ตอนนี้ก็เริ่มเห็นหลาย ๆ โซเชียลมีเดียเริ่มมีความเคลื่อนไหวว่าจะพาแพลตฟอร์มของตัวเองเชื่อมต่อเข้ากับเทคโนโลยี Blockchain กันมากขึ้น เช่น ประกาศจาก Twitter, Facebook หรือ Instagram เมื่อไม่กี่วันมานี้ ที่กำลังมีการซุ่มพัฒนาฟีเจอร์ที่จะเข้ามารองรับรูปโปรไฟล์ที่เป็น NFT กันมากขึ้น
คราวนี้ก็ถึงตาของ YouTube แพลตฟอร์มสตรีมวิดีโอที่ใหญ่ที่สุดในโลกกันบ้างแล้ว ซึ่ง CEO ของเขาบอกว่าอาจจะเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่สามารถรองรับ NFT เพื่อเพิ่มช่องทางสร้างรายได้ให้กับเหล่า Creator บนแพลตฟอร์มได้มากขึ้น
แต่สำหรับรายละเอียดของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ของ YouTube ในอนาคตอันใกล้นี้ จะมีอะไรบ้าง The Growth Master ได้สรุปมาให้คุณแล้ว
CEO ของ YouTube เผย Web3 เป็น “แรงบันดาลใจ” ในการเปิดฟีเจอร์ใหม่เพื่อรองรับ NFT
Susan Wojcicki ซึ่งเป็น CEO คนปัจจุบันของ YouTube กล่าวว่า “เรากำลังโฟกัสไปที่การขยายระบบ Ecosystem ของ YouTube เพื่อช่วยให้ Creator ได้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ ๆ มากขึ้น เช่น NFT แต่ในขณะเดียวกัน เราก็ยังคงมีการเสริมสร้างและปรับปรุงประสบการณ์ของทั้ง Creator และแฟน ๆ บน YouTube ให้ดีขึ้นอยู่เสมอ”
สำหรับรายละเอียดข้างต้น เป็นส่วนหนึ่งของบล็อกล่าสุดจาก Susan Wojcicki ที่ส่งถึง Community บน YouTube โดยเขามีการระบุถึงแผนการที่แพลตฟอร์มจะมีการสนับสนุน Creator อย่างไรบ้าง รวมถึงพื้นที่ที่บริษัทวางแผนที่จะลงทุนต่อไปในอนาคต เช่น เกม, ช้อปปิ้ง หรือการเรียนรู้ เป็นต้น
แม้ว่าจะยังไม่เป็นที่แน่ชัดและยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติม แต่ในคำแถลงของ Wojcicki นอกเหนือจากการที่เขาอ้างว่าทีม YouTube ได้รับ “แรงบันดาลใจ” ในการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่นี้มาจาก Web3 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่เขาได้เฝ้าสังเกตการณ์โอกาสของ Crypto, องค์กรอัตโนมัติแบบกระจายศูนย์ (Decentralized Autonomous Organizations: DAOs) และ NFTs
ซึ่ง YouTube เองก็ได้บอกใบ้เป็นสัญญาณถึงความเป็นไปได้เกี่ยวกับ NFT โดยที่ฟีเจอร์นี้จะมีความสอดคล้องและมีลักษณะคล้าย ๆ กับแพลตฟอร์มอื่นที่เพิ่งเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ของตัวเอง รวมไปถึงแพลตฟอร์มที่มีข่าวว่ากำลังซุ่มพัฒนาฟีเจอร์ NFT อยู่ด้วย
อย่างเช่น Twitter ที่ไม่กี่วันมานี้ ได้ประกาศว่าจะเปิดตัวเครื่องมือที่ให้ผู้ใช้งานสามารถแสดง NFT ของพวกเขาผ่านรูปโปรไฟล์หกเหลี่ยมได้ เช่นเดียวกันกับ Meta เจ้าของ Facebook และ Instagram ที่กำลังซุ่มพัฒนาฟีเจอร์บางอย่างที่คล้ายกัน ซึ่งเอื้อให้ผู้ใช้งานเป็นเจ้าของและซื้อขาย NFT ได้บนแพลตฟอร์ม หรือแม้แต่ NFT Marketplace เองก็ได้รายงานข่าวในลักษณะเดียวกันด้วย
อย่างไรก็ตาม เมื่อปีที่ผ่าน ๆ มา เหล่า Creator ที่เป็นเจ้าของวิดีโอไวรัลบน YouTube ก็ได้มีการนำวิดีโอของตัวเองไปสร้างเป็น NFT แล้วก็เปิดประมูลขายวิดีโอเหล่านั้น ซึ่งจากผลการซื้อขายในครั้งนี้แสดงให้เราเห็นแล้วว่าคลิปวิดีโอเหล่านี้ได้กลายเป็น NFT ที่มีมูลค่าสูงมาก
ตัวอย่างเช่น วิดีโอ Charlie Bit Me NFT หรือวิดีโอที่เคยครองตำแหน่งคลิปที่มียอดวิวสูงสุดบน YouTube ซึ่งเป็นวิดีโอที่เป็นภาพเด็กทารกชาย (Charlie) กำลังกัดนิ้วมือพี่ชายของเขา (Harry) ถูกประมูลไปเมื่อเดือนพฤษภาคม 2021 ในราคา 761,000 ดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 25 ล้านบาท)
ในขณะที่อีกวิดีโอ David After Dentist หนึ่งในวิดีโอไวรัลเก่าแก่ที่สุดในปี 2008 ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับอาการของเด็กผู้ชาย (David) หลังจากที่เขาโดนวางยาสลบจากการถอนฟัน ก็ถูกวางขายเป็น NFT ในราคากว่า 11,000 ดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 362,000 บาท)
สรุปทั้งหมด
การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งคลื่นลูกใหม่ที่ YouTube ตั้งใจจะสร้างให้เป็นช่องทางสร้างรายได้อีกหนึ่งช่องทางให้กับเหล่า Creator บนแพลตฟอร์ม ซึ่งจากตัวอย่างการนำวิดีโอที่เป็นไวรัลไปทำเป็น NFT ก็ถือว่าสร้างรายได้จำนวนไม่น้อยให้กับเหล่า Creator เลยทีเดียว
แต่เราก็ต้องมาติดตามดูต่อไปว่า หลังจากที่ YouTube ได้เปิดตัวฟีเจอร์ NFT ใหม่นี้ขึ้นมาแล้ว จะสามารถสร้างผลประโยชน์ตอบแทนให้กับเหล่า Creator และตัวแพลตฟอร์ม YouTube เองมากน้อยแค่ไหน และจะเป็นไปในทิศทางไหนต่อไป