สถานการณ์โลก “ไวรัสโควิด-19” ส่งผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจ E-Commerce ในช่วงหลายอาทิตย์ที่ผ่านมา เนื่องจากมาตรการ Social Distancing ทำให้ผู้คนอาศัยอยู่ที่บ้าน หลายๆ บริษัทมีการสั่งให้พนักงาน Work From Home นักเรียนก็เรียนออนไลน์จากที่บ้าน
ไม่แปลกที่ร้านค้าต่างๆ ก็พากันปิดร้านชั่วคราว ซึ่งทำให้รูปแบบการใช้ชีวิตและการจับจ่ายใช้สอย ช้อปปิ้งสินค้าต่างๆ ก็ย่อมเปลี่ยนไปตามๆ กัน การซื้อขายสินค้าออนไลน์ หรือ E-Commerce กลายเป็นช่องทางหนึ่งที่เป็นทางเลือกสำหรับผู้บริโภคหลายๆ คน ณ ขณะนี้
สินค้าไหนที่กำลังขายดีในช่วงนี้ ?
เนื่องจากสถานการณ์นี้ ทำให้เด็กนักเรียนเป็นจำนวนมากทั่วโลกต้องเรียนผ่านระบบออนไลน์ อยู่ที่บ้าน ส่งผลให้สินค้าเกี่ยวกับอุปกรณ์การเรียนการสอน เป็นที่ต้องการอย่างมากในช่วงเวลานี้ จึงเป็นข่าวดี สำหรับร้านขายอุปกรณ์เครื่องเขียนและการเรียนการสอนเลยล่ะค่ะ
อุปกรณ์การทำสวนมีแนวโน้มที่จะถูกเสิร์ชหาในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นจำนวนมาก ยิ่งเกิดการ Social Distancing มากขึ้น ความต้องการของอุปกรณ์ทำสวนเหล่านี้ก็มากขึ้นตามไปด้วย ในประเทศสหรัฐอเมริกา และอังกฤษ จะเห็นได้ว่าเทรนด์การเสิร์ชพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในเดือนเมษายน
และแน่นอนว่า ผู้คนมีความต้องการซื้อเกมส์และสิ่งอำนวยความบันเทิง พุ่งสูงขึ้นมาก ไม่ว่าจะเป็น Xbox และ Netflix นั่นเองค่ะ
สินค้าไหนที่ความต้องการลดลงบ้าง ?
อุตสาหกรรมแฟชั่นกำลังเอามือก่ายหน้าผากไปตามๆ กันในช่วงนี้ แน่นอนว่า ใครกันล่ะคะที่จะซื้อเสื้อผ้าใหม่ เพื่อจะเอามาใส่อยู่บ้านเล่นๆ คงจะมีน้อยมากๆ เลย ไม่ใช่เพียงแค่สินค้าแบรนด์เล็กๆ ที่ส่งผลกระทบ แต่แบรนด์ดังๆ ก็เหนื่อยใจไม่แพ้กันเลยล่ะค่ะ
นอกจากนี้แล้ว ในช่วงนี้เทรนด์การค้นหาเกี่ยวกับเว็บไซต์จองโรงแรมและที่พัก รวมถึงเว็บไซต์ให้บริการเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ต่างถูกค้นหาบน Google เพิ่มขึ้นมาก แต่น่าเสียดายที่การค้นหาเหล่านั้น เป็นเรื่องเกี่ยวกับการแจ้งปัญหาหรือขอคืนเงิน และยกเลิกการจองซะเป็นส่วนใหญ่เลยค่ะ
นักการตลาดจะปรับตัวเข้ากับสถานการณ์นี้ได้อย่างไรบ้าง ?
หลายๆ ธุรกิจมีการวางแผนการใช้จ่าย งบประมาณต่างๆ ให้เหมาะสมในช่วงวิกฤตนี้ ถือว่าเป็นความท้าทายของนักการตลาดทั้งหลายเลยก็ว่าได้ที่จะต้องปรับตัวและปรับกลยุทธ์ให้ธุรกิจไปต่อได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว แบบยั่งยืนกันค่ะ
วันนี้จะพามาดู 4 กลยุทธ์ที่สามารถนำไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณกัน
1. Manage PPC Budget Efficiency บริหารงบสำหรับ PPC อย่างมีประสิทธิภาพ
การตัดคีย์เวิร์ดที่ไม่จำเป็นออกไป เช่น คีย์เวิร์ดที่ไม่ได้ก่อให้เกิด Conversion เท่าไหร่
ในทางกลับกัน คุณควรเผื่อเงินสำหรับคีย์เวิร์ดที่ดี และมีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิด Conversion สูงสุดเอาไว้
การหยุดแคมเปญไปแบบกะทันหันและค่อยมาเริ่มใหม่ทันที จะส่งผลให้ CPC เพิ่มสูงขึ้นได้ เนื่องจากคุณจะต้องทำเสมือนไปเริ่มนับหนึ่งกับแคมเปญตัวนั้นใหม่เลยนั่นเอง ดังนั้นจึงควรประเมินให้ดีว่าคุณจะหยุดแคมเปญไปดื้อๆ เลยหรือไม่
