ในหลาย ๆ ครั้งที่เราต้องการส่งสารให้ผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นการประชาสัมพันธ์ หรือการรายงานต่าง ๆ ที่ต้องยอมรับว่าการสื่อสารผ่านรูปภาพ จะทำให้ผู้รับสามารถเข้าใจสารได้ง่าย และดึงดูดความสนใจได้มากกว่าการใช้ข้อความหรือคำพูดอย่างเดียว โดยภาพเหล่านี้ก็สามารถทำออกมาได้ในรูปแบบของ Presentation, Report, Infographic และอื่น ๆ อีกมากมาย
แต่การทำภาพเหล่านี้ล้วนใช้สกิลในการออกแบบ ซึ่งความเป็นจริงแล้ว มีผู้คนจำนวนมากที่ไม่มีสกิลด้านนี้ และไม่ทราบว่ามันต้องทำออกมาในรูปแบบไหนถึงจะดูดี หรือไม่มีสกิลในการใช้งานโปรแกรมต่าง ๆ อีกทั้งกว่าจะทำเสร็จงานนึง ก็ใช้เวลาไปมากพอสมควร
ซึ่งในปัจจุบัน ก็มีแพลตฟอร์มที่ช่วยในเรื่องของการออกแบบให้เป็นเรื่องง่าย อย่าง Canva ที่เป็น Graphic Design Platform ให้ทุกคนเข้าถึงการทำงานดีไซน์ได้ง่ายขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องมีสกิลมาก่อน แถมยังประหยัดเวลากว่าการทำงานดีไซน์แบบดั้งเดิมอีกด้วย
และด้วยคุณค่านี้เอง ทำให้ในเดือนมิถุนายน ปี 2021 Canva มีมูลค่าธุรกิจสูงถึง 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐเรียบร้อยแล้ว ซึ่งอะไรที่ทำให้ Canva เติบโตได้ขนาดนี้ The Growth Master ได้สรุปรายละเอียดไว้แล้ว ไปติดตามกันได้เลย
Canva คืออะไร ?
Canva เป็นเครื่องมือด้านการออกแบบ (Graphic Design Platform) ที่ใช้เทคนิค Drag-and-Drop โดยอยากได้อะไรมาวางตรงไหน ก็แค่ลากมาใส่ สามารถออกแบบได้ตั้งแต่ Presentation, Resume, Report, Infographic จนกระทั่งการสร้างวีดีโอ และอื่น ๆ อีกมากมาย
อีกทั้ง Canva ยังมี Template สำเร็จรูปมาให้พร้อม โดยที่เราไม่ต้องมานั่งออกแบบเองเลย ซึ่ง Template ที่ให้มาก็ไม่ได้ Fix ว่าต้องเป็นรูปแบบนี้เท่านั้น สามารถ Customize ได้เต็มที่ ไม่ว่าจะเปลี่ยนสี, เลือกฟอนต์, หรือเติม Icon ต่าง ๆ ก็สามารถปรับให้เข้ากับงานเราได้หมด
หลังจากนั้น เราก็ใส่ข้อความและรูปภาพลงไปใน Template ที่เราเลือกมา เพียงเท่านี้ก็จะได้รับผลงานออกแบบที่น่าดึงดูดตา แถมยังประหยัดเวลามากขึ้นอีกด้วย (จนบางทีก็สงสัยว่า เราทำได้ขนาดนี้เลยหรอ ฮ่า ๆ ๆ )
Canva ถูกก่อตั้งเมื่อปี 2013 โดย Melanie Perkins หญิงสาวชาวออสเตรเลีย ที่จบมาจาก The University of Western Australia ด้านดิจิทัลมีเดีย
แรงบันดาลใจในการก่อตั้ง Canva ของเธอเริ่มมาจากที่ คนรอบตัวเธอมักประสบปัญหาในด้านการทำงานดีไซน์ ในฐานะที่เธอเชี่ยวชาญด้านนี้ เธอจึงได้ทำคู่มือขึ้นมาเอง เพื่อสอนคนรอบตัวของเธอเรื่องการออกแบบงานต่าง ๆ
ด้วยเหตุนี้ เธอจึงมองเห็นโอกาสแล้วว่ายังไม่มีแพลตฟอร์มออกแบบที่สามารถใช้งานได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านการออกแบบ ซึ่งความคิดนี้ก็ได้ถูกต่อยอดให้กลายเป็นการเปิดตัวของ Graphic Design Platform ที่มีชื่อว่า “Canva”
โดยที่ Canva ตั้งเป้าหมายอยากให้การออกแบบที่สุดแสนจะซับซ้อน เป็นเรื่องที่ทำได้โดยง่าย สำหรับบุคคลธรรมดา ที่ไม่มีสกิลด้านงานดีไซน์ ให้สามารถทำงานออกแบบได้ออกมาดูสวยงามและน่าดึงดูด แต่ก็ไม่ได้เรียบง่ายจนทำอะไรแอดวานซ์ ๆ ไม่ได้ เพราะก็ยังมีเครื่องมือครบครัน สามารถรองรับงานดีไซน์ที่ Pro มากขึ้นได้
สาเหตุอะไรที่ทำให้ Canva มีมูลค่าธุรกิจสูงถึง 15,000 ล้าน ในปี 2021 ?
