มีอัปเดตฟีเจอร์อย่างต่อเนื่องเลยสำหรับ Twitter เพราะหลังจากเป็นข่าวมาสักระยะว่าจะเปิดให้ใช้ฟีเจอร์ Edit Tweet ล่าสุดข่าวลือเผยว่า จะเปิดให้เห็นประวัติการแก้ไข และการแก้ไขนั้น ๆ จะเป็นการ ‘เพิ่มข้อความ Tweet อันใหม่’ (แทนที่จะเป็นการแก้ไขจากอันเดิม) คาดว่าจะปล่อยเวอร์ชันเต็มออกมาพร้อมกันเร็ว ๆ นี้
ซึ่งดูเหมือนแนวทางของ Twitter ครั้งนี้ จะเป็นในลักษณะที่หากมีการแก้ไข Tweet ก็จะกลายเป็นการ ‘เพิ่มข้อความ Tweet อันใหม่’ ในแอคเคาท์นั้น ๆ (แทนที่จะเป็นการแก้ไขจากอันเดิม) แน่นอนว่ามีกลุ่มผู้ใช้งานจำนวนหนึ่งออกมาแสดงความเห็นถึงเสน่ห์ในด้านการใช้งานของ Twitter ว่าอาจไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
ครั้งนี้แนวโน้มการอัปเดตจะเป็นอย่างไร The Growth Master สรุปมาให้คุณแล้วในบทความนี้
‘Edit Tweet’ จะเป็นอย่างไรต่อผู้ใช้งานในอนาคต?
ก่อนหน้านี้ ตามรายงานจากสำนักข่าว ANI ยืนยันว่า Twitter กำลังเตรียมตัวเปิดให้สามารถแก้ไข Tweet ได้แน่นอน ผ่านการแตะปุ่ม Edit Tweet โดย Alessandro Paluzzi (นักวิจัยแอปพลิเคชัน) ได้ออกมาเผยภาพหน้าจอโชว์ให้เห็นว่าฟีเจอร์ใหม่ จะมีหน้าตาอย่างไร
ซึ่งปุ่มลัด Edit Tweet นั้นจะอยู่ในเมนู ‘สามจุด’ ขวามือของ Tweet และเมื่อเราแตะ ก็จะพาไปหน้าที่เหมือนตอนกำลังจะ Tweet ข้อความใหม่ โดยจะเห็นเป็นข้อความเดิมพร้อมกับปุ่ม ‘Update’ แทนที่ปุ่ม Tweet มุมขวาล่างนั่นเอง
จากภาพจะเห็นได้ว่ายังไม่มีประวัติการแก้ไขให้เห็น และยังคงไม่มีการคอนเฟิร์มจาก Twitter ว่า จะเปิดให้ทุกคนมองเห็นประวัติการแก้ไขใน Tweet นั้น ๆ ได้หรือไม่ ซึ่งเป็นไปได้ว่า Twitter อาจเปิดให้มองเห็นแค่เจ้าของแอคเคาท์เท่านั้น (เพราะหากเปิดเป็นสาธารณะ ก็ถือเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัว)
โดยจากเสียงตอบรับของผู้ใช้งานที่ยังคงใช้ Twitter (ในแบบที่ไม่สามารถแก้ไข Tweet ได้) ต่างออกความเห็นว่า ‘ฟีเจอร์แบบเก่าถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของ Twitter’ เช่นกัน เพราะข้อความที่สื่อสารออกไป จำเป็นต้องผ่านการกลั่นกรองข้อมูลมาอย่างดี (หากข้อมูลเป็นเท็จ อาจโดนเปิดเผยได้) และโดยปกติ ถ้าข้อมูลหรือข่าวไหนกำลังอยู่ในกระแส ก็มักจะมีการ Retweet กระจายข่าวกันอย่างรวดเร็วอยู่แล้ว
ดังนั้นข้อมูลทุก ๆ ครั้งที่จะ Tweet ออกไปนั้น หากมีการอัปเดตฟีเจอร์ให้สามารถแก้ไขและซ่อนประวัติการแก้ไขได้ อาจทำให้มีบุคคลใช้ช่องโหว่สร้างความเสียหายหรือใช้ในทางที่ผิดได้ ซึ่งต่างก็ไม่แน่ใจว่าแนวทางของ Twitter และฟีเจอร์ใหม่ ๆ จะส่งผลในอนาคตต่อไปอย่างไรนั่นเอง
สรุปทั้งหมด
ไม่ว่ารูปแบบการอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ ๆ จะเป็นอย่างไร เชื่อว่า Twitter จะยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานและมูลค่าทางตลาดเป็นอันดับต้น ๆ เสมอ เพราะเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา Elon Musk ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น ‘เจ้าพ่อแห่งโลกอนาคต’ ก็ยังทาบทามซื้อหุ้น Twitter ด้วยเดิมพันที่มากถึง 3 พันล้านดอลลาร์เลยทีเดียว
และอัปเดตจากแพลตฟอร์มสื่อสารยอดนิยมนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามไว้ เราจะมาอัปเดตให้ทันใจ ไม่ตกข่าวแน่นอน :-)