ถือเป็นการเจาะกลุ่มผู้ใช้งานใหม่ที่มีความน่าสนใจไม่น้อย สำหรับ Instagram แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดนิยมอีกตัวหนึ่งของโลก ที่ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ออกมาทางบอร์ดบริหารของ Instagram ได้ออกมาแถลงข่าวว่าพวกเขากำลังซุ่มพัฒนาแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียตัวใหม่สำหรับเด็ก ๆ ที่อายุไม่เกิน 13 ปีโดยเฉพาะในชื่อ “Instagram For Kids”
ซึ่งทาง Instagram ตั้งใจที่จะออกแบบแพลตฟอร์มนี้ให้เป็นโซเชียลมีเดียสำหรับเด็กอย่างแท้จริง ภายหลังที่ยังไม่มีแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเจ้าไหนเคยลุยตลาดเป้าหมายนี้มาก่อนอย่างจริงจัง โดย Instagram For Kids จะโฟกัสไปที่การสร้าง “First Experience” หรือประสบการณ์ครั้งแรกในการเล่นโซเชียลมีเดียสำหรับเด็ก ๆ อย่างถูกต้อง
โดย Instagram For Kids แม้ปัจจุบันจะอยู่ในช่วงขั้นตอนการพัฒนา แต่ก็ถือว่าเป็นข่าวที่มาเขย่าวงการโซเชียลมีเดียให้ตื่นตัวกับตลาดผู้ใช้งานเด็กและใส่ใจกับการเรียนรู้ของพวกเขามากขึ้นในยุคที่ทุกอย่างถูกขับเคลื่อนด้วยแพลตฟอร์มออนไลน์
แต่รายละเอียดทั้งหมดของ Instagram For Kids จะมีอะไรบ้าง The Growth Master สรุปมาให้คุณแล้ว ติดตามต่อได้ในบทความนี้
จุดกำเนิดของ Instagram For Kids เกิดขึ้นมาเพราะสาเหตุอะไร ?
สำหรับ Instagram For Kids นั้นถือเป็นการต่อขยายจากแพลตฟอร์มตัวหลักอย่าง Instagram ให้แตกไลน์เพื่อเจาะกลุ่มผู้ใช้งานใหม่โดยเฉพาะ นั่นก็คือกลุ่มเด็กที่มีอายุไม่เกิน 13 ปีเป็นหลัก สาเหตุเพราะ Instagram เล็งเห็นถึงความสำคัญของการสร้างการเรียนรู้ให้กับเด็กในช่วงวัยดังกล่าว ให้สามารถปรับตัวเข้ากับการใช้งานโซเชียลมีเดียได้อย่างถูกต้อง
เพราะคงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกวันนี้สื่อโซเชียลมีเดียกลายเป็นเหมือนปัจจัยที่ 5 ในชีวิตประจำวันของเราไปแล้ว ทั้งการใช้งานในการสื่อสารกับผู้อื่นหรือใช้งานเพื่อหาความบันเทิง คลายเครียดระหว่างวัน แต่กลับไม่มีโซเชียลมีเดียตัวไหนในตลาดเลยที่ให้ความสำคัญกับผู้ใช้งานกลุ่มเด็ก ที่แม้แต่ Instagram เองในแพลตฟอร์มหลักก็ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้งานที่มีอายุน้อยกว่า 13 ปีสมัครเข้าใช้งาน
สำหรับไอเดียของ Instagram For Kids นั้นก็เพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมานี้เอง โดยเกิดความคิดของ Pavni Diwanji พนักงานใหม่ที่ได้เข้าทำงานกับ Facebook (บริษัทแม่ของ Instagram) เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้วในตำแหน่ง Vice President Of Facebook (รองประธาน) ซึ่งทันทีที่เธอเข้าทำงาน Pavni Diwanji เธอก็ได้นำไอเดียนี้ไปเสนอแก่บอร์ดบริหารฝั่ง Instagram เพื่อผลักดันให้ Instagram หันมาให้ความสำคัญกับตลาดผู้ใช้งานเด็ก ๆ มากขึ้นทันที
