Service
Business Tech Stack ConsultantClickUp ConsultantSAP APITech ReviewEndlessloop Consultant
Service
All Articles
Growth Trends
Growth Video
We Need Tool Talk
Startup Partners
Community
Advertise
Subscribe
🔥 Hot!
สอบถามทุกปัญหาเกี่ยวกับการสร้างธุรกิจด้านดิจิทัลที่นี่
Service
Business Tech Stack ConsultantClickUp ConsultantSAP APITech ReviewEndlessloop Consultant
Service
All Articles
Growth Trends
Growth Video
We Need Tool Talk
Startup Partners
Community
Advertise

Growth Update

เปิดเบื้องหลังสาเหตุที่ทำให้ Amazon ต้องสูญเงินค่าปรับกว่า 887 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังฝ่าฝืนกฎ GDPR

Amazon สูญเงินค่าปรับกว่า 887 ล้านดอลลาร์หลังฝ่าฝืนกฎ GDPR เนื่องจากมีการนำข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าไปใช้ในทิศทางอื่นเพื่อผลประโยชน์ของตน โดยที่ไม่ได้ขออนุญาตก่อน
By
Pea Tanachote
August 4, 2021
Light
Dark
ส่งต่อเรื่องราวดีๆ
Pea Tanachote
Pea Tanachote

อดีตนักร้อง ที่ผันตัวมาเขียนคอนเทนต์ ชอบดูฟุตบอลและ Blackpink เป็นชีวิตจิตใจ นักเขียนคอนเทนต์ที่ใคร ๆ ก็ต้องการตัว (โดยเฉพาะตำรวจ)

นักเขียน

เป็นสัปดาห์ที่ทรหดพอตัวสำหรับ Amazon ตลาดออนไลน์รูปแบบ E-commerce ระดับโลกที่ครองอันดับต้น ๆ ของเว็บไซต์ยอดนิยมมาโดยตลอด เพิ่งได้ออกมาเปิดเผยว่ากรรมการข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศลักเซมเบิร์ก (Commission Nationale pour la Protection des Données หรือ CNPD) ได้เรียกเก็บค่าปรับจาก Amazon ไปกว่า 887 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากมีการละเมิดกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในสหภาพยุโรป (General Data Protection Regulation หรือ GDPR) เกิดขึ้น

เหตุการณ์นี้ทำให้ Amazon ตกอยู่ในที่นั่งลำบากมากกว่าเดิมไปอีก เพราะเดิมทีก็ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ Covid-19 อยู่แล้ว ทั้งปัญหาด้านการขนส่ง และด้านการขาดแคลนพนักงานที่ไม่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า อีกทั้ง Amazon ยังไม่สามารถวางแผนการดำเนินธุรกิจต่อไปได้ เพราะสถานการณ์ปัจจุบันยังไม่มั่นคงและไม่สามารถคาดเดาอนาคตได้

เพราะฉะนั้น ในบทความนี้ The Growth Master จะมาเล่าเรื่องราวทั้งหมดเกี่ยวกับวิกฤติครั้งนี้ของ Amazon ถึงเบื้องหลังสาเหตุที่ Amazon ต้องสูญเงินค่าปรับจำนวนมหาศาลครั้งนี้ และ Amazon จะมีวิธีรับมือกับคดีนี้อย่างไร หากพร้อมแล้วไปติดตามกันได้เลย

แต่ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักกันก่อนว่า General Data Protection Regulation หรือ GDPR ที่ Amazon โดนกล่าวหาว่าละเมิดกฎนั้น มีความสำคัญอย่างไรต่อโลก E-commerce

General Data Protection Regulation หรือ GDPR คืออะไร ?

