ล่าสุด Alphabet บริษัทแม่ของ Google รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1/2022 เผยว่ามีรายได้รวม 68,011 ล้านดอลลาร์ ถือว่าเพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันจากปี 2021
แต่ด้วยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ทำให้กำไรสุทธิของบริษัทลดลงเหลือ 16,436 ล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับ 17,930 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว นั่นเป็นเพราะว่าต้นทุนการวิจัยและพัฒนาสำหรับไตรมาสนี้เพิ่มขึ้นมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1/2021 โดยเพิ่มขึ้นจาก 7,485 ล้านดอลลาร์ เป็น 9,100 ล้านดอลลาร์
รายได้จาก Google Cloud และโฆษณาบน YouTube ยังคงเติบโตสูง
Sundar Pichai ซีอีโอของ Alphabet และ Google กล่าวว่าในไตรมาสที่ 1 การเติบโตของธุรกิจ Search และ Cloud ยังคงแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง เพราะธุรกิจทั้งสองอย่างนี้ มีส่วนช่วยผู้คนและธุรกิจแบบ Digital Transformation อย่างมาก และบริษัทกล่าวว่าจะยังคงลงทุนพัฒนาในส่วนผลิตภัณฑ์และบริการนี้ต่อไป
ในด้านของ Ruth Porat ซีเอฟโอของ Alphabet และ Google กล่าวว่าทางบริษัทก็รู้สึกยินดีที่ผลประกอบการไตรมาสที่ 1 มีรายได้เติบโตขึ้นถึง 23% เมื่อเทียบปีต่อปี และจะยังคงลงทุนต่อไปในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ รวมถึงเพิ่มความสามารถเพื่อสนับสนุนการสร้างมูลค่าระยะยาวสำหรับผู้ถือหุ้นทุกคนอีกด้วย
รายได้จากกลุ่มธุรกิจที่เติบโตอย่างเห็นได้ชัดมีดังนี้ Google Cloud มีรายได้ 5,821 ล้านดอลลาร์ ถือว่าเพิ่มขึ้น 44% แต่เฉพาะส่วนธุรกิจนี้ก็ยังคงขาดทุนจากการดำเนินงานอยู่ถึง 931 ล้านดอลลาร์
ส่วนธุรกิจ Search ของ Google สร้างรายได้ 3,900 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นอย่างมากจากไตรมาส 1/2021 ที่ 3,100 ล้านดอลลาร์ ส่วนธุรกิจโฆษณาโดยรวม ที่ประกอบไปด้วย Search, YouTube รวมถึงเครือข่ายโฆษณาต่าง ๆ สามารถทำเงินได้ถึง 5,400 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกเพียงอย่างเดียว
ถ้าหากลองคิดเป็นเฉพาะส่วนรายได้จากโฆษณาของ YouTube เพิ่มขึ้น 14% เป็น 6,869 ล้านดอลลาร์ แต่ก็ยังถือว่าเป็นการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ เนื่องจากฐานการเติบโตในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา (ในช่วงการแพร่ระบาดของ Covid-19) ที่พบว่ามีการเติบโตจำนวนมหาศาลอยู่แล้ว โดยปีที่แล้วเติบโตประมาณ 30% แต่ในปีนี้เพิ่มขึ้นเพียง 20% เท่านั้น
นอกจากนี้ Sundar Pichai ซีอีโอยังกล่าวอีกว่า คลิปวิดีโอสั้นจาก YouTube Shorts ตอนนี้มีอัตราการชมต่อวันเพิ่มเป็น 30,000 ล้านครั้งแล้ว คิดเป็นการเติบโตขึ้นแบบเท่าตัวจากไตรมาส 4/2021 และเพิ่มขึ้น 4 เท่า เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ดูเหมือนว่าจะมีการเติบโตอย่างมาก แต่การเติบโตนั้นก็ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ และราคาหุ้นของบริษัทก็ลดลงประมาณ 7% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการอีกด้วย ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่าอาจมาจากการแข่งขันที่ร้อนแรงจาก TikTok อยู่ด้วย จึงทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น
สรุปทั้งหมด
Alphabet หรือบริษัทแม่ของ Google ก็ยังคงถือว่าเป็นบริษัทเทคโนโลยีอันดับต้น ๆ ของโลกที่สามารถสร้างผลประกอบการภาพรวมออกมาได้อย่างดีเยี่ยม โดยถือว่าเป็นธุรกิจด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่คาดว่าจะยังคงมีการเติบโตขึ้นอีกในอนาคตอย่างแน่นอน เพราะหลายบริษัทก็เริ่มปรับตัวเข้าสู่ยุคเทคโนโลยี Digital Transformation กันอย่างเต็มตัวมากขึ้นแล้ว จากเหตุการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19 ที่เป็นแรงผลักดันชั้นดีของการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้นั่นเอง