ซึ่งต้องบอกว่าประวัติของ Pavni Diwanji ก็ไม่ใช่ธรรมดาเพราะเธอผู้นี้เคยดำรงตำแหน่งเป็น Vice President of Google มาเป็นระยะเวลากว่า 13 ปี ซึ่งเธอผู้นี้ก็คือพนักงานคนสำคัญของ Google ที่อยู่เบื้องหลังการพัฒนาแพลตฟอร์มครั้งสำคัญ ๆ อยู่เรื่อยมาเช่นเป็น Team Leader of Google Apps for Biz and Education (ในช่วงปี 2005-2010)
แต่ผลงานชิ้นโบว์แดงที่ทำให้เธอมีชื่อเสียงมากขึ้นก็คือการเป็น Team Leader ในโปรเจกต์ Google for kids and family, platform and products (ในช่วงปี 2013-2018) ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่เราน่าจะคุ้นชื่อที่สุดของโปรเจกต์นี้ก็คือ Youtube Kids แพลตฟอร์มสำหรับ Video Content สำหรับเด็กโดยเฉพาะที่จะเน้นเรื่องเนื้อหาที่ประโยชน์ต่อการพัฒนาตัวเองของเด็ก ๆ และมีระบบการควบคุมเนื้อหารวมถึงฟีเจอร์การใช้งานที่ปลอดภัยมากกว่า Youtube แบบปกติ
โดยทางบอร์ดบริหารของ Instagram ก็ได้กล่าวเปิดใจถึงสาเหตุที่ Pavni Diwanji และทีมต้องการพัฒนาแพลตฟอร์ม Instagram For Kids นี้ก็เพื่อเป็นการให้ความสำคัญกับกลุ่มเยาวชนเพิ่มมากขึ้น เพื่อประโยชน์ในการใช้งานโซเชียลมีเดียอย่างถูกจริยธรรม เพิ่มความปลอดภัยให้การใช้งานของเหล่าเด็ก ๆ และเปลี่ยนให้ Instagram เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มเพื่อการเสริมสร้างการเรียนรู้และความบันเทิงให้กับบุตรหลานของคุณทุกคนนั่นเอง
นโยบายที่ Instagram For Kids จะให้ความสำคัญที่สุดคือเรื่องอะไร ?
ระหว่างที่ Instagram For Kids กำลังอยู่ในช่วงพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้พร้อมปล่อยสู่ตลาด ทางทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ของ Instagram ก็ได้ออกมาปล่อยนโยบายสำคัญที่ Instagram For Kids จะมุ่งเน้นเป็นพิเศษผ่านการแถลงของ Vishal Shah รองประธานฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์มีใจความว่า
โดยนโยบายที่ Instagram For Kids จะมุ่งเน้นเป็นพิเศษนั้นมีด้วยกัน 2 ข้อด้วยกัน ข้อแรกคือ Instagram For Kids จะเป็นแพลตฟอร์มที่มุ่งเน้นไปที่การสร้างประสบการณ์การใช้งานครั้งแรกให้กับผู้ใช้งานที่เป็นเด็ก ข้อนี้ถือว่าเป็นนโยบายสำคัญที่ทาง Instagram ต้องการมากที่สุด ถึงขั้นยอมที่จะเปิดอีกแอปพลิเคชันหนึ่งสำหรับเด็กโดยเฉพาะแยกจาก Instagram ตัวหลักอย่างจริงจัง เพื่อคัดกรองเนื้อหา Content ที่มีความเหมาะสมกับกลุ่มอายุของเด็ก ๆ (ต่ำกว่า 13 ปี)
อีกทั้งยังเป็นการสร้างประสบการณ์ใช้งานครั้งแรก (First Experience) ของการเล่นโซเชียลมีเดียอย่างถูกต้องตามหลักจริยธรรม ยิ่งในยุคสมัยปัจจุบันด้วยการที่ให้พวกเด็ก ๆ ได้สัมผัสกับการใช้งานโซเชียลมีเดียอย่างถูกต้อง ก็จะช่วยหล่อหลอมให้พวกเขาเติบโตไปในยุคแห่งสังคมออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Instagram For Kids คือ
