ต้องบอกว่าช่วงใกล้จะเข้าสู่ปี 2021 แบบนี้เป็นช่วงเวลาที่หลายธุรกิจก็เริ่มที่จะวางแผนในการสร้างการเติบโตสำหรับปีหน้า ซึ่งถือว่าเป็นปีที่เข้าสู่ยุคการสื่อสารออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ
โดยล่าสุด Twitter แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเบอร์ต้นของโลก ก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่กำลังวางแผนการใหญ่ในปีหน้า เพราะเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา Twitter ได้ทำการประกาศว่าพวกเขาได้ซื้อกิจการของ Squad แอปพลิเคชันสำหรับการวิดีโอคอลชื่อดัง มาเป็นส่วนหนึ่งของ Twitter เรียบร้อยแล้ว
ซึ่งดีลนี้ถือว่ามีความน่าสนใจไม่น้อยเพราะ Twitter ที่เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการแชร์ข้อความ สื่อรูปภาพ , วิดีโอ ทำไมถึงมาซื้อกิจการแอปพลิเคชัน Squad ที่เป็นแอปสำหรับการสื่อสารแบบวิดีโอคอล แล้วทาง Twitter คิดอะไรอยู่กันแน่ถึงมาซื้อกิจการแอปพลิเคชันนี้
ในบทความนี้ The Growth Master เลยขอพาคุณไปหาคำตอบว่าทำไม Twitter ถึงต้องซื้อกิจการของแอปพลิเคชัน Squad แล้วการได้ Squad เข้ามาอยู่ในการดูแลของ Twitter นั้นจะสามารถสร้างการเติบโตให้ Twitter ได้แค่ไหน บทความนี้มีคำตอบ
แอปพลิเคชัน Squad คืออะไร ?
Squad คือ แอปพลิเคชันสำหรับการสื่อสารในรูปแบบวิดีโอคอล ก่อตั้งโดย Esther Crawford ให้ผู้ใช้งานสามารถวิดีโอคอลกับกลุ่มเพื่อนหรือคนรู้จักได้มากสุด 6 คน โดยจุดเด่นของ Squad ที่ถือเป็น Key Feature ที่ดึงดูดผู้ใช้งานก็คือฟีเจอร์การแชร์หน้าจอ (Screen Sharing) ระหว่างการวิดีโอคอล ซึ่งถือเป็นแอปพลิเคชันการสื่อสารแรก ๆ ที่มีฟีเจอร์นี้ให้ใช้งาน
โดยทาง Esther Crawford ผู้ก่อตั้งและ CEO คนปัจจุบันของ Squad นั้นได้กล่าวว่าฟีเจอร์เด่นอย่าง Screen Sharing นั้นเกิดจากความต้องการของเขา ที่อยากทำให้การสื่อสารแบบวิดีโอคอลให้ความรู้สึกและประสบการณ์เหมือนกับเวลาเราสื่อสารกันแบบเจอหน้ากันจริง ๆ
คิดภาพตามง่าย ๆ เช่นเวลาที่เราเจอกับกลุ่มเพื่อน เวลาเราอยากจะเปิดแชทสำคัญสักอย่างหนึ่งให้เพื่อนดูก็สามารถทำได้เลยทันทีใช่ไหมครับ Squad ก็เช่นเดียวกัน แม้จะอยู่ในรูปแบบออนไลน์แต่ถ้าคุณอยากจะเปิดแชทจากแอปต่าง ๆ เปิดรูปของกินที่เพิ่งไปกินมา หรือให้เพื่อนช่วยเลือกชุดสวยที่คุณกำลังลังเลอยู่ ก็สามารถกดให้เพื่อนที่คอลด้วยกันดูได้เลย ไม่ต้องไปแคปรูปแล้วส่งไปให้อีกแอปหนึ่งให้วุ่นวาย
ต้องบอกว่าแม้ฟีเจอร์ในแอป Squad จะมีแค่การวีดีโอคอล แชร์หน้าจอ และแชท แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าแอปพลิเคชันนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในต่างประเทศมานานแล้ว (ในไทยอาจจะยังไม่ได้รับความนิยมมากนัก)
โดยสถิติล่าสุดในช่วง Lockdown จากสถานการณ์ Covid-19 พบว่าแอปพลิเคชัน Squad มียอดผู้ใช้งานเพิ่มมากขึ้นถึง 1,100% สาเหตุก็เพราะว่าผู้คนไม่สามารถออกไปเจอกันแบบปกติได้ ส่งให้ Squad นี่แหละที่กลายเป็นแอปที่สร้างประสบการณ์การสื่อสารได้แบบเหมือนจริงที่สุด จนได้ผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในปัจจุบัน
ทำไมยักษ์ใหญ่อย่าง Twitter ถึงเลือกซื้อกิจการแอปพลิเคชัน Squad ?
