Services
Services
Performance MarketingContent Led GrowthLaunchpad WebsiteBranding
PORTFOLIO
Let's Talk
Services
Performance MarketingContent Led GrowthLaunchpad WebsiteBranding
Services
Portfolio
Let's Talk
คุยกับเรา
Thank you! Your submission has been received!
Oops! Something went wrong while submitting the form.

Growth Update

อัปเดตล่าสุด! รวมโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มที่เคลื่อนไหวเกี่ยวกับวิกฤตในยูเครน

โซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ระดับโลกทั้ง Facebook, YouTube, Twitter และ TikTok ได้ออกมาเคลื่อนไหวโต้ตอบรัสเซียเกี่ยวกับวิกฤตในยูเครน
By
Cartoon Tanaporn
February 28, 2022
Light
Dark
ส่งต่อเรื่องราวดีๆ

อย่างที่ทุกคนรู้กันดีว่าข่าวใหญ่ระดับโลกในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา คือ เหตุการณ์สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน สืบเนื่องมาจากปัญหาที่ทั้งสองประเทศมีความขัดแย้งกันมาอย่างยาวนาน จนในที่สุดทำให้รัสเซียได้นำกองทัพบุกเข้าไปถล่มยูเครน แน่นอนว่าจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ทำให้ประชากรจากในหลาย ๆ ประเทศมีความไม่พอใจในการกระทำของรัสเซียเป็นอย่างมาก

เช่นเดียวกับในโลกโซเชียลมีเดียที่หลายแพลตฟอร์มทั้ง Facebook (จาก Meta), YouTube, Twitter และ TikTok ได้เริ่มออกมาเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเหตุการณ์การรุกรานยูเครนของรัสเซียในครั้งนี้แล้ว โดยแต่ละโซเชียลมีเดียมีการเคลื่อนไหวอย่างไรบ้าง The Growth Master สรุปมาให้คุณแล้วในบทความนี้

ภาพจาก gizchina

Facebook ประกาศคว่ำบาตรรัสเซีย และจัดตั้งศูนย์ Special Operations Center เฝ้าระวังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน 2 ประเทศ

ไม่ว่าจะเป็นในรัสเซียหรือยูเครน Facebook ถือว่าเป็นโซเชียลมีเดียที่ประชากรส่วนใหญ่ของ 2 ประเทศเลือกใช้เป็นศูนย์กลางในการเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ เพราะในรัสเซียมีผู้ใช้งาน Facebook ประมาณ 70 ล้านคน และในยูเครน 24 ล้านคน (คิดเป็นครึ่งหนึ่งของจำนวนประชากรทั้งหมดของแต่ละประเทศ)

เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลรัสเซียประกาศว่าจะปิดกั้นการเข้าถึง Facebook บางส่วนในประเทศ เนื่องจาก Meta ปฏิเสธที่จะลบป้ายเตือนข้อมูลที่ผิด (Misinformation Warning Labels) บนโพสต์ต่าง ๆ 

ภาพจาก about.fb

แต่ตอนนี้ Meta ได้ประกาศดำเนินการเหนือไปอีกขั้น คือ ประกาศห้ามโฆษณาจากสื่อของรัฐบาล รวมถึงจำกัดการเข้าถึงบัญชีสื่อของรัฐบาลรัสเซีย ซึ่งถือเป็นการกระทำที่แสบมาก ๆ เพราะรัฐบาลรัสเซียจะไม่สามารถใช้ Facebook ในการเผยแพร่ข้อมูลต่าง ๆ ได้

นอกจากนั้น Facebook ยังได้จัดตั้งศูนย์ Special Operations Center ที่มีเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลเป็นชาวยูเครนและรัสเซีย เพื่อติดตามความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่าง 2 ประเทศโดยเฉพาะ รวมถึงปล่อยฟีเจอร์ One-Click Tool ออกมาในยูเครน ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถล็อกรูปภาพโปรไฟล์ของตัวเอง เพื่อป้องกันไม่ให้คนที่ไม่ใช่เพื่อนในแพลตฟอร์มเข้าไปติดตามดูโปรไฟล์ โพสต์ และสตอรี่บน Facebook ได้อีกด้วย

ภาพจาก twitter

YouTube ประกาศจำกัดการเข้าถึงของสื่อจากรัฐบาลรัสเซียทั้งหมด

ตามคำร้องขอจากรัฐบาลยูเครน YouTube ก็ได้ประกาศว่าได้เข้าจำกัดการเข้าถึงของสื่อของรัฐบาลรัสเซียสำหรับผู้ใช้ในยูเครน รวมถึงยังระงับการสร้างรายได้สำหรับช่องของรัสเซียอีกหลายช่อง