ปัจจัยแรกที่เป็นจุดสำคัญที่ช่วยผลักดันให้ Canva ประสบความสำเร็จมาโดยตลอด นั่นคือการทำธุรกิจรูปแบบ Freemium เราขออธิบายก่อนว่า Freemium ย่อมาจาก “Free + Premium” มีความหมายว่า ลูกค้าสามารถใช้บริการได้ฟรี และถ้าอยากใช้ฟังก์ชันที่พรีเมียม ก็สามารถจ่ายเพิ่มได้
การทำธุรกิจรูปแบบ Freemium ทำให้ Canva ดึงดูดผู้ใช้ใหม่ได้จริง เพราะการที่ให้ผู้ใช้ทดลองการใช้งานได้ก่อนแบบฟรี ๆ จะทำให้เขาเห็นคุณค่าของ Canva ว่ามันสามารถช่วยแก้ปัญหาด้านการทำงานดีไซน์ได้จริง และถ้าหากพวกเขาอยากได้ฟังก์ชันครบ ๆ มากกว่านี้ เขาก็จะยินดีเสียเงินให้กับแพ็กเกจ Pro ต่อไป
นอกจากนี้ อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ Canva สามารถมีมูลค่าธุรกิจมากถึง 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐได้ในปี 2021 มาจากการร่วมมือกับ FedEx เมื่อกลางปี 2020 ที่ผ่านมา ที่ถือเป็นองค์กรขนส่งขนาดใหญ่ที่มีสาขามากกว่า 2,000 แห่งในสหรัฐอเมริกา
ด้วย Concept ของการ “Design-to-Print” สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการพิมพ์งานที่ตนเองดีไซน์ พร้อมกับกระดาษคุณภาพดี และการพิมพ์แบบ Professional ทำให้ภาพที่ออกมาเหมือนกับที่เราเห็นในจอคอม และ FedEx ก็ยังให้ความสำคัญถึงความพิถีพิถันของการขนส่ง หายห่วงเรื่องกระดาษยับหรือชำรุดไปได้เลย หรือถ้าใครสะดวกไปรับที่หน้าร้าน ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่สามารถทำได้เช่นกัน
การร่วมมือกับ FedEx ส่งผลให้ Brand Awareness ของ Canva เพิ่งสูงขึ้นไปอีก บวกกับธุรกิจรูปแบบ Freemium ที่เปิดกว้างให้ผู้ใช้ใหม่เข้ามาโดยตลอด ส่งผลให้ ณ ปัจจุบัน ปี 2021 Canva มีผู้ใช้ต่อเดือนมากกว่า 55 ล้านคน ในมากกว่า 190 ประเทศ และทำรายได้ได้มากกว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งนับเป็น 130% ของรายได้จากปีที่แล้วเลยทีเดียว
จนตอนนี้ Canva ได้กลายเป็นหนึ่งใน Graphic Design Platform ที่เติบโตได้รวดเร็วที่สุด และ Melanie Perkins ผู้ก่อตั้ง Canva ก็ได้ผันตัวเป็นบุคคลที่รวยที่สุดอันดับ 2 ของประเทศออสเตรเลียด้วยเช่นกัน
ทิศทางในอนาคตของ Canva
