ขณะที่บริษัทเทคโนโลยีทั่วโลก กำลังมุ่งสู่ Metaverse กันอย่างดุเดือด หนึ่งในแชทแฟลตฟอร์มขวัญใจวัยรุ่นทั่วเอเชียและฝั่งสหรัฐอย่าง Snapchat ก็กำลังเตรียมตัวเช่นกัน (ลือกันว่าบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Google เคยยื่นข้อเสนอซื้อ Snapchat มาแล้ว)
ล่าสุด Snapchat ประกาศเข้าสนับสนุนกิจการ NextMind เพื่อขับเคลื่อนเทคโนโลยี งานวิจัยเกี่ยวกับ การควบคุม AI ด้วยสมองมนุษย์ (BCI) โดยเฉพาะ ซึ่งคาดว่า Snapchat เตรียมตัวรับยุค Metaverse ผ่านอุปกรณ์สุดล้ำอย่างแว่น AR แน่นอน
งานนี้การใช้งานในแอปพลิเคชันแชทจะไม่ธรรมดาอีกต่อไป และการเข้าซื้อกิจการของ Snapchat จะเป็นอย่างไร The Growth Master สรุปมาให้คุณแล้วในบทความนี้
Snapchat สานต่อเส้นทาง Brain-Reading Tech
Snapchat คือ แชทแอปพลิเคชัน ที่ได้รับความนิยมมาก ๆ มีมูลค่ามากกว่า 58 พันล้านดอลลาร์ด้วยผู้ใช้งานเฉลี่ยอายุช่วง 13-34 ปี (ครอบคลุมกว่าแชทแอปทั่วไป) โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่ชอบความรวดเร็ว มองหาสิ่งใหม่ ๆ ด้วยการแชทผ่านวิดีโอ
ซึ่งครั้งนี้ Snapchat สานต่อทุนให้กับ NextMind (Neurotech จากกรุงปารีส) บริษัทผู้พัฒนา Non-invasive Brain Computer Interface (BCI) ‘เทคโนโลยีโต้ตอบแบบแฮนด์ฟรี’ โดยใช้สมองของมนุษย์สั่งการระบบคอมพิวเตอร์ AI แทนการควบคุมด้วยมือ โดยเทคโนโลยีจาก Nextmind ถูกออกแบบให้ใช้ควบคู่กับอุปกรณ์สวมใส่อิเล็กทรอนิกส์อย่างแว่น AR / VR Headset (เทคโนโลยีเสมือนจริง 360 องศา) ให้สะดวกยิ่งขึ้น
ความน่าสนใจก็คือ เทคโนโลยีนี้จะตรวจสอบการทำงานของระบบประสาทมนุษย์ เพื่อทำความเข้าใจเจตนา และโต้ตอบกับระบบอินเทอร์เฟซของคอมพิวเตอร์ เพื่อช่วยให้เราสามารถควบคุมการทำงาน (แทนการกดปุ่ม) เพียงแค่โฟกัสไปที่ปุ่มนั้น ๆ
ซึ่งทาง Snapchat เองก็ออกมาชี้แจงว่าการเลือกสานต่อเทคโนโลยี Brain-Reading Tech นี้ จะไม่ส่งสัญญาณรบกวนระบบการทำงานในสมองมนุษย์ไปจากเดิม โดยอ้างว่าแพลตฟอร์ม Meta (Facebook)ก็ถูกพัฒนาจากการปฏิสัมพันธ์ระหว่าง ‘สมองกับหน้าจอ’ มาตั้งแต่ปี 2017
อีกทั้ง Snapchat ก็ไม่ใช่ค่ายใหญ่ค่ายเดียวที่สนใจเทคโนโลยีนี้ เพราะ NextMind ยังพัฒนา Neuralink (ฝังชิปคู่กับสมองของมนุษย์) ที่เป็นของนักธุรกิจระดับโลกผู้ก่อตั้ง Tesla ที่ใคร ๆ ก็ต้องรู้จักอย่าง Elon Musk
หากมองในแผนการของ Snapchat อาจเป็นไปได้ว่า นี่คือเส้นทางที่พัฒนาไปสู่การใช้เทคโนโลยี เข้าจับความต้องการของมนุษย์อย่างรวดเร็ว เพื่ออำนวยความสะดวกในการ ‘แชทโต้ตอบ’ และนั่นอาจเป็นกุญแจสำคัญในการทำให้อุปกรณ์ AR ที่ Snapchat จะนำเข้ามาพัฒนาต่อนั้น เกิดประสิทธิภาพสูงไปอีกขั้นผ่าน ‘ฟังก์ชันแชทที่ล้ำสมัย’ ตื่นตาตื่นใจมากขึ้นนั่นเอง
(ติดตามข่าวการเตรียมปล่อยแว่น VR จาก Apple ในปี 2022 ได้ที่บทความนี้)
สรุปทั้งหมด
ธุรกิจเทคโนโลยีในยุคนี้ ต่างร่วมกันสมทบความเป็น Metaverse ให้เป็นไปได้ ‘หลาย ๆ มิติการใช้งาน’ มากขึ้น คำถามคือ จะเป็นอย่างไรหากอนาคต เราไม่จำเป็นต้องเคลื่อนไหวเพื่อให้สิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นอีกต่อไป เรียกว่าแค่คิดปุ๊ป ก็ควบคุม Gadget ได้ปั๊ป สะดวกสุด ๆ ซึ่งข่าวความคืบหน้าในวงการดิจิทัลจะเป็นอย่างไรต่อไปนั้น เราจะมาสรุปให้คุณอีก ติดตามไว้ได้เลย :-)