook และรัฐบาลออสเตรเลียมีอะไรบ้าง ?

ต้องบอกว่าผลกระทบที่ตามมาจากความบาดหมางกันระหว่าง Facebook และรัฐบาลประเทศออสเตรเลียในครั้งนี้นอกจากจะส่งผลถึงการใช้ชีวิตประจำวันของประชากรออสเตรเลียที่ต้องเปลี่ยนไปแล้ว ในแง่มุมตัวเลขก็บ่งบอกได้ชัดเหมือนกัน

เพราะจากการสำรวจของ Nieman Lab พบว่ายอด Traffic ของเว็บไซต์สำนักข่าวทั้งหมดในประเทศออสเตรเลียลดลงกว่า 20% ทันทีหลังจากที่ Facebook ออกมาตรการปิดกั้นข้อมูลการเผยแพร่คอนเทนต์ข่าวสารบนแพลตฟอร์ม ซึ่งบ่งบอกได้ชัดเจนเลยว่า Facebook ถือเป็นช่องทางในการเผยแพร่ข่าวสารที่ทรงอิทธิพลมากแค่ไหน สำหรับประเทศออสเตรเลีย

ภาพจาก niemanlab

แต่อย่างไรก็ตาม โลกนี้มันคือการเอาตัวรอดครับ เพราะถึงแม้ว่า Facebook จะปิดกั้นการนำเสนอคอนเทนต์ข่าวสารทั้งหมดบนประเทศออสเตรเลียไปแล้ว แต่สำนักข่าว ABC (Australian Broadcasting Corporation) ซึ่งถือเป็นสำนักข่าวชื่อดังของออสเตรเลีย ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการนี้เหมือนกัน ก็คิดไอเดียสุดเจ๋งเพื่อขอพื้นที่เอาตัวรอด

ด้วยการทำ Banner ขึ้นมาในเว็บไซต์พร้อมเชิญชวนให้ผู้ใช้งานหันไปโหลดแอปพลิเคชัน ABC News เพื่อมาติดตามข่าวสารแทน ด้วยข้อความ Missing our news on Facebook ? Get ABC News App หรือแปลเป็นไทยว่า อ่านข่าวของเราบน Facebook ไม่ได้หรอ? โหลดแอปของเราแทนซิ

ภาพจาก theverge

นั่นทำให้แอปพลิเคชัน ABC News ขึ้นแท่นกลายเป็นแอปพลิเคชันที่มียอดดาวน์โหลดสูงที่สุดบน Play Store (และอันดับ 2 บน iOS) เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วย

ภาพจาก blognone

‍ส่งผลให้ ณ ตอนนี้สำนักข่าวต่าง ๆ ในออสเตรเลียก็กำลังเร่งหาช่องทางอื่นในการเผยแพร่ข่าวสารของตัวเองแบบที่ต้องจำยอมไม่ใช้ Facebook ในการเผยแพร่

สรุปทั้งหมด

ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องที่บาดหมางกันระหว่าง Facebook กับรัฐบาลออสเตรเลีย แต่เชื่อว่าเรื่องนี้ทั้งคู่คงอยากจะรีบเคลียร์ใจกัน เพื่อหาทางออกที่ดีกว่านี้เพราะ Facebook การที่ไม่มีคอนเทนต์ข่าวสารบนแพลตฟอร์มของตน ย่อมส่งผลกระทบต่อตัวเลขผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มตนเองอยู่แล้ว เพราะออสเตรเลียเองก็มีฐานผู้ใช้งาน Facebook จำนวนมากกว่า 17 ล้านคน

ส่วนทางรัฐบาลออสเตรเลียการทำแบบนี้ ก็โดนกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชนไปเต็ม ๆ หลังจากที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้พวกเขาต้องเปลี่ยนวิถีชีวิตในการติดตามข่าวสาร ที่ทำได้ลำบากขึ้นกว่าเดิม

ซึ่งเรื่องนี้ทาง Scott Morrison นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียก็กล่าวว่าทางพวกเขาและรัฐบาลจะมีการนัดพูดคุยกับ CEO ของ Facebook อย่าง Mark Zuckgerberg เพื่อหาทางออกที่ดีกว่านี้ในช่วงสุดสัปดาห์ที่กำลังจะมาถึง

แต่บทสรุปทั้งหมดของประเด็นร้อนนี้จะจบลงแบบไหน จะเป็นทาง Facebook หรือทางรัฐบาลออสเตรเลียที่จะยอมถอย แล้วเรื่องนี้จะส่งผลต่อการใช้งานแพลตฟอร์ม Facebook ทั่วโลกอย่างไร เราคงต้องติดตามกันต่อไป เชื่อว่าเร็ว ๆ นี้น่าจะมีบทสรุปแน่นอน

Source : socialmediatoday , theverge
ส่งต่อเรื่องราวดีๆ

คุณอาจจะชอบบทความนี้...

สรุปสถิติ Digital และ Social Media จาก We Are Social ที่นักการตลาดทุกคนต้องรู้ อัปเดตปี 2023
รวม 7 บทความการตลาดที่เราแนะนำให้คุณอ่านก่อนปี 2023

ไม่พลาดทุกข้อมูลที่ช่วยให้ธุรกิจคุณเติบโตได้เร็วยิ่งขึ้น

ติดตามได้หลากหลายช่องทางที่คุณสะดวก ไม่ว่าจะเป็น e-mail, line หรือ youtube
Subscribe

เราช่วยธุรกิจของคุณให้เติบโตอย่างยั่งยืนบนโลกดิจิทัลด้วยการใช้ศาสตร์ Growth, เครื่องมือด้านเทคโนโลยี, การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการสร้างทีม

Services
Growth AgencyDesign StudioSoftware ConsultingDigital TalentsOur Portfolio
Category
All ArticlesSoftware ReviewGrowth Trends
Company
We're HiringCommunityContact
ติดตามข้อมูลการตลาด
Growth Hacking ได้เลยทีนี่
มากกว่า 4,000 บริษัทติดตาม The Growth Master ตอนนี้
ไปที่หน้า Subscribe

© Copyright 2024 The Growth Master Company Limited All Rights Reserved