อย่างที่ทุกท่านทราบกันดีว่าในปีนี้สถานการณ์ของไวรัส Covid-19 เข้ามามีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันและการทำงานของผู้คนส่วนใหญ่เกือบทั้งโลก หลายองค์กรต่างก็เลือกใช้มาตรการ Work From Home เข้ามาปรับใช้กับองค์กรภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว
ซึ่งเมื่อมีการทำงานแบบ Work From Home เข้ามาการติดต่อสื่อสารกันภายในทีม ก็กลายเป็นสิ่งสำคัญที่องค์กรจะต้องให้ความสำคัญ ทำให้การแข่งขันกันในตลาดแพลตฟอร์มการสื่อสารกลับมาคึกคักอีกครั้ง ต่างฝ่ายต่างก็ต้องผลิตฟีเจอร์ใหม่ๆ ออกมาเพื่อครองความเป็นหนึ่ง และยึดส่วนแบ่งตลาดให้ได้มากที่สุด
ทำให้ล่าสุด Google Meet อีกหนึ่งแพลตฟอร์มด้านการสื่อสารจากฝั่ง Google เริ่มเดินเกมส์รุกหนักขึ้น เมื่อพวกเขาเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่อย่าง Noise Cancellation หรือการตัดเสียงรบกวนรอบข้าง บนระบบปฏิบัติการทั้ง IOS และ Android อย่างเป็นทางการ เพื่อหวังสร้างประสบการณ์ในการใช้งานที่ดีให้แก่ Users ทุกคน
ไม่เพียงแค่นั้น Google Meet ยังจัดหนักต่อเนื่องด้วยการขยายระยะเวลาการใช้บริการฟรี ไปจนถึง 31 มีนาคม ปี 2021 (จากเดิมจะหมดเขตในช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา) แน่นอนว่าการออกมาขยายระยะเวลาการใช้บริการฟรี รวมไปถึงเพิ่มฟีเจอร์เด็ดอย่าง Noise Cancellation นี้ Google ย่อมมองเห็นโอกาสในการเติบโตของพวกเขาแน่นอน
แต่เบื้องหลังการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของ Google Meet นี้จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง ติดตามต่อได้ในบทความครับ
Google Meet เพิ่มฟีเจอร์ Noise Cancellation ตามคำเรียกร้อง หวังสร้างประสบการณ์ใหม่ในการใช้งาน
Google Meet ถือเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มสำหรับการสื่อสาร ที่ได้ชื่อว่ามีฟีเจอร์การใช้งานที่หลากหลาย และทำให้การทำงานในองค์กรรวดเร็วขึ้น เช่นการเชื่อมต่อกับ G-Mail หรือ Google Calendar เพื่อสร้างนัดการประชุมได้แบบอัตโนมัติ , แชร์หน้าจอ Chrome แบบแยก Tab , การใช้งาน Video Call ความละเอียดสูง (High Quality Video)
รวมไปถึงฟีเจอร์เอาใจสาวๆ อย่าง Low Light Mode หรือการปรับแสงสว่างของหน้าเราให้ชัดขึ้น เมื่ออยู่ในสภาพแสงน้อย
ภาพจาก tomsguide
ล่าสุดทาง Google Meet ก็ทำการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่อย่าง Noise Cancellation หรือการตัดเสียงรบกวนจากรอบข้าง เพื่อให้การประชุมหรือการคุยงานสำคัญของคุณ เป็นไปได้ด้วยความราบรื่น หมดปัญหาเรื่องเสียงเปิดประตู เสียงแตรรถ เสียงแป้นพิมพ์ กวนการสนทนาได้อย่างอยู่หมัด
