สำหรับการทำการตลาดนั้น สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยก็คือการทำการทดสอบ (Testing) ว่ากลยุทธ์ที่วางเอาไว้นั้นได้ผลลัพธ์อย่างที่เราคาดหวังหรือไม่ แล้วกลยุทธ์แบบไหนที่จะโดนใจกลุ่มเป้าหมายของเรามากกว่า
และเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด การทำคอนเทนต์ลงในโซเชียลมีเดียเองก็ต้องมีการ Testing เช่นกัน
นักการตลาดหลายคนคงมีความคุ้นเคยกับ ‘A/B Testing’ หรือคือการทดสอบโดยการเปรียบเทียบระหว่างของสองแบบ ไม่ว่าจะเป็นโพสต์หรือหน้าเว็บไซต์ เพื่อดูว่ารูปแบบไหนให้ผลลัพธ์ดีที่สุดกันมาบ้างแล้ว ซึ่งจะสามารถทำได้ทั้งการทดสอบด้วยตัวเอง หรือจะใช้เครื่องมือทดสอบที่มักมีให้ในการลงโฆษณาบนโซเชียลมีเดียก็ได้เช่นกัน
แต่ในวันนี้ Facebook ได้ทำการออกเครื่องมือการทดสอบแบบใหม่อย่าง ‘Organic Post Testing’ ที่จะเปิดโอกาสให้ครีเอเตอร์ได้ทดสอบประสิทธิภาพของโพสต์ที่แตกต่างกัน และแสดงต่อกลุ่มคนที่ต่างกัน โดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้นแล้ว!
ส่วนรายละเอียดของเครื่องมือใหม่นี้จะเป็นอย่างไร มีประโยชน์มากน้อยแค่ไหน ไปดูกันได้เลย
Organic Post Testing คืออะไร ทำงานอย่างไร
อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น ครีเอเตอร์สามารถทำ Organic Post Testing นี้ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ เพียงแต่ในปัจจุบันจะสามารถทดลองได้แค่กับโพสต์ประเภทวิดีโอเท่านั้น ซึ่งเครื่องมือดังกล่าวจะอยู่ในหน้า Creator Studio และจะแสดงขึ้นมาเมื่อกด Create Post แล้วนั่นเอง
ภาพจาก Socialmediatoday
โดยหลักการทำงานของเครื่องมือนี้ ครีเอเตอร์จะต้องเลือกโพสต์ที่แตกต่างกันมาเพื่อทำการทดสอบ พร้อมกับตั้งตัวชี้วัดความสำเร็จของโพสต์นั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นเวลาที่ใช้ดูวิดีโอ ความประทับใจ หรือยอด Engagement ต่าง ๆ
จากนั้น Facebook จะทำการแสดงโพสต์ให้ผู้ที่ติดตามเพจบางกลุ่มดู หนึ่งโพสต์ต่อหนึ่งกลุ่ม ถ้ายิ่งโพสต์ไหนมีประสิทธิภาพสูง (ตามตัวชี้วัดที่ได้ตั้งไว้ข้างต้น) ก็จะยิ่งถูกแสดงให้ผู้ติดตามเพจคนอื่น ๆ เห็นในวงที่กว้างขึ้น โดยโพสต์เหล่านี้จะยังไม่แสดงให้เห็นบนหน้าเพจอย่างเป็นทางการ นั่นหมายความว่าผู้ที่ไม่ได้ติดตามเพจก็จะยังไม่เห็นโพสต์เหล่านี้นั่นเอง
ภาพจาก Socialmediatoday
ซึ่งการทดสอบจะจบลงก็ต่อเมื่อถึงช่วงเวลาสูงสุดที่ Facebook จะอนุญาตให้ทำการทดสอบได้ หรือเมื่อประสิทธิภาพของโพสต์ที่ทำการทดสอบทั้งหมดรวมกันถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้แล้วเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น ต้องการให้โพสต์ทั้งหมดรวมกันมีจำนวน Reach ถึง 100,000 Reaches เป็นต้น
เมื่อการทดลองจบลงแล้ว Facebook ก็จะเลือกโพสต์ที่ชนะ หรือมีประสิทธิภาพสูงสุดมาแสดงให้คนทั่วไปใน Facebook เห็นเหมือนกับโพสต์ปกติอื่น ๆ
เรียกได้ว่านี่คือฟังก์ชันการทำ A/B Testing รูปแบบหนึ่ง ที่ไม่จำเป็นต้องยิงโฆษณา ไมาต้องไปถึง Facebook Business ที่เราคุ้นเคยกัน แถมไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายก็ได้รู้ว่าโพสต์แบบไหนที่จะได้ผลลัพธ์ดีที่สุดนั่นเอง
สรุปทิ้งท้าย
ถึงแม้ว่านี่จะเป็นข่าวดีสำหรับครีเอเตอร์หลาย ๆ คน แต่ในปัจจุบัน Facebook ยังปล่อยเครื่องมือนี้ออกมาให้ผู้ใช้งานบางกลุ่มได้ลองเล่นเท่านั้น และตัวเลือกของตัวชี้วัดความสำเร็จเองก็ยังมีไม่มากนักเมื่อเทียบกับ A/B Testing ของการยิงโฆษณาใน Facebook
อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดที่มีก็ยังเทียบไม่ได้กับประโยชน์ที่ครีเอเตอร์จะได้รับ เพราะฉะนั้นใครที่มีเพจอยู่ในมือ ก็อย่าลืมเข้าไปเช็คว่าตัวเองเป็นผู้โชคดีหรือไม่กันนะคะ
แต่สำหรับใครที่ยังไม่มีเจ้าเครื่องมือนี้ขึ้นมาใน Creator Studio ก็ยังไม่ต้องรีบเสียใจไปเช่นกัน เพราะเชื่อว่าในอีกไม่นานนี้ Facebook จะต้องมีข่าวดีมาให้เห็นกันแน่นอนค่ะ