หลังจากอัปเดตฟีเจอร์ Live rings ที่ผู้ใช้งานจะไม่พลาดทุกการไลฟ์สตรีม มาครั้งนี้ YouTube เผยว่ากำลังเตรียมปล่อยอัปเดตฟีเจอร์ Picture-in-Picture (PiP) หรือ โหมดภาพซ้อน สำหรับแอป Youtube TV พร้อมรองรับระบบปฏิบัติการ iOS 15 เร็ว ๆ นี้
โดย YouTube ระบุว่าฟีเจอร์ PiP จะเปิดให้ใช้งานได้ ‘เฉพาะแอป Youtube TV’ ส่วนแอป YouTube ปัจจุบัน ยังคงเปิดให้ใช้โหมดภาพซ้อนเฉพาะผู้ที่สมัคร Youtube Premium บนระบบปฏิบัติการ Android เท่านั้น
เรียกว่าเป็นข่าวดี สำหรับคนที่ชอบรับชมรายการทีวี ถ่ายทอดสด ข่าวสาร ความบันเทิงแบบ Worldwide (ที่มีให้เลือกมากกว่า 85 ช่อง) ไปพร้อม ๆ กับการเปิดใช้งานแอปพลิเคชันอื่นควบคู่ด้วย ซึ่งรายละเอียดการอัปเดตครั้งนี้จะเป็นอย่างไร The Growth Master สรุปมาให้คุณแล้วในบทความนี้

YouTube TV ทันทุกสถานการณ์ ถ่ายทอดสดกว่า 85 ช่อง
ต้องบอกว่าการอัปเดตโหมดภาพซ้อนของแอป YouTube TV นั้นอาจช้าไปสักหน่อย หากเทียบกับสตรีมค่ายอื่นอย่าง Disney Plus, Netflix หรือ Twitch (ที่เปิดใช้งาน PiP ภายในไม่กี่เดือนหลังจากเปิดตัว) แต่ก็ถือว่า YouTube TV เป็นอีกแอปที่มีทางเลือก ‘รายการทีวี’ ให้ชมเยอะมาก ๆ เรียกว่าอัปเดตทันทุกสถานการณ์แน่นอน
ซึ่งการใช้งานฟีเจอร์ PiP บน Youtube TV นั้นจะคล้ายกับการใช้งานบน iOS 14 (ที่ปล่อยเมื่อช่วงมิถุนายน 2021 ที่ผ่านมา) เพราะก่อนหน้านี้ บนสมาร์โฟนก็มีฟีเจอร์ PiP ที่สามารถเปิดแอป YouTube เป็นภาพซ้อนค้างไว้ที่หน้าจอ พร้อมกับใช้งานแอปพลิเคชันตัวอื่นไปพร้อมกันได้ (ลักษณะคล้าย ๆ Mini Player) แต่จะใช้ได้เฉพาะคนที่สมัคร Youtube Premium เท่านั้น
นอกจากนี้ฟีเจอร์ PiP ก็สามารถแตะปุ่มเพิ่ม-ลด ขนาด หรือย้ายฝั่งซ้ายขวาภาพซ้อนได้อย่างอิสระด้วย เรียกว่าใครที่ถนัดใช้โหมดสองจอ หรือใช้หลาย ๆ แอปอยู่แล้ว ก็คงคุ้มค่าและเต็มอิ่มมาก ๆ สำหรับการสมัครรับชม Youtube TV

สรุปทั้งหมด
เรียกว่าการอัปเดตฟีเจอร์ PiP จาก Youtube TV ที่จะมาถึงเร็ว ๆ นี้ ทำให้ไม่ต้องเปิดใช้งานวิดีโอภาพซ้อน ผ่าน Safari หรือใช้ทางลัดอื่น ๆ ให้ยุ่งยากอีกต่อไป ถือว่า YouTube ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ใช้งานแบบ Multi-functional ผ่านจอทีวีได้ดี เพราะยุคนี้ แพลตฟอร์มไหนไม่ปรับให้ ‘เข้ามือผู้ใช้งาน’ ก็ไม่สามารถขึ้นมาเทียบคู่แข่งได้อย่างแน่นอน
ซึ่งความคืบหน้าของฟีเจอร์ใหม่ ๆ ทั้งใน และนอกกระแสจะเป็นอย่างไรต่อไปนั้น เราจะมาสรุปให้คุณอีกติดตามไว้ได้เลย :-)