จากสถานการณ์ COVID-19 ที่ผ่านมา เชื่อว่าหลายคนคงจะได้เห็นความสำคัญและบทบาทที่เพิ่มมากขึ้นของ Digital Marketing ซึ่งเติบโตคู่กันมากับการขายสินค้าออนไลน์หรือ E-Commerce กันแล้ว
แน่นอนว่าหนึ่งในช่องทางที่นักการตลาดหลายคนเลือกใช้เมื่อพูดถึงคำว่า Digital Marketing ก็คงหนีไม่พ้น ‘Google Ads’ เครื่องมือทางการโฆษณาโดย Google ซึ่งจะเสริมสร้างให้การทำธุรกิจที่ใช้การตลาดผ่านเครื่องมือค้นหาบนอินเตอร์เน็ต หรือ Search-Engine-Marketing (SEM) มีประสิทธิภาพมากขึ้น
และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา Google ก็ได้ออกเครื่องมือสำหรับการโฆษณาบนแพลตฟอร์มของตัวเองออกมาใหม่ เพื่อเอาใจนักการตลาดสาย Digital Marketing และเพื่อช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ สามารถก้าวผ่านวิกฤติ COVID-19 นี้ไปได้ด้วยดีพร้อมกันนั่นเอง
4 เครื่องมือใหม่ใน Google Ads
ซึ่งการอัพเดตเครื่องมือทางการโฆษณาใหม่ใน Google Ads ครั้งนี้ Google ได้มุ่งเน้นไปที่การสร้าง Action ให้กับกลุ่มเป้าหมายหลังจากที่ได้ค้นหาตัวสินค้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมถึงกระตุ้นให้พวกเขาได้เกิดความรู้สึกอยากซื้อสินค้ามากขึ้นด้วยการสร้างประสบการณ์ในการค้นหาที่มากกว่าเดิมอีกด้วย
ส่วนเครื่องมือที่เพิ่มเติมขึ้นมามีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันได้เลย :)
1. สามารถใส่รูปใน Ads ได้แล้ว
โดยปกตินั้น การซื้อโฆษณาใน Google Ads จะทำให้เราได้พื้นที่ขึ้นมาเป็นคนแรก ๆ ในหน้าผลการค้นหา ขึ้นอยู่กับว่าเราได้ Bid คีย์เวิร์ดที่จะใช้ในราคาเท่าไหร่
แต่โฆษณาที่แสดงหลังจากที่ผู้ใช้งานได้ค้นหาด้วยคีย์เวิร์ดนั้น ๆ แล้ว จะขึ้นมาเพียงแค่ข้อความและ URL ของธุรกิจเท่านั้น ซึ่งนับว่าเป็นข้อจำกัดใหญ่อย่างนึงสำหรับธุรกิจที่ต้องการขายสินค้าเลยก็ว่าได้ เพราะเพียงแค่ข้อความอย่างเดียวก็อาจไม่สามารถสร้างประสบการณ์ในการขายที่ดีให้กับลูกค้าได้นั่นเอง
Google เล็งเห็นถึงปัญหานี้ จึงได้ออกเครื่องมือโฆษณารูปแบบใหม่ ที่เปิดให้ผู้ใช้งานสามารถลงรูปสินค้าหรือรูปที่ต้องการใช้ในการโปรโมทได้ใน Google Ads เพื่อที่จะให้กลุ่มลูกค้าที่ค้นหาด้วยคีย์เวิร์ดนั้น ๆ ได้เห็นภาพของสินค้าและบริการได้รวดเร็วมากขึ้น ซึ่งอาจนำมาสู่การตัดสินใจซื้อสินค้าที่เร็วมากขึ้นอีกด้วย
2. เพิ่ม Markers สำหรับสิ่งที่ต้องการเน้นใน Display Ads
สำหรับ Ads ประเภท Display Ads นั้น Google ก็ได้ออกฟีเจอร์ใหม่ที่จะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดความสนใจและเกิด Call To Action ได้ง่ายมากขึ้นเช่นเดียวกัน นั่นก็คือฟีเจอร์การเพิ่ม Markers ลงบนรูปภาพของสินค้าใน Display Ads เพื่อที่จะไฮไลท์ส่วนที่ผู้ขายต้องการเน้นย้ำ ไม่ว่าจะเป็น ‘SALE’ , ‘จัดส่งภายใน __ วัน’ , ‘จัดส่งฟรี’ หรือ ‘ข้อเสนอเวลาจำกัด’