และนโยบายข้อสองก็คือการส่งเสริมด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยในการใช้งาน เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าในปัจจุบันด้วยความเป็นสื่อโซเชียลมีเดีย คอนเทนต์ที่อยู่ในแพลตฟอร์มปัจจุบันก็อาจมีทั้งสิ่งดีและสิ่งไม่ดี เช่น คอนเทนต์ของมึนเมา สิ่งเสพติด สิ่งของสำหรับผู้ใหญ่ รวมไปถึงเนื้อหารูปภาพต่าง ๆ ที่ไม่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้งานอายุต่ำกว่า 13 ปี
ซึ่งการเข้ามาของ Instagram For Kids ก็จะมีระบบเทคโนโลยี AI ที่คอยคัดกรอง, จัดการกับเนื้อหาเหล่านี้ ทำให้ผู้ปกครองสบายใจได้ว่าในแพลตฟอร์มสำหรับเด็กตัวนี้ จะไม่มีเนื้อหาประเภทนั้นหลุดรอดออกมาให้เห็นแน่นอน
นอกจากนั้นด้านระบบความปลอดภัยมีการคาดการณ์ว่า Instagram For Kids อาจจะมีการใส่ฟีเจอร์ตัวใหม่ของ Instagram ที่เพิ่งจะปล่อยออกมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วลงไปด้วย นั่นก็คือฟีเจอร์คัดกรองการส่ง Direct Message หาเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี (ยกเว้นว่าเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีคนนั้นจะกดติดตามเราอยู่เท่านั้น) ซึ่งจะทำให้ผู้ใหญ่ที่ไม่รู้จัก ไม่สามารถ Direct Message ไปหาเด็กอายุกลุ่มนั้นได้
หรือต่อให้คุยกันได้ ระบบก็จะมี Safety Notice Message แจ้งเตือนให้เด็ก ๆ ให้ระวังในการพูดคุย ในกรณีที่ไม่รู้จักจริง ๆ ก็สามารถกดจบการสนทนาไปได้เลย หรือถ้าเกิดเห็นแล้วว่ามีเนื้อหาการพูดคุยที่สุ่มเสี่ยงก็สามารถกด Report ให้ Instagram รับทราบเรื่องนี้ได้ทันทีเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งานเด็ก
แต่อย่างไรก็ตามสำหรับฟีเจอร์อื่น ๆ ทาง Adam Mosseri (ตำแหน่ง CEO of Instagram) ออกมาเพิ่มเติมในเรื่องนี้ว่า ตอนนี้ Instagram For Kids กำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นการพัฒนาจริง แต่รายละเอียดของฟีเจอร์ทั้งหมดจะถูกปล่อยออกมาหลังจากนี้อีกสักพัก ตอนนี้พวกเขายังให้รายละเอียดได้เพียงแค่เท่านี้
กระแสด้านลบของ Instagram For Kids ส่งผลต่อผลิตภัณฑ์มากน้อยเพียงใด?
ถึงแม้ว่า Instagram For Kids จะดูออกแบบผลิตภัณฑ์รวมถึงฟีเจอร์การใช้งานที่ดูผ่าน ๆ ก็ออกจะเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำ ที่ทำให้ผู้ใช้งานกลุ่มเด็กได้มีโซเชียลมีเดียใช้งานอย่างปลอดภัยและถูกหลักจริยธรรม แต่ก็ยังไม่วายเกิดกระแสด้านลบต่อตัวผลิตภัณฑ์ออกมาจนได้
ซึ่งกระแสนี้ก็เกิดมาจาก Priya Kumar นักศึกษาปริญญาเอกจาก University of Maryland ผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้โซเชียลมีเดียสำหรับครอบครัว ที่ออกมากล่าวหาว่าสิ่งที่ Facebook (บริษัทแม่ของ Instagram) กำลังทำอยู่ไม่ได้ทำเพื่อเด็ก ๆ หรอกแต่พวกเขาทำเพื่อสร้างรายได้ที่มากขึ้นให้กับตัวเองต่างหาก ด้วยการสร้างแพลตฟอร์มสำหรับเด็กขึ้นมาโดยเฉพาะ ได้ฐานผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น ดึงดูดให้กลายเป็นพื้นที่ในการทำโฆษณาของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ
