ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เนื่องด้วยสถานการณ์ Covid-19 ที่กำลังระบาดอยู่ทั่วโลกในปัจจุบัน ทำให้หลายคนต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตและการทำงาน ซึ่งภายใต้สถานการณ์ที่ทำให้เราต้องใช้ชีวิตอยู่ในบ้านมากขึ้น อีกสิ่งหนึ่งที่เรียกได้ว่ามีความสำคัญขึ้นมาทันทีนั่นก็คือแพลทฟอร์มในการติดต่อสื่อสารและทำงานร่วมกันแบบวีดีโอคอล
ทำให้หลายองค์กรต้องรีบหาแพลทฟอร์มที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานวีดีโอคอล ซึ่งในท้องตลาดก็มีให้เลือกมากมายตั้งแต่แอปพลิเคชั่นฟรีง่ายๆ อย่าง Line , Google Meets ไปจนถึงแอปพลิเคชั่นที่ต้องเสียเงินเพื่อใช้บริการ โดยหนึ่งในแพลทฟอร์มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเรื่องวีดีโอคอล ก็คงหนีไม่พ้น Zoom (ซูม) แพลทฟอร์มวีดีโอคอลสัญชาติจีนที่ในชั่วโมงนี้ ไม่มีใครที่จะไม่รู้จัก
เพราะด้วยฟีเจอร์ที่ใช้งานง่าย รองรับทุกระบบปฏิบัติการ วีดีโอคอลได้อย่างคมชัดทั้งภาพทั้งเสียง มีโหมดให้ Share Screen เพื่อทำการ Presentation สามารถบันทึกการสนทนาได้ แถมยังมี Filter ให้ใส่ Background เล่นๆ อีกต่างหาก นั่นเลยทำให้ Zoom กลายเป็นแพลทฟอร์มวีดีโอคอลมาแรงแซงไวรัส เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดภายในระยะเวลาไม่ถึง 4 เดือน ที่หลายองค์กรไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ก็ต่างเลือกใช้บริการแพลทฟอร์มตัวนี้
ซึ่งด้วยกระแสความมาแรงของ Zoom นี้เองทำให้ยักษ์ใหญ่ในวงการ Communication อย่าง Facebook นำโดย CEO อย่าง Mark Zuckerberg ต้องรีบออกมาเคลื่อนไหว ด้วยการเตรียมที่จะปล่อยฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดอย่าง “Messenger Room” ฟีเจอร์ที่มีไว้เพื่อการวีดีโอคอลติดต่อสื่อสารหรือประชุมงาน ที่สามารถรองรับ User ในห้องเดียวกันได้ถึง 50 คน หลังจากที่ประชุมกับทีมงานและเริ่มผลิตโดยใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น
ส่วนรายละเอียดของการฟีเจอร์ Messenger Rooms จะเป็นอย่างไรบ้าง มีอะไรที่น่าสนใจ และแตกต่างจาก Zoom อย่างไร The Growth Master มีคำตอบให้คุณในบทความนี้ครับ
การเติบโตอย่างรวดเร็วของ Zoom นำมาซึ่งข้อผิดพลาดที่ Facebook ต้องชิงความได้เปรียบ
เมื่อการ Work From Home กลายเป็นสิ่งที่หลายองค์กรเลือกปฏิบัติกันในช่วงเกิดโรคระบาด ทำให้ Zoom ที่พอมีชื่อเสียงอยู่บ้างแล้ว แต่อาจจะไม่ได้รับความนิยมมากนัก เนื่องจากในสถานการณ์ปกติ เราคงไม่ได้ใช้การวีดีโอคอลมากมายเท่าไร กลายเป็นแอปพลิเคชั่นที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากในสถานการณ์ปัจจุบัน ที่นอกจากบริษัท , ธุรกิจต่างๆ สถาบันการศึกษา โรงเรียน หรือมหาวิทยาลัยทั่วโลก ก็เลือกใช้ Zoom นี่แหละเป็นตัวกลางในการสอนเช่นกัน
![](https://cdn.prod.website-files.com/5ef30243b02a260f4e3aded8/5f86b8acea0b996269d2a9c6_C897UeG-8uTuPX6dP6PCytHdzLrYfQSJEgqwkNsz3csA-TqTkvMVXy5ahCOPLWNiY5l7zhKKtt8D0BlZdeFjuo1Y_6hu-z8CqEKUV7ZLzcldnXCnVWd0kHm1inCnNHvx48cVwI20.jpeg)
ภาพจาก PantherNow
ทำให้ ณ ตอนนี้ Zoom เติบโตได้อย่างรวดเร็วมากๆ ทั้งในด้านรายได้ของบริษัทเองและตัวเลข User ผู้ใช้งานที่พุ่งไปกว่า 300 ล้านคนต่อวัน จากทั่วโลก แต่ด้วยความรวดเร็วของการเติบโตนี่เอง ทำให้ Zoom พบกับปัญหาที่คาดไม่ถึงมากมาย ตั้งแต่ปัญหาเบื้องต้นอย่างเวลาในการใช้งานจำกัดถ้าไม่อัพเกรด (40 นาที ต่อ 1 การประชุม) ไปจนถึงปัญหาใหญ่ในด้านความปลอดภัย
เช่น การถูก Hacker แฮคเข้ามาระหว่างการประชุม , ข้อมูลสำคัญในการประชุมรั่วไหลบ่อย จนหลายธุรกิจที่มีความจริงจังเรื่องข้อมูลรั่วไหล ได้เริ่มออกคำสั่งห้ามใช้ Zoom ในการประชุมเด็ดขาดและหันไปพึ่งแพลทฟอร์มของเจ้าอื่นแทน
ด้วยข้อผิดพลาดที่กล่าวมา ทำให้ Facebook เริ่มใช้โอกาสนี้ ทวงบัลลังก์ของตัวเองกลับมา ในการพัฒนาฟีเจอร์วีดีโอคอลของตัวเองในชื่อว่า “Messenger Room” เพื่อให้สามารถรองรับกับการใช้งานเพื่อการประชุมได้และปิดช่องโหว่การันตีเรื่องความปลอดภัย พร้อมท้าชน Zoom แบบเต็มตัวครับ
Messenger Room ฟีเจอร์หมัดเด็ดของ Facebook ตัวนี้ใช้งานอย่างไร ?