ซึ่งฟีเจอร์นี้นับว่าเป็นประโยชน์ต่อนักการตลาดอย่างมาก เพราะทำให้แบรนด์สามารถสื่อสารกับลูกค้าได้มากขึ้นในเวลาและพื้นที่ที่เท่ากันเมื่อเทียบกับการซื้อพื้นที่โฆษณาในรูปแบบก่อนนั่นเอง
3. เครื่องมือจัดการ Layout การโฆษณารูปแบบใหม่
ลืมการจัดวางหน้าโฆษณาแบบเดิม ๆ ไปได้เลย! เพราะ Google ได้ออกเครื่องมือการจัดวาง Layout รูปแบบใหม่ ที่จะช่วยแสดงสินค้าของคุณให้กับลูกค้าได้ดูในหน้าผลการค้นหาแบบที่ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการโชว์รูปสินค้าควบคู่ไปกับชื่อแบรนด์และโลโก้, การเพิ่มแคปชั่นที่เน้นย้ำโปรโมชั่นต่าง ๆ รวมไปถึงการสร้างวีดีโอโฆษณาโดยการเอารูปสินค้ามาเรียบเรียงโดยอัตโนมัติให้อีกด้วย
ด้วยเครื่องมือนี้ จะทำให้โฆษณาที่แบรนด์ลงมีความโดดเด่นและน่าค้นหามากยิ่งขึ้น แถมยังช่วยให้ลูกค้าได้รับรู้ข้อมูลของผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ได้ดีกว่าเดิม ทำให้เกิดการตัดสินใจที่รวดเร็วและง่ายดายมากขึ้นนั่นเอง
4. ใส่ Resources เพิ่มเติมใน Advertising Solutions Center
นอกจากเครื่องมือต่าง ๆ ที่ได้ออกมาเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้กับลูกค้าผ่านทางโฆษณาแล้ว Google ยังได้เพิ่มแหล่งข้อมูลอีกมากมายลงใน Advertising Solutions Center หรือศูนย์รวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการทำการตลาดให้กับผู้ใช้งาน Google Ads และนักการตลาดทั่วไปอีกด้วย
โดยแหล่งข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้นักการตลาดได้รับรู้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับการนำไปทำเป็นกลยุทธ์ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมของผู้บริโภคหรือเทรนด์ต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยให้การขายมีประสิทธิภาพยิ่งกว่าเดิมนั่นเอง
และสำหรับใครที่สนใจ ก็สามารถกดเข้าไปดูได้เลยที่ Advertising Solutions Center
สรุปทิ้งท้าย
เราจะได้เห็นแล้วว่าในช่วงที่ผ่านมา หน่วยงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือเอกชนต่างก็พร้อมใจกันออกบริการหรือสินค้า เพื่อสนับสนุนธุรกิจให้ฝ่าวิกฤติไปด้วยกันโดยได้รับผลกระทบน้อยที่สุด
ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะยังไม่มีวัคซีนสำหรับป้องกันโรค COVID-19 และยังไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ว่าการแพร่ระบาดจะจบลงในเมื่อไหร่ แต่หนึ่งสิ่งที่ได้เรียนรู้จากวิกฤติครั้งนี้ก็คือน้ำใจจากการที่ทุก ๆ ต่างก็ร่วมกันส่งพลังใจให้แก่กัน และยืนมือให้ความช่วยเหลือในสิ่งที่ตัวเองทำได้นั่นเอง :)
Source : socialmediatoday , thinkwithgoogle