เชื่อว่าหลายคนน่าจะสงสัยว่าแล้วทำไม Twitter ถึงต้องเจาะจงในการเลือกซื้อกิจการ Squad ทั้ง ๆ ที่ 2 แอปพลิเคชันนี้แม้จะเป็นแพลตฟอร์มด้านการสื่อสารเหมือนกัน แต่ก็มีลักษณะการใช้งานที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง
ซึ่งคำตอบว่าทำไม Twitter ถึงต้องซื้อกิจการของ Squad นั้นทาง Twitter ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดออกมาอย่างเป็นทางการนะครับ แต่ทางสื่ออย่าง TechCrunch ก็ได้คาดการณ์เบื้องหลังดีลนี้ว่าเกิดขึ้นเพราะ Twitter กำลังวางแพลนให้แพลตฟอร์มตัวเองมีฟีเจอร์ของการแชทที่หลากหลายขึ้น
เพราะปัจจุบันแม้ Twitter จะมีฟีเจอร์สำหรับการแชทก็จริง แต่ก็ไม่ค่อยได้รับความนิยมมากเท่าไร เพราะผู้ใช้งานส่วนใหญ่ก็จะเลือกใช้งานแอปพลิเคชันสำหรับการแชทโดยเฉพาะ เช่น Messenger , WhatsApp , Line มากกว่า ทำให้ Twitter ต้องการดึงเอาจุดเด่นของ Squad ทั้งในด้าน Video Chating และ Screen Sharing มาไว้ในแพลตฟอร์มตน
นอกจากนั้นยังมีการคาดการณ์ว่า Twitter กำลังจะมุ่งเป้ามาที่ตลาดวิดีโอแชทมากขึ้นด้วย เนื่องจาก ตลาดของการสื่อสารแบบวิดีโอที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปีนี้ โดยในตอนแรกหากใครที่ได้ติดตามข่าว น่าจะพอทราบว่า Twitter ก็มีฟีเจอร์สำหรับการทำ Live Streaming อย่าง “Periscope” แต่ก็ไม่ได้รับความนิยมมากเท่าไร เพราะฟีเจอร์นี้ใช้ได้แค่ในบางประเทศ (แน่นอนว่าที่ไทยใช้ไม่ได้)
แต่หลังจากที่ Twitter เข้าซื้อกิจการของ Squad พวกเขาก็ได้ประกาศว่าจะยุติการให้บริการของ Periscope ทันที ซึ่งทำให้เห็นได้ชัดว่า Twitter น่าจะเอาจริงกับการเพิ่มฟีเจอร์วิดีโอคอลในแพลตฟอร์มแน่นอน
ประกอบกับตัวเลขการเติบโตของ Squad ที่ผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากในช่วง Covid-19 ยิ่งทำให้ Twitter แน่ใจว่าการเพิ่มฟีเจอร์นี้เข้ามาอยู่ในแพลตฟอร์มของตน น่าจะสร้างประสบการณ์ใหม่ในการสื่อสารให้กับผู้ใช้งาน จนพาไปถึงการเติบโตของธุรกิจได้ในอนาคต
สรุปทั้งหมด
โดยหลังจากที่ Twitter ได้ประกาศซื้อกิจการของ Squad ไปนั้นทางหน้าเว็บไซต์ของ Squad ก็ได้มีการส่งสารบอกลาแก่ผู้ใช้งานทุกคน และได้ปิดการให้บริการทั้งหมดของแอปพลิเคชันรวมถึงหน้าเว็บไซต์ไปเรียบร้อยแล้ว
โดยทีมงานทุกคนของ Squad จะถูกรวมเข้าไปอยู่ใน Twitter ทันที เพื่อร่วมงานกับทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทีมวิศวกรรม ทีมดีไซน์ และทีมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องช่วยกันพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ ๆ บนแพลตฟอร์มออกมา
แม้ทาง Twitter จะไม่ได้ประกาศแบบ Official ว่าการรวมเอา Squad เข้ามาในครั้งนี้จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง แต่ก็ถือว่าในปี 2021 ที่จะถึงนี้เราน่าจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่บนแพลตฟอร์ม Twitter แน่นอน