และที่สำคัญ แบรนด์ต้องคำนึงถึงเว็บที่เป็นทั้ง Desktop และ Mobile-Friendly เพราะคนเจนใหม่อย่าง Gen Z และ Millennials นิยมใช้สมาร์ทโฟนมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2023 และในปีต่อ ๆ ไป และใช้สิ่งนี้ในการเข้าถึงแบรนด์ใหม่ ๆ บนโลกออนไลน์เพิ่มขึ้นเช่นกัน
การแสดงถึงความเชี่ยวชาญในธุรกิจนั้น ๆ
นอกจากการสร้างตัวตนและหน้าเป็นตาของแบรนด์ให้มีเครดิตแล้ว แบรนด์ต้องสร้างตัวตนและภาพลักษณ์ของตัวเองให้มีความเป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจประเภทนั้น ๆ ด้วยเช่นกัน โดยแบรนด์สามารถลงคอนเทนต์ที่มีจุดประสงค์ในการให้ความรู้หรืออัพเดตข่าวสารที่เกี่ยวกับธุรกิจประเภทนั้น ๆ ซึ่งอาจมาในรูปแบบของบทความ ข่าว Blog หรือวีดีโอ และควรมีความสม่ำเสมอในการลงผ่านช่องทางอย่างหน้าเว็บ หรือโพสต์ลง Social Media เพื่อเป็นการโชว์ว่าแบรนด์มีความชำนาญและรู้ลึกจริง ทำให้แบรนด์เป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือที่คนจะให้ความเชื่อมั่นได้ และสร้างเครดิตของความเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ดีให้กับแบรนด์
ตัวอย่างเช่นแบรนด์ Colgate ที่มีบทความเกี่ยวกับการดูแลและป้องกันฟันผุบนหน้าเว็บ โดยในทุก ๆ เดือนจะมีการ Lead ให้คนเข้าไปอ่านบทความเกี่ยวกับการดูแลฟันในเว็บผ่านโพสต์ที่ลงในหน้า Facebook
การแสดงถึงความ Active ของแบรนด์
หลังจากแสดงถึงความโปรของแบรนด์ในตลาดแล้ว การทำแบรนด์ให้ Active บน Social Media อย่างการมี Official Account บนช่องทางอย่าง Instagram, Facebook, TikTok, YouTube, และ LinkedIn นั้นก็เป็นอีกสิ่งที่ทุกแบรนด์ควรต้องทำในยุคที่ E-Commerce กำลังโต และทุกแบรนด์ต้องเข้าถึงลูกค้าผ่านช่องทาง Social Media เพื่อให้ลูกค้าที่เข้ามาดูได้เห็นว่าแบรนด์มีความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลาและเสริมความมั่นใจการตัดสินใจที่จะอุดหนุนแบรนด์ในช่องทางออนไลน์ต่อไป
นอกจากนั้น แบรนด์สามารถใช้ช่องทาง Social Media ในการเพิ่มการมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้ามากขึ้นได้เช่นกัน ด้วยการเข้าไปโต้ตอบกับลูกค้าโดยตรงอย่างเช่น Reply ความคิดเห็นที่ลูกค้ามาแสดงเกี่ยวกับแบรนด์ที่ใต้โพสต์ของแต่ละแพลตฟอร์ม เพื่อเป็นการสร้างบทสนทนา เป็นการทำให้แบรนด์ถูกมองว่าเป็นแบรนด์ที่ทันเหตุการณ์บนโลกออนไลน์ มีสัมพันธ์ที่ดีและใส่ใจในความเห็นของลูกค้า ตัวอย่างเช่น Starbucks ที่เข้ามาตอบ หลังลูกค้าแนะนำว่าให้เพิ่มเมนูกาแฟเย็นและชาเย็นเข้าไปในแคมเปญสะสมแต้ม
ตัวอย่างเช่นแบรนด์ The Body Shop ที่ทำร้านเป็นคอนเส็ปต์ Sustainable Store (หน้าร้านเพื่อความยั่งยืน) ที่ใช้วัสดุรีไซเคิล 100% ตั้งแต่ชั้นวางที่ใช้อลูมิเนียมและพลาสติกรีไซเคิล ไปถึงการตกแต่งด้วยขยะพลาสติกจากใต้ทะเล เพื่อให้คนตระหนักว่ารักตัวเองด้วยสินค้า The Body Shop แล้ว ก็อย่าลืมรักษ์โลกด้วย
หากคุณกำลังมองหาตัวช่วยในการสร้าง Branding ให้โดดเด่นเหนือใคร The Growth Master พร้อมช่วยคุณแล้ววันนี้!