สำหรับฟีเจอร์การใช้งานหลักๆ ของ Messenger Room ก็ยังคงเป็นในด้าน Video Call เหมือนกับ Zoom ครับโดย Messenger Rooms ก็ได้เผยจุดเด่นของตัวเองออกมาบ้างแล้วเช่น ไม่ต้องสมัคร Account ใหม่ ใช้ Account Facebook ของตัวเองก็สามารถใช้งานได้เลย , สามารถวีดีโอคอลพร้อมกันมากถึง 50 คน แม้อาจจะไม่ได้เยอะเท่า Zoom (100คน) แต่ต้องอย่าลืมนะครับว่า Messenger Room ใช้งานได้ “ไม่จำกัดเวลา”
โดยการใช้งานก็เหมือนกับแพลทฟอร์ม Video Call ทั่วไป เริ่มสร้างห้องขึ้นมา แล้ว Invite สมาชิกที่ต้องการสื่อสารด้วยให้มาอยู่ในห้องเดียวกัน หรือจะ Copy Link ไปให้ก็ได้เช่นกัน เลือกคนเป็นเจ้าของห้อง (Head) โดยเจ้าของห้องก็สามารถเพิ่ม,ลด จำนวนคนในห้องได้ มีระบบรายงานความปลอดภัยหากพบ Fake User ที่น่าสงสัยก็สามารถกด Report แจ้งเรื่องกับทาง Facebook โดยตรงได้เลย
และ Messenger Rooms ยังดึงเอาฟีเจอร์บางส่วนของ Zoom มาพัฒนาต่ออย่าง Filter Background ที่ปรับมาใช้เป็น 360 องศา ปรับสี ปรับแสง ได้ตามใจชอบ เรียกว่าไม่มีหน้าพังแน่นอน และยังเพิ่มความสนุกระหว่างสนทนาได้อีกด้วย
![](https://cdn.prod.website-files.com/5ef30243b02a260f4e3aded8/5f86b8d4ea0b99cf37d2f300_o1oZzLulPPpUx1LWTbtU-Nrh-XwkXNbJyEZlwWxczBJi_fSXpUP9TPU2dK2eQYvhR4N6Wz3V7-_8Ra9UWbLeSpNrrhLSFhKZQAovggbY421U_I18m2ZuwlIxPhdFbWQ-94o8dYMr.jpeg)
ภาพจาก OriginalTube
ส่วนถ้าใครกลัวว่าจะเกิดการสนทนาของเราหลุดออกมาเหมือน Zoom ในเรื่องนี้ Facebook ยืนยันให้คุณสบายใจได้เลยครับ เพราะตอนนี้ Facebook กำลังเร่งพัฒนาส่วนของความปลอดภัยเช่นเรื่องรหัสผ่านระหว่าง User กับเซิร์ฟเวอร์ของ Facebook เพื่อป้องกันการเกิดการสนทนาหลุดออกมาเหมือน Zoom ครับ
โดย Messenger Room ยังสามารถใช้งานได้ทุกแพลตฟอร์ม Android, iOS, macOS, Windows และบนเว็บไซต์ ซึ่งถึงตรงนี้ใครที่อยากลองใช้งาน Messenger Rooms อาจจะต้องรอกันอีกนิดนะครับ เพราะ Facebook กำลังทยอยเปิดให้บริการ Messenger Rooms ในบางประเทศก่อน ส่วนประเทศไทยของเราคาดว่าจะสามารถเริ่มใช้งานกันได้ภายในไม่เกิน 3 สัปดาห์ที่จะถึงนี้ครับ
สรุปทั้งหมด
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งการเดินเกมส์ที่น่าจับตาของ Facebook ครับที่ต้องการจะครองครองตลาดด้าน Communication ให้ได้จริงๆ จากสถานการณ์ที่แพลทฟอร์มในรูปแบบ Video Call กำลังเป็นที่นิยมในตลาด แม้อาจจะต้องใช้เวลาสักพักในการทำให้ Messenger Rooms เป็นที่รู้จัก
แต่งานนี้ Facebook ถึงขั้นยอมลงทุนพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ขึ้นมาแบบนี้ ผมเชื่อเหลือเกินครับว่า Facebook ต้องมองเห็นโอกาสในการเติบโตของฟีเจอร์ Meseenger Rooms รับรองได้ครับว่าเราจะได้เห็นอะไรที่แปลกใหม่และเป็นประโยชน์ต่อการติดต่อสื่อสารในช่วง Covid-19 จาก Facebook อีกแน่นอนครับ