นอกจากนั้นเธอไม่เชื่อด้วยว่าเด็ก ๆ เหล่านั้นจะอยู่ในแพลตฟอร์ม Instagram For Kids ไปตลอด เธอเปรียบเทียบกับ Youtube For Kids ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับเด็กเหมือนกันว่าสุดท้ายเด็ก ๆ เหล่านั้นก็จะอยากเข้าไปที่แพลตฟอร์มหลักอย่าง Youtube มากกว่าอยู่แล้ว เพื่อที่จะได้รับชมคอนเทนต์ที่หลากหลายมากขึ้นกว่าเดิม
แถมยังทิ้งท้ายด้วยประโยคเจ็บจี๊ดว่า “แค่มีแพลตฟอร์มสำหรับเด็ก ไม่ได้แปลว่านั่นคือที่อยู่ของเด็กทุกคน” ซึ่งเชื่อว่าที่ Priya Kumar ต้องออกมาแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมานี้ เพราะเธอเชื่อว่าการส่งเสริมให้เด็กเล่นโซเชียลมีเดียตั้งแต่อายุน้อย จะเข้าไปส่งผลเสียในด้านพัฒนาการการเติบโตของเด็ก
ซึ่งทฤษฎีของ Priya Kumar ก็ถือว่ามีความเป็นไปได้เพราะจากบทเรียนของ Facebook ที่เคยปล่อยแอปพลิเคชัน Messenger Kids แอปพลิเคชันส่งข้อความสำหรับเด็กออกมาแล้วเมื่อปี 2017 ซึ่งตอนแรกก็ได้ผลตอบรับดี แต่หลังจากที่เปิดตัวได้ไม่กี่เดือนก็กลับโดนกลุ่มนักวิชาการด้านสุขภาพเด็ก รวมตัวกันและส่งจดหมายไปหา Mark Zuckgerberg (CEO Of Facebook) ให้เขายุติการให้บริการแอปพลิเคชันนี้ซะ เพราะการให้เด็กอายุต่ำกว่า 13 ปีซึมซับการใช้งานอุปกรณ์ดิจิทัลและเล่นโซเชียลมีเดียตั้งแต่เด็ก ๆ จะทำให้ส่งผลเสียด้านพัฒนาการการเติบโตของเด็ก ๆ มากกว่าจะได้ประโยชน์
แต่ถึงอย่างนั้น Mark Zuckgerberg ก็ไม่ได้สนใจคำขอนี้จากเหล่านักวิชาการด้านเด็กเหล่านั้นแต่อย่างใด และยังคงเปิดให้บริการ Messenger Kids จนถึงปัจจุบัน ซึ่งถ้านับสถิติในปี 2021 แอปพลิเคชันนี้ก็ฟาดตัวเลขดาวน์โหลดรวมทั่วโลกแล้วกว่า 10 ล้านดาวน์โหลด แสดงให้เห็นว่าบริการตัวนี้ก็เป็นที่นิยมจากเหล่าเด็ก ๆ ไม่น้อยเลยทีเดียว
สรุปทั้งหมด
แม้ว่าในตอนนี้ยังไม่มีกำหนดว่า Instagram For Kids จะถูกปล่อยให้ใช้งานได้เมื่อไร ซึ่งคำถามนี้แม้แต่ทาง Instagram เองก็คงยังตอบไม่ได้เพราะโปรเจกต์นี้ก็เพิ่งจะเริ่มพัฒนาอย่างจริงจังเมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้วนี้เอง
แต่ในมุมของผู้ใช้งาน การที่ Instagram หันมาให้ความสำคัญกับตลาดผู้ปกครองและเด็กเล็กมากขึ้น เชื่อว่า Instagram (และ Facebook) น่าจะเห็นช่องทางหรือโอกาสอะไรบางอย่างที่จะทำให้ผู้ใช้งานกลุ่มเด็กได้รับประสบการณ์การใช้งานโซเชียลมีเดียครั้งแรกอย่างมีคุณภาพและยังมีโอกาสที่จะสร้างรายได้ จากค่าโฆษณาและอื่น ๆ ให้กับบริษัทด้วย ซึ่งเราก็ต้องมาตามดูกันต่อว่าผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กชิ้นนี้จะพร้อมเปิดตัวให้ใช้งานได้เมื่อไรกัน