นอกจากนั้น YouTube ยังลบ Channel ที่มีเจ้าของเป็นรัฐบาลรัสเซียออกจากรายการแนะนำ และยังจำกัดการเข้าถึงการอัปโหลดคอนเทนต์วิดีโอต่าง ๆ ผ่านแพลตฟอร์มอีกด้วย

YouTube ได้ประกาศผ่านรายงานของ The Wall Street Journal ว่า “ทีมงานของเรามีการติดตามอย่างใกล้ชิดสำหรับการพัฒนาข่าวบนแพลตฟอร์ม รวมถึงประเมินว่าการคว่ำบาตรและการควบคุมการส่งออกคอนเทนต์ใหม่ ๆ ในครั้งนี้จะมีความหมายต่อ YouTube อย่างไรบ้าง”

สำหรับการตอบโต้ของ YouTube ไปยังรัฐบาลรัสเซียในครั้งนี้ ก็ทำให้หน่วยงานที่กำกับดูแลด้านการสื่อสารของรัสเซียก็ได้มีการเรียกร้องให้มีการกู้คืนการเข้าถึงช่อง YouTube ของสื่อรัสเซียในดินแดนยูเครนอีกด้วย (ซึ่งคล้าย ๆ กับเหตุการณ์ที่ Facebook มีการโต้ตอบกับรัฐบาลรัสเซีย) โดยสุดท้ายแล้ว เมื่อเหตุการณ์สงครามสงบลง YouTube ก็อาจจะเผชิญกับข้อจำกัดบางอย่างในรัสเซียเช่นกัน

ภาพจาก dw

Twitter แบนโฆษณาทั้งหมดชั่วคราวในยูเครนและรัสเซีย

ไม่เพียงแต่ Facebook และ YouTube เท่านั้น เช่นเดียวกับ Twitter ก็ได้มีการประกาศห้ามโฆษณาทั้งหมดในยูเครนและรัสเซียชั่วคราว เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลด้านความปลอดภัยของสาธารณะจะได้รับการยกระดับมากขึ้น รวมไปถึงการช่วยให้ผู้ใช้งานมั่นใจว่าโฆษณาจะไม่ไปเบี่ยงเบนหรือดึงดูดความสนใจของผู้ใช้งาน และมีการส่งข้อมูลที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ใช้งานภายในภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น Twitter ก็ได้มีการแบนโฆษณาทางการเมือง รวมไปถึงโฆษณาจากสื่อในเครือของรัฐบาล ย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 2019 ซึ่งสำหรับการแบนโฆษณาทั้งหมด Twitter กล่าวว่าจะช่วยทำให้ข้อมูลที่ใช้ในการทวีตมีความโปร่งใสมากขึ้น ป้องกันการสร้างความเข้าใจผิดให้กับผู้ใช้งานได้ 

และ Twitter ยังชี้อีกว่าทีมงานกำลังตรวจสอบทวีตในเชิงรุกมากขึ้น เพื่อตรวจดูว่ามีสื่อไหนที่กำลังบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร หรือนำเสนอภาพและข้อเท็จจริงที่อาจสร้างความเข้าใจผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

ภาพจาก twitter

TikTok ยังไม่ได้ออกมาให้ความเห็นอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับความขัดแย้งนี้

แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียหลักที่น่าจับตามองมากที่สุดในตอนนี้คือ TikTok เพราะมีรายงานว่าผู้ใช้งานบางกลุ่มในรัสเซียกำลังใช้ TikTok เพื่อเผยแพร่ ‘ข่าวปลอมและข้อมูลที่บิดเบือน’ เกี่ยวกับเหตุการณ์ความขัดแย้ง ซึ่งจากรายงานยังบอกอีกว่าวิดีโอที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้หลายพันรายการกำลังถูกอัปโหลดไปยังแพลตฟอร์ม ทำให้ทีมตรวจสอบของ TikTok เกิดอาการปวดหัวอย่างมาก