มีแนวโน้มว่า CPC จะถูกลงในช่วงนี้ เนื่องจากหลายๆ ธุรกิจมีการหยุดชะงักลง ทำให้เป็นประโยชน์สำหรับธุรกิจบางธุรกิจที่ยังเลือกจะไปต่อ เพราะทำให้ค่า CPC ค่อนข้างถูกลงในช่วงนี้ค่ะ
สำหรับผลกระทบในระยะยาวที่ควรคำนึงถึง ก็คือเรื่องของ Quality Score ซึ่งวัดได้จาก CTR เปรียบเทียบกับคู่แข่งรายอื่น
แน่นอนว่าเมื่อแบรนด์อื่นๆ หยุดซื้อโฆษณา และทำให้คุณได้ประโยชน์ในการเพิ่มขึ้นของ CTR จะส่งผลให้ Quoality Score ของคุณเพิ่มตามไปด้วย และการทำแคมเปญในช่วงนี้ก็มีค่า CPC ที่ต่ำด้วยนั่นเอง
2. รักษา Organic Visibility เอาไว้
เมื่อพูดถึง organic search นั้น แน่นอนเลยว่า SEO คือเป็นกลยุทธ์ที่ใช้ได้ผลในระยะยาวแน่นอน และไม่ควรที่จะหยุดทำกันต่อไปนะคะ
อัลกอริทึมของกูเกิลเองในช่วงนี้มีแนวโน้มที่จะตรวจสอบข้อมูลมากเป็นพิเศษเนื่องจากต้องมั่นใจว่าผู้คนจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง ดังนั้นการหยุดทำกลยุทธ์พื้นฐาน อย่าง SEO จึงอาจเสี่ยงมห้ organic visibility ของเว็บไซต์คุณหายไปได้ในระยะยาว
Organic Search ถือเป็นช่องทางที่ไม่เคยตายหายไป ผู้คนยังคงเสิร์ชหาข้อมูลอยู่เสมอ เผลอๆ เสิร์ชมากขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำค่ะ ในช่วงนี้
3. แชร์ประสบการณ์ผ่าน Digital PR
ในช่วงสถานการณ์ตรึงเครียดแบบนี้ ไม่ว่าจะเปิดอ่านข่าวจากช่องทางไหนก็เจอแต่ข่าวการรายงานสถานการณ์โควิด 19 เต็มไปหมด แน่นอนว่ามันทำให้ผู้คนจำนวนมากเครียดไปตาม ๆ กัน ดังนั้นแล้ว จะดีไหมถ้าแบรนด์ของคุณ ทำตัวเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่คอยนำเสนอข่าวสารดีๆ ให้กับผู้คน ผ่านพ้นช่วงเวลาอันเลวร้ายนี้ไปได้ การทำการ PR ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยนำเสนอสิ่งที่บันเทิงใจ ย่อมดึงดูดให้คนเข้ามาดูได้มาก เพราะในเวลานี้ใครๆ ก็อยากหายเครียดนั่นเองค่ะ
4. Be Useful on Social Media
การเข้าใช้งาน Social Media เพิ่มสูงขึ้นมากในเวลานี้ เนื่องด้วยสภาพการทำงานจากที่บ้าน การเรียนหนังสือจากบ้าน การใช้ชีวิตอยู่แต่ในบ้าน
ดังนั้นเป็นเวลาอันดีงาม ที่จะให้แบรนด์ของคุณปรับกลยุทธ์ พัฒนาโซเชียลมีเดียให้ดีขึ้น และไขว่คว้าโอกาสดีๆ ในตอนนี้จากช่องทางออนไลน์ที่แบรนด์มี หรือถ้าแบรนด์ไหนยังไม่มีก็ได้เวลาที่จะเริ่มต้นแล้วล่ะค่ะ ! ;)
ด้านล่างนี้ เป็นคำแนะนำเล็กๆ น้อยๆ สำหรับแบรนด์ที่ต้องการพัฒนากลยุทธ์โซเชียลมีเดียของตน ให้เข้ากับสถานการณ์
- ให้ความช่วยเหลือ โดยการเผยแพร่ข่าวสารที่เป็นประโยชน์แก่ลูกค้า มีข้อความที่ชัดเจน กระชับ และเน้นย้ำถึงการที่แบรนด์จะยืนหยัดเพื่อลูกค้า
- เสนอความช่วยเหลือ สับสนุนต่อสังคมและลูกค้า
- ติดต่อกับลูกค้าทั้งในตอนเช้าและเย็น เพื่อให้ลูกค้ารับรู้ว่าแบรนด์ยังคงทำงานกันอยู่ และพร้อมซัพพอร์ตปัญหาของลูกค้าทุกเมื่อ
- มองหาทางที่จำช่วยให้ชีวิตผู้คนดีขึ้น เนื่องจากทุกคนอยู่บ้าน ส่งผลให้เกิดความเบื่อหนายและความเครียดได้ ดังนั้นแบรนด์ควรเป็นแหล่งที่จะมอบความสุขให้แก่ลูกค้า
แม้ว่าช่วงเวลานี้จะเป็นช่วงเวลาที่มืดมน ตรงเครียด และเบื่อหน่ายสำหรับใครหลายๆ คน แต่มันก็ถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะทำให้แบรนด์ของคุณได้หันมาติดต่อสื่อสารกับพวกเขา ทำให้เกิดการมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และให้แบรนด์ของคุณกลายเป็นไฟฉายส่องสว่างให้ความสุข ให้คนอื่นๆ ในช่วงเวลานี้กันได้นะคะ