General Data Protection Regulation (GDPR) คือ กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในสหภาพยุโรป เพื่อปกป้องข้อมูลของผู้บริโภคไม่ให้นำไปเผยแพร่ในที่สาธารณะ หรือใช้ในทิศทางอื่นโดยที่ผู้บริโภคไม่ได้ยินยอม โดยหากใครฝ่าฝืนกฎ GDPR จะถูกลงโทษด้วยการปรับค่าปรับเป็นจำนวนเงิน 20 ล้านยูโร หรือ 4% ของรายได้ทั่วโลกจากปีก่อนหน้านั้น (ถ้ายอดไหนมีมูลค่ามากกว่า ก็จะปรับตามตัวเลขนั้น)

หากต้องการเรียนรู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ General Data Protection Regulation (GDPR) และในไทยก็มีลักษณะกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในเชิงเดียวกัน นั่นคือ Personal Data Protection Act (PDPA) หากสนใจสามารถศึกษาได้ที่ บทความนี้ 

เหตุผลทำไมเรื่องราวนี้ถึงเกิดขึ้น ?

เรื่องทั้งหมดเกิดมาจากที่หน่วยงานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลจากสหภาพยุโรปพบปัญหาจากการที่ Amazon ได้นำข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าไปใช้ในการโฆษณาสินค้าเพื่อหวังสร้างรายได้ให้กับตน ทั้ง ๆ ที่ลูกค้าไม่ได้มีการยินยอมให้นำข้อมูลส่วนตัวไปใช้ในทิศทางอื่น 

Amazon มีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับคดีครั้งนี้ ?

Amazon ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้อย่างยิ่ง และได้ออกมาแถลงการณ์อย่างละเอียดต่อสื่อการว่า “การเก็บรักษาข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าและความไว้วางใจของพวกเขา เป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญเป็นอันดับ 1 ไม่มีการละเมิดข้อมูลเกิดขึ้น และไม่มีข้อมูลลูกค้าถูกเปิดเผยต่อบุคคลที่สาม และยืนยันว่านี่เป็นความจริงที่ไม่อาจโต้แย้งได้ เราไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับคำตัดสินของ CNPD และเราตั้งใจจะยื่นอุทธรณ์เพื่อสะสางคดีนี้ต่อไป”

ตามคำแถลงการณ์ยังกล่าวอีกว่า วิธีการทำโฆษณาของ Amazon เป็นการแสดงโฆษณาสินค้าที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าคนนั้น ๆ โดยเฉพาะ และก่อนที่จะกล่าวหา เรื่องนี้ยังไม่ถูกพิสูจน์และยังไม่ได้นำไปตีความทางกฎหมายเลยด้วยซ้ำ

ภาพจาก CNBC

ทั้งนี้ทั้งนั้น หาก Amazon เป็นฝ่ายผิดในเรื่องนี้จริง ค่าปรับครั้งนี้ก็สูงเกินกว่าเรตที่ GDPR กำหนดไว้อยู่ดี เพราะจากที่กฎหมายกำหนดไว้ว่า ค่าปรับจะคิดเป็น 4% ของรายได้ทั่วโลกจากปีก่อนหน้านั้น ซึ่งรายได้ของ Amazon เมื่อปี 2020 มีมูลค่า 21,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อมาเทียบกับจำนวนที่ CNPD คิดค่าปรับแล้ว ดันกลายเป็น 4.2% คิดเป็นค่าปรับที่สูงเกินไปถึง 35 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

แต่ถึงแม้ CNPD จะลดค่าปรับลงให้เป็น 4% ก็ยังคงเป็นเรื่องที่น่าตกใจสำหรับ Amazon เพราะเมื่อเดือนที่แล้ว ได้มีผู้เชี่ยวชาญออกมาคาดการณ์ว่า CNPD จะคิดค่าปรับ Amazon เป็นจำนวนเงินประมาณ 425 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่พอเอาเข้าจริง ๆ แล้ว ดูเหมือนว่า Amazon จะตกอยู่ในที่นั่งลำบากกว่านั้น 2 เท่า เพราะ หาก Amazon แพ้คดี เขาจะต้องจ่ายค่าปรับเต็มจำนวนถึง 887 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 30,000 ล้านบาทไทย) เลยทีเดียว

หลังจากนี้เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป ?

สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปยังไม่มีใครให้คำตอบได้ ยิ่งตอนนี้ Amazon กำลังประสบปัญหาจากสถานการณ์ Covid-19 อยู่ก่อนแล้ว เนื่องจาก Amazon กำลังขาดแคลนพนักงานในคลังสินค้า และระบบขนส่งติดขัด ทำให้ไม่สามารถขนส่งสินค้าได้ตามความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นในช่วงโควิดได้ 

อีกทั้งขณะนี้ Amazon เพิ่งได้มาอยู่ภายใต้การดูแลของ CEO คนใหม่อย่าง Andy Jassy เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2021 ที่ผ่านมา เขาได้ออกมาแสดงความกังวลต่อนักลงทุนเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการเติบโตที่อาจเกิดการชะลอตัวของบริการ Amazon ด้าน E-commerce ในช่วงครึ่งหลังปี 2021 ซึ่งหลังจากยื่นอุทธรณ์ไปแล้ว เหตุการณ์จะเป็นอย่างไร เราคงต้องคอยมาติดตามกันต่อไป

Andy Jassy, CEO คนใหม่ของ Amazon l ภาพจาก Business Insider

สรุปทั้งหมด

เรื่องราวทั้งหมดนี้เสมือนเป็นการตอกย้ำถึงความสำคัญของกฎหมาย GDPR ที่องค์กรต้องคำนึงถึงเมื่อทำธุรกิจค้าขายข้ามประเทศ เพราะถึงแม้เราต้องเก็บข้อมูลลูกค้าเพื่อมาทำการตลาดให้ตรงกับความต้องการของพวกเขามากที่สุด แต่อย่าลืมว่าหากเรานำข้อมูลเหล่านั้นไปใช้ทำอย่างอื่นโดยที่ไม่ได้ขออนุญาตก่อน การกระทำนี้จะถือว่าองค์กรเราฝ่าฝืนกฎ GDPR และเราก็จะโดนคดีคล้าย ๆ กับ Amazon ครั้งนี้ ทั้งเสียค่าปรับและเสียความเชื่อใจของลูกค้า 

ที่สำคัญไปกว่านั้น ไม่ใช่เฉพาะธุรกิจค้าขายข้ามประเทศเท่านั้นที่จะต้องคำนึงถึงเรื่องนี้ ธุรกิจค้าขายในประเทศก็ต้องให้ความสำคัญเช่นกัน เพราะ ประเทศไทยก็มีกฎหมาย PDPA ที่เอาไว้คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับคนไทย และประเทศอื่นก็มีกฎหมายด้านความปลอดภัยของข้อมูลเหมือนกัน ดังนั้นการที่เราจะสร้างเว็บไซต์ E-commerce เราควรต้องศึกษาทั้งกฎ GDPR และ PDPA ให้ละเอียดก่อนเสมอ 

Source : CNN
ส่งต่อเรื่องราวดีๆ

คุณอาจจะชอบบทความนี้...

กระดานเทรด FTX สร้างบริการใหม่ซื้อ-ขายหุ้นด้วยเหรียญคริปโทฯ Stablecoin
Google AI การันตีความแม่นยำ ปล่อย ‘Interview Warmup’ ช่วยฝึกสัมภาษณ์งาน

ไม่พลาดทุกข้อมูลที่ช่วยให้ธุรกิจคุณเติบโตได้เร็วยิ่งขึ้น

ติดตามได้หลากหลายช่องทางที่คุณสะดวก ไม่ว่าจะเป็น e-mail, line หรือ youtube
Subscribe
แหล่งเรียนรู้สำหรับคุณและธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนบนโลกดิจิทัลด้วยการใช้ศาสตร์ Growth, เครื่องมือด้านเทคโนโลยี, การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการสร้างทีม
connect@thegrowthmaster.com
Privacy Policy
Terms & Agreement
Services
Business Tech Stack
Advertise
Tech Review
Subscribe
Category
Software Review
All Articles
Growth Trends
Company
We're Hiring
Internship Program
Community
Contact
Channels
Facebook
Line OA
Youtube
© Copyright 2020 W JAMES Company Limited All Rights Reserved
"Grow Like a Master"