ตั้งแต่ตลาดคริปโทฯ กำลังอยู่ในช่วงขาลงเมื่อเดือนที่ผ่านมา ทำให้หลาย ๆ ธุรกิจต้องมีการปรับตัวกันอย่างยกใหญ่ เช่น Coinbase, BlockFi, Celcius Network และล่าสุดก็ถึงคราวของ Voyager Digital เว็บไซต์กระดานเทรดคริปโทฯ ที่ไปต่อไม่ไหวจนได้ออกมาประกาศล้มละลายอีกหนึ่งราย ซึ่งนี่ก็เป็นการสะท้อนอะไรหลาย ๆ อย่างของวงการคริปโทฯ ในตอนนี้
Voyager Digital เว็บกระดานเทรดคริปโทฯ ยื่นฟ้องล้มละลายแล้ว
ก่อนหน้านี้ Voyager Digital กระดานเทรดคริปโทฯ ได้ออกมาประกาศยุติการซื้อขาย การฝาก และการถอนเงินทั้งหมดบนแพลตฟอร์ม ก่อนวันพุธที่ 6 กรกฎาคม (เมื่อวาน) ได้ตัดสินใจยื่นฟ้องล้มละลายเพื่อฟื้นฟูกิจการต่อศาลเขตทางใต้ของนิวยอร์ก ในหมวดหมู่ที่ 11 สำหรับหน่วยงานธุรกิจทั้งหมด อันได้แก่ Voyager Digital LLC, Voyager Digital Holdings และ Voyager Digital, Ltd.
สำหรับสาเหตุในการตัดสินใจยื่นล้มละลายในครั้งนี้มาจากการที่บริษัทประสบปัญหาทางการเงินอย่างร้ายแรง โดยได้รับผลกระทบจากการผิดชำระหนี้ของกองทุนเฮดจ์ฟันด์ Three Arrows Capital (3AC) กองทุนป้องกันความเสี่ยงคริปโทฯ ในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งได้กู้ยืมเงินจาก Voyager Digital ไป โดยมีมูลค่ารวมกว่า 660 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แบ่งเป็น Bitcoin จำนวน 15,250 BTC และ USDC อีกจำนวน 350 ล้าน USDC
ในการยื่นฟ้องล้มละลาย คาดว่า Voyager Digital มีเจ้าหนี้มากกว่า 100,000 ราย และมีการประเมินสินทรัพย์อยู่ระหว่าง 1 พันล้านดอลลาร์ ถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์ พร้อมทั้งมีหนี้สินในที่มีมูลค่าเท่ากัน
สำหรับขั้นตอนการฟ้องล้มละลายในหมวดที่ 11 ศาลจะระงับการดำเนินคดีทางแพ่งที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และช่วยให้บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ในขณะที่มีการปรับโครงสร้างของบริษัท โดยการเสนอแผนการฟื้นฟูหรือแผนการปรับโครงสร้างองค์กรจะต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของเจ้าหนี้ ซึ่งถ้าหากบริษัทไม่มีการนำเสนอแผน เจ้าหนี้จะเป็นผู้เสนอแทนได้
Stephen Ehrlich ซีอีโอของ Voyager Digital กล่าวว่า “ความผันผวนและผลกระทบของปัญหาเศรษฐกิจต่อตลาดคริปโทฯ ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ตลอดจนการผิดนัดการชำระหนี้ของ 3AC ทำให้เราต้องตัดสินใจอย่างรอบคอบและเด็ดขาดในตอนนี้ และผมเชื่อว่าการปรับโครงสร้างองค์กรเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการปกป้องทรัพย์สินบนแพลตฟอร์ม และเพิ่มมูลค่าสูงสุดสำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด รวมถึงตัวลูกค้าที่ใช้แพลตฟอร์มเองด้วย”
อย่างไรก็ตาม Three Arrows Capital (3AC) ก็ได้ประกาศเข้าสู่กระบวนการล้มลายเมื่อวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมาด้วย และ Sam Bankman-Fried ซีอีโอของ FTX ได้เปิดเผยว่า “อาจจะมีบริษัทคริปโตจำนวนมากที่ใกล้จะถึงเวลาผิดนัดการชำระหนี้และประกาศล้มละลาย และเผยโดมิโนเอฟเฟ็กต์กำลังจะตามมาในอีกไม่ช้า”
สรุปทั้งหมด
สำหรับการล้มละลายของ Voyager Digital ก็เป็นผลกระทบแบบโดมิโนที่ได้รับมาจากเหตุการณ์การล่มสลายของ Terra และเทขายเหรียญ Luna ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเพียงเวลาไม่กี่เดือนนี้หลายบริษัทก็ได้รับผลกระทบในเชิงลบนี้ไปเรียบร้อยแล้ว เราก็ต้องมาติดตามดูต่อไปว่าจะมีบริษัทไหนที่จะได้รับผลกระทบในแบบเดียวกัน ซึ่งอาจไม่เป็นผลดีเลยต่อผู้ใช้งานในวงการคริปโทเคอร์เรนซีทุกคน