แต่ทาง Google Meet ก็ได้ออกมาบอกนะครับว่าเสียงที่จะถูกตัดการรบกวนนั้นจะถูกตัดออกได้เฉพาะที่เป็นเสียง Noise จริงๆ ในกรณีที่เป็นเสียงคนพูดจากทีวี หรือเสียงคนพูดพร้อมกัน ยังไม่สามารถตัดออกได้ครับ
ซึ่งความจริงแล้วฟีเจอร์ Noise Cancellation ของ Google Meet มีให้ใช้บริการตั้งแต่เดือนเมษายนแล้วนะครับ แต่ทาง Google Meet นั้นสงวนฟีเจอร์นี้ไว้ให้ใช้งานผ่านเว็บไซต์เท่านั้น ทำให้ผู้ใช้งาน Google Meet ผ่าน IOS และ Android ต่างออกมาเร่งให้ Google เปลี่ยนฟีเจอร์นี้ให้ใช้งานได้ 100%
ภาพจาก venturebeat
สุดท้าย Google Meet เลยยอมใจอ่อนปรับเปลี่ยนให้ฟีเจอร์ Noise Cancellation นี้ใช้งานได้กับทุกระบบปฏิบัติการ แต่ทาง Google Meet จะขอทดสอบการใช้งานฟีเจอร์นี้กับประเทศกลุ่มตัวอย่างก่อนได้แก่ ออสเตรเลีย, บราซิล, อินเดีย, ญี่ปุ่น, นิวซีแลนด์, แอฟริกาใต้, ยูเออี
เมื่อฟีเจอร์นี้ผ่านการทดลองจากกลุ่มประเทศเหล่านั้นแล้ว จึงถึงคราวของประเทศไทยได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ในการสื่อสารผ่านทาง Google Meet ในครั้งนี้ครับ
*ฟีเจอร์นี้ใช้งานได้เฉพาะลูกค้า G Suite Enterprise, G Suite Enterprise for Education เท่านั้น
ท้าชน Zooms ! Google Meet ขยายเวลาการใช้งานฟรี ถึงมีนาคม 2021
แต่เท่านั้นยังไม่พอครับ เมื่อ Google Meet ออกมาเสริมทิ้งท้ายว่าพวกเขาจะขยายเวลาใช้บริการฟรี ให้ผู้ใช้งาน Video Call ได้ไม่จำกัดเวลา ตลอด 24 ชั่วโมง ไปยาวๆ จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2021 (แต่เดิมหมดเขตไปแล้วในช่วงปลายเดือนกันยาที่ผ่านมา)
ซึ่งสาเหตุที่ทาง Google Meet ใจดีขยายเวลาใช้งานไปยาวขนาดนี้ เพราะสถานการณ์ Covid-19 ที่ยังไม่มีวี่แววว่าจะดีขึ้น (ในต่างประเทศ) ทำให้การ Work From Home และการติดต่อสื่อสารออนไลน์ ยังคงเป็นสิ่งสำคัญอยู่ ทาง Google Meet เลยตั้งใจขยายเวลาออกไปอีก เพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่และรักษาฐานลูกค้าเดิมเอาไว้นั่นเอง
ภาพจาก metro
อีกอย่างในด้านของการแข่งขัน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการที่ Google Meet ปล่อยฟีเจอร์ใหม่ๆ หรือขยายเวลาการใช้ฟรี เพราะต้องการเปิดศึกแข่งขันกับ Zoom แพลตฟอร์มมาแรงให้มากขึ้น หลังจากในช่วง Covid-19 ที่ผ่านมา Zoom มีอัตราการเติบโตอย่างก้าวกระโดด
นั่นทำให้เจ้าของสัมปทานอย่าง Google ต้องออกมาทำอะไรสักอย่างเพื่อทำให้ Google Meet กลายเป็นเบอร์ 1 แห่งแพลตฟอร์ม Video Conference นั่นเอง แต่ศึกครั้งนี้จะเป็นอย่างไร Zoom จะออกมาแก้เกมส์หรือไม่ ใครจะได้เป็นเจ้าของตลาดนี้ เราในฐานะผู้ชมก็ต้องตามดูกันไปยาวๆ ครับ