ตัวอย่างวิดีโอที่ให้ข้อมูลบิดเบือนความจริงจากผู้ใช้งานรัสเซีย / ภาพจาก twitter

สำหรับการใช้งานของ TikTok ด้วยการที่ผู้ใช้งานคนใดสามารถทำให้คลิปนั้นกลายเป็นคลิปยอดนิยม ก็จะสามารถสร้างรายได้ให้กับตัวเองได้ ก็กลายเป็นแรงจูงใจให้กับผู้ไม่หวังดีในการสร้างสตรีมปลอมขึ้นมา และทำการ Live ภายในแอป เพื่อหลอกล่อให้ผู้ใช้งานจำนวนมากเข้ามารับชมคลิปของตัวเอง 

นอกจากนี้ก็ยังมีรายงานว่ามีผู้ใช้งาน TikTok ของยูเครนกำลังใช้แอปพลิเคชันเพื่อบอกตำแหน่งของกองทหารรัสเซียให้กับนักสู้ยูเครน ซึ่งก็สร้างความปั่นป่วนไม่น้อยเลยทีเดียวบนแพลตฟอร์ม

ถึงแม้ว่าจะมีข่าวความวุ่นวายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมาจากแอปพลิเคชัน แต่ TikTok ก็ยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับเหตุการณ์ความขัดแย้งในครั้งนี้ อาจเป็นเพราะบริษัทแม่ของ TikTok คือ Bytedance ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศจีน และจีนเองก็ได้สนับสนุนรัสเซียอย่างแน่วแน่มาตลอด นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ TikTok ยังไม่มีจุดยืนที่เป็นทางการต่อเหตุการณ์นี้

อย่างไรก็ตาม ก็มีบางคนเรียกสิ่งนี้ว่า ‘TikTok War’ จากวิธีการใช้งานแพลตฟอร์มแบบผิด ๆ ซึ่งอาจเป็นการบังคับให้ TikTok ต้องออกมาแสดงจุดยืนที่ชัดเจนยิ่งขึ้นได้แล้ว

สรุปทั้งหมด

สำหรับเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างยูเครนและรัสเซียก็ยังคงได้รับความสนใจ และติดตามอย่างใกล้ชิดจากคนทั้งโลกอยู่ เพราะเหตุการณ์นี้ไม่เพียงแต่สร้างความไม่สงบให้เพียงแค่ 2 ประเทศเท่านั้น แต่ยังคงสร้างผลกระทบให้กับการเมืองระหว่างประเทศ และเศรษฐกิจทั่วโลกด้วยเช่นกัน

รวมถึงโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ระดับโลกก็ต้องออกมาแสดงจุดยืนของตัวเองและมีการโต้ตอบการกระทำของรัสเซียจากสงครามความไม่สงบในครั้งนี้ แต่จากการกระทำของพวกเขาก็ถือว่าเป็นการลดการเผยแพร่ข้อมูลผิด ๆ ที่อาจสร้างความขัดแย้งเพิ่มขึ้นไปอีกเป็นอย่างดี

ทีม The Growth Master ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าอยากให้เหตุการณ์ความไม่สงบในรัสเซียและยูเครนในครั้งนี้จบลงด้วยดีโดยเร็วที่สุด แก้ปัญหาพูดคุยกันด้วยความสันติ และขอให้ไม่มีเหตุการณ์ที่สร้างความสูญเสียใด ๆ เกิดขึ้นอีก

‍
Source: socialmediatoday, theverge
ส่งต่อเรื่องราวดีๆ

คุณอาจจะชอบบทความนี้...

สรุปสถิติ Digital และ Social Media จาก We Are Social ที่นักการตลาดทุกคนต้องรู้ อัปเดตปี 2023
รวม 7 บทความการตลาดที่เราแนะนำให้คุณอ่านก่อนปี 2023

ไม่พลาดทุกข้อมูลที่ช่วยให้ธุรกิจคุณเติบโตได้เร็วยิ่งขึ้น

ติดตามได้หลากหลายช่องทางที่คุณสะดวก ไม่ว่าจะเป็น e-mail, line หรือ youtube
Subscribe

เราช่วยธุรกิจของคุณให้เติบโตอย่างยั่งยืนบนโลกดิจิทัลด้วยการใช้ศาสตร์ Growth, เครื่องมือด้านเทคโนโลยี, การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการสร้างทีม

Services
Growth AgencyDesign StudioSoftware ConsultingDigital TalentsOur Portfolio
Category
All ArticlesSoftware ReviewGrowth Trends
Company
We're HiringCommunityContact
ติดตามข้อมูลการตลาด
Growth Hacking ได้เลยทีนี่
มากกว่า 4,000 บริษัทติดตาม The Growth Master ตอนนี้
ไปที่หน้า Subscribe

© Copyright 2024 The Growth Master Company Limited All Rights Reserved