Service
Business Tech Stack ConsultantClickUp ConsultantSAP APITech ReviewEndlessloop Consultant
Service
All Articles
Growth Trends
Growth Video
We Need Tool Talk
Startup Partners
Community
Advertise
Subscribe
🔥 Hot!
สอบถามทุกปัญหาเกี่ยวกับการสร้างธุรกิจด้านดิจิทัลที่นี่
Service
Business Tech Stack ConsultantClickUp ConsultantSAP APITech ReviewEndlessloop Consultant
Service
All Articles
Growth Trends
Growth Video
We Need Tool Talk
Startup Partners
Community
Advertise

Growth Update

นักโฆษณาควรระวัง! Chrome ประกาศบล็อก ‘Heavy Ads’ ออกจาก Browser

Google Chrome ประกาศบล็อกโฆษณาประเภท Heavy Ads ออกจากเบราว์เซอร์
By
The Growth Master Team
August 28, 2020
Light
Dark
ส่งต่อเรื่องราวดีๆ
The Growth Master Team
The Growth Master Team

The Growth Master Team ผู้รักในการเรียนรู้ หลงใหลในเทคโนโลยี และแฮปปี้กับการเติบโต

นักเขียน

หลังจากที่มีข่าวลือเรื่องการบล็อกโฆษณาประเภท Heavy Ads ออกมาในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา วันนี้ Google Chrome เว็บเบราว์เซอร์เจ้าดังก็ได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะ ‘บล็อก’ โฆษณาประเภทนี้ที่แฝงอยู่ในแต่ละเว็บไซต์ออกจากระบบ เพื่อเป็นการถนอมและรักษาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือให้มีอายุการใช้งานนานขึ้น

Heavy Ads คืออะไร?

Heavy Ads คือโฆษณาออนไลน์บนเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่มีรายละเอียดสูงหรือกินระยะเวลานานเกินไปจนทำให้คอมพิวเตอร์ต้องประมวลผลหนักขึ้น ผู้ใช้งานจะสามารถใช้งานอุปกรณ์ได้ลื่นไหลน้อยลง และนำมาสู่การลดระยะการใช้งานของแบตเตอรี่ในที่สุด

ซึ่งโฆษณาประเภทนี้ จะใช้ข้อมูลอินเทอร์เน็ตมากกว่า 4 MB และกินเวลาในการประมวลผลของ CPU ทั้งหมดมากกว่า 60 วินาที ยกตัวอย่างเช่นโฆษณาที่ถูกใช้ในการขุด BitCoin หรือโฆษณาที่สามารถเล่นมินิเกมส์ได้

เรียกได้ว่าโฆษณาประเภทนี้เป็นหนึ่งในตัวเจ้าปัญหาของสาเหตุที่ Chrome ใช้หน่วยความจำคอมพิวเตอร์ (RAM) เยอะกว่าโปรแกรมอื่น ๆ เลยทีเดียว

จากการประกาศของ Chrome ในครั้งนี้ส่งผลกระทบกับใคร อย่างไรบ้าง

แน่นอนว่าเมื่อมีการประกาศตัดโฆษณาประเภทดังกล่าวออกมาดังนี้ นักการตลาดและนักโฆษณาออนไลน์หลายคนต่างก็รู้สึกตกใจจนต้องรีบเช็คโฆษณาของตนไปตาม ๆ กัน 

ถึงแม้ Chrome จะกล่าวไว้ว่ามีเพียง 0.3% ของโฆษณาบนเว็บไซต์ทั้งหมดเท่านั้นที่เข้าข่ายการเป็น Heavy Ads แต่เมื่อเทียบกับเว็บเบราว์เซอร์แพลตฟอร์มอื่นแล้ว Chrome ก็มีส่วนแบ่งการตลาดและจำนวนผู้ใช้งานมากถึง 69% เลยทีเดียว จึงสามารถบอกได้ว่า 0.3% นั้นคิดเป็นจำนวนการมองเห็นที่มากพอสมควร

ผู้ที่น่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการบล็อกในครั้งนี้ ก็คงหนีไม่พ้นเจ้าของโฆษณาประเภทวีดีโอยาว (Long-form Video), โฆษณาที่ติด Tags เยอะเป็นพิเศษ หรือโฆษณาแบบ Rich Media ซึ่งมีการเคลื่อนไหวเยอะ มีเสียง และอาจจะให้ผู้ที่เห็นโต้ตอบได้ เป็นต้น

ภาพจาก PPC Land

อย่างไรก็ตาม โฆษณาเหล่านี้จะยังไม่ถูกตัดออกจากเว็บเบราว์เซอร์ในทันที แต่ยังมีเวลาให้แบรนด์และนักการตลาดได้ตรวจสอบโฆษณาของตนอีกประมาณ 10 วัน หลังจากนั้น หากโฆษณาใดไม่ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด Chrome ก็จะทำการปิดการมองเห็นของโฆษณานั้น ๆ แล้วเอากล่องสีเทามาวางทับพร้อมข้อความ ‘Ad removed’ แทน (ตามภาพตัวอย่าง)

สรุปทั้งหมด

การเข้าแทรกแซงโฆษณาครั้งนี้ของ Google Chrome นับว่าเป็นสิ่งที่นักโฆษณาและนักการตลาดต้องรีบไหวตัวให้ทัน ควรตรวจสอบโฆษณาของตนให้ดีก่อนที่จะทำการเผยแพร่ออกไป ไม่อย่างนั้นสิ่งที่ลงทุนไป ไม่ว่าจะเป็นเงินลงทุน ไอเดีย หรือน้ำพักน้ำแรงก็อาจจะสูญหายไปอย่างน่าเสียดายได้

Source: Digiday , Adexchanger
ส่งต่อเรื่องราวดีๆ

คุณอาจจะชอบบทความนี้...

กระดานเทรด FTX สร้างบริการใหม่ซื้อ-ขายหุ้นด้วยเหรียญคริปโทฯ Stablecoin
Google AI การันตีความแม่นยำ ปล่อย ‘Interview Warmup’ ช่วยฝึกสัมภาษณ์งาน

ไม่พลาดทุกข้อมูลที่ช่วยให้ธุรกิจคุณเติบโตได้เร็วยิ่งขึ้น

ติดตามได้หลากหลายช่องทางที่คุณสะดวก ไม่ว่าจะเป็น e-mail, line หรือ youtube
Subscribe
แหล่งเรียนรู้สำหรับคุณและธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนบนโลกดิจิทัลด้วยการใช้ศาสตร์ Growth, เครื่องมือด้านเทคโนโลยี, การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการสร้างทีม
connect@thegrowthmaster.com
Privacy Policy
Terms & Agreement
Services
Business Tech Stack
Advertise
Tech Review
Subscribe
Category
Software Review
All Articles
Growth Trends
Company
We're Hiring
Internship Program
Community
Contact
Channels
Facebook
Line OA
Youtube
© Copyright 2020 W JAMES Company Limited All Rights Reserved
"Grow Like a Master"