The Wall Street Journal รายงานว่า Meta (บริษัทแม่ของ Facebook) ได้เริ่มปลดพนักงานและจัดโครงสร้างทีมใหม่อีกครั้ง เพื่อพยายามลดต้นทุนค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ลง จากรายงานจะเห็นได้ชัดว่าบริษัทไม่ได้ตีกรอบว่าเป็นการเลิกจ้างพนักงาน แต่จะเป็นการผลักดันให้พนักงานจำนวนมากลาออกไปอย่างเงียบ ๆ มากกว่า
แล้วทำไม Meta บริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกถึงต้องทำแบบนี้ด้วย The Growth Master ก็ได้สรุปทุกคำตอบมาให้คุณแล้วในบทความนี้
Meta อ้างการปลดพนักงานในครั้งนี้มาจากเหตุภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ
แม้ว่าตอนนี้จำนวนพนักงานที่ถูกปลดออกไปจะยังไม่มีตัวเลขที่ชัดเจน แต่ Meta ก็อนุญาตให้พนักงานสามารถสมัครงานใหม่ภายในบริษัทได้ แต่พนักงานจะมีเวลาเพียง 30 วันเท่านั้นในการทำแบบนี้ ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาคือ ถ้าหากพนักงานคนใดที่มี Performance ดีและโดดเด่นอยู่แล้ว ก็ได้ไปต่อ แต่กลับกันถ้าใครที่ Performance ไม่ดีก็ต้องหางานใหม่
และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Meta ปลดพนักงานออกไป ซึ่งบริษัทก็ได้ส่งสัญญาณออกมาสักระยะหนึ่งแล้วว่าจะลดจำนวนพนักงานและตัดโครงการบางโครงการออกไปด้วย เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทเริ่มมีรายได้ที่ลดลงจากที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์บริษัท
นอกจากนี้ Mark Zuckerburg ได้ออกมาให้เหตุผลว่าที่ต้องทำแบบนี้ก็เพราะมาจาก ‘ภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำ’ อีกทั้งบริษัทก็จะชะลอการจ้างพนักงานใหม่ลงและจะต้อง ‘ทำงานให้สำเร็จมากขึ้นด้วยการใช้ทรัพยากรที่น้อยลง’
Mark Zuckerburg บอกกับพนักงานว่าบริษัทกำลังเผชิญกับ ‘ช่วงเวลาที่ยากลำบาก’ และขอให้ Manager ทุกคนปลดคนที่ Performance ไม่ถึงเกณฑ์ออกไป รวมถึงบริษัทก็ได้ยุบบางโครงการจาก Reality Labs ออกไปด้วย เพราะขาดทุนไปกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ ในปี 2021 ที่ผ่านมา
สรุปทั้งหมด
จากเหตุการณ์นี้ Meta ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าปัจจุบันไม่ใช่ยุคทองของ Meta อีกต่อไปแล้ว เพราะจากปัจจัยหลาย ๆ อย่างไม่ว่าจะเป็นทั้ง ภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำลง รวมถึงคู่แข่งโซเชียลมีเดียใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นมาด้วยที่เป็นปัจจัยที่ทำให้ Meta ต้องตัดสินใจแบบนี้ เราก็ต้องมาติดตามอย่างใกล้ชิดว่า Meta จากมีวิธีแก้เกมนี้ให้กลับมาปกติอย่างไรบ้าง และในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นกับบริษัทตามมาอีก