จากที่ได้เห็นการเจริญเติบโตของ Canva ที่มาได้ไกลขนาดนี้ ภายในเวลาเพียง 8 ปี และมีแนวโน้มที่จะถูกพัฒนาไปได้ไกลกว่านี้อีก ทั้งหมดนี้ เริ่มจากเพียงประกายความคิดที่อยากจะแก้ปัญหาด้านการทำงานดีไซน์ จนได้สร้าง Canva ให้มาเป็น Graphic Design Platform ที่เปิดโอกาสให้คนทั่วโลกเข้าถึงการทำงานดีไซน์ได้ง่าย รวดเร็ว และสะดวกมากยิ่งขึ้น
โดย Canva สามารถตอบสนองผู้ใช้ได้หลายกลุ่ม ไม่ว่าจะอยากทำงานดีไซน์รูปแบบไหนก็ตาม เช่น Presentation, Resume, Poster, Logo, ใบปลิว, เมนูอาหาร, ปกหนังสือ, และอื่น ๆ อีกมากมาย หรือถ้าต้องการดีไซน์งานที่เฉพาะตัวมาก ๆ ก็สามารถนำ Template หลาย ๆ อันที่มีอยู่มาประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับตัวเองได้เช่นกัน
นี่ยังไม่นับที่ Canva เปิดให้ใช้งานได้ฟรี ทำให้ดึงดูดผู้ใช้ใหม่ได้อยู่เสมอ ไม่มีข้อบังคับให้ผูกมัดกับ Email, บัตรเครดิต, หรือการสมัครสมาชิก (แต่ถ้าต้องการใช้งานแบบไร้ขีดจำกัด สมัครแบบ Pro จะคุ้มกว่า)
ซึ่งทุกวันนี้ Canva ก็ยังคงอัปเดต Template, Icon, และรูปภาพใหม่ ๆ อยู่ทุกวัน ให้ผู้ใช้ได้เลือกสรรกันแบบไม่เบื่อกันไปเลย รวมถึงเมื่อสิ้นปี 2020 Canva ก็เพิ่งเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ ให้ผู้ใช้สามารถทำงานร่วมกันได้พร้อมกันในรูปแบบของ Collaboration ซึ่งฟีเจอร์นี้ก็สามารถต่อยอดไปได้อีกมากกว่าการดีไซน์งานแล้ว เช่น การทำ Workshop แบบเรียลไทม์ โดยใช้ Canva เป็นสื่อกลาง เป็นต้น
สรุปทั้งหมด
การเติบโตครั้งยิ่งใหญ่ของ Canva ในปีนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ส่วนหนึ่งเกิดจากคุณค่าของ Canva ที่สามารถแก้ไขปัญหาการทำงานดีไซน์ของคนทั่วไปได้จริง สามารถช่วยให้ผู้ใช้สร้างผลงานดีไซน์ออกมาได้ ทั้ง ๆ ที่ไม่มีแม้แต่สกิลการออกแบบ แต่ให้ผลงานที่สวยและน่าดึงดูด ในระยะเวลาอันสั้น
สำหรับใครที่กำลังมีปัญหาด้านการทำงานดีไซน์ และยังไม่เคยลองใช้ Canva เราอยากแนะนำให้คุณลองเอางานที่คุณกำลังจะออกแบบ ไปลองทำใน Canva ดู แล้วคุณจะพบฟีเจอร์มากมายที่ช่วยให้งานของคุณทั้งสวยงามขึ้น และประหยัดเวลาได้ด้วยในเวลาเดียวกัน แล้วคุณอาจจะเป็นหนึ่งใน 55 ล้านคนทั่วโลก ที่เลือก Canva ไว้เป็น Graphic Design Platform ในดวงใจก็เป็นได้