แต่จะมีกี่องค์กรที่รู้ว่า Buyer Persona แบบไหนที่จะทำให้องค์กรเติบโตและประสบความสำเร็จกว่าองค์กรอื่น ?
เพราะนอกจากจะต้องเข้าใจลูกค้าและรู้จักตัวตนของพวกเขาอย่างดีที่สุดแล้ว หนึ่งในกุญแจสำคัญของ Buyer Persona คือเราจะต้องมั่นใจได้ด้วยว่าการวิเคราะห์ของเรานั้นถูกต้องและได้ผลดี ซึ่งหลายๆ องค์กรอาจลืมนึกถึงข้อนี้ ทำให้ข้อมูลที่ได้มาจากการวิเคราะห์ไม่สามารถใช้ได้จริง
ดังนั้นในบทความนี้เราไม่ได้จะพูดถึง Buyer Persona ในรูปแบบทั่วๆไป แต่เราจะพูดถึง Buyer Persona For Growth ที่นอกจากจะเป็นเครื่องมือการวิเคราะห์ลูกค้าแล้ว ยังสามารถพัฒนาการเติบโตของธุรกิจได้อีกด้วย
สิ่งที่ทำให้ Buyer Persona For Growth นั้นแตกต่างจากแบบทั่วไปอย่างชัดเจนก็คือจุดประสงค์ในการใช้ โดยถ้าเป็นรูปแบบทั่วไปจะใช้นำไปเป็นแนวทางในการผลิตสินค้า หรือวางกลยุทธ์เพียงอย่างเดียว ซึ่งทำให้บางครั้งอาจเกิดปัญหาตามมาได้ เช่น Persona ที่คุณร่างออกมานั้นไม่ใช่ตัวตนของลูกค้าของคุณหรือถ้าสิ่งที่คุณทำออกมาไม่ได้ตอบสนองพวกเขาได้จริง ก็อาจจะทำให้คุณเสียทั้งเงินและเสียทั้งเวลาไปได้
แต่ Buyer Persona For Growth นั้นแตกต่างออกไปเพราะจะเป็นการเน้นไปที่การทดลองว่า Persona ที่ร่างขึ้นมานั้นมีตัวตนอยู่จริงหรือไม่ และตอบสนองกับธุรกิจของเราดีหรือไม่ดีอย่างไร เพื่อที่จะได้นำปรับปรุง หรือทุ่มเท (ในกรณีที่การตอบสนองดี) เพื่อพัฒนาการเติบโตอย่างยั่งยืน
ดังนั้นก่อนที่คุณจะสั่งพิมพ์หนังสือออกขาย คุณต้องมั่นใจก่อนว่าจะมีคนซื้อ ถ้าใช้คอนเซปต์ Buyer Persona for Growth นอกจากที่คุณจะต้องทำ Persona ของคนอ่านได้แล้ว คุณต้องทำการทดสอบได้ด้วย อาจเป็นการทดสอบ ภาษาที่ใช้เขียน ความยาว เนื้อเรื่องที่จะเล่า และโพสต์เนื้อหาบางส่วนของหนังสือลงใน Blog ดูฟีดแบ็คจากผู้อ่าน (เช่น กลุ่ม Persona นั้นชอบหรือไม่) และนำมาปรับแก้ไข หรือถ้าพวกเขาชอบในสิ่งที่เราเขียน เราก็สามารถย้ำไปในจุดที่พวกเขาชอบนั่นเอง
ในเชิงธุรกิจ นอกจาก Buyer Persona จะทำให้เรารู้ว่าสินค้าหรือบริการของเรานั้นจะขายให้ใครแล้วนั้น ยังทำให้สามารถตั้งสมมติฐานได้ว่าอะไรหรือวิธีไหนที่จะเปลี่ยนจากคนทั่วไปให้กลายมาเป็นลูกค้าได้ โดยหลังจากการทดสอบสมมติฐานเหล่านั้น ถ้าสมมติฐานไหนที่ใช้ได้ผล เราก็สามารถนำวิธีเดียวกันมาเพื่อขยาย ‘การเติบโต’ให้กับธุรกิจได้นั่นเอง
รู้จักกับ “Negative” Persona
ในขณะที่ Buyer Persona ช่วยทำให้คุณได้รู้ถึงลูกค้าในอุดมคติ ในทางตรงกันข้ามการทำ Negative Persona นั้นจะแสดงได้ถึงกลุ่มที่คุณไม่ต้องการให้เป็นลูกค้า
อย่างเช่น แทนที่คุณจะส่งอีเมลล์แบบเดียวกันให้กับลูกค้าทุกคนในขั้น Lead nuturing คุณสามารถใช้ Buyer Persona ในการแบ่ง Segment ของกลุ่มลูกค้า และปรับแต่งเนื้อหาภายในอีเมลล์ให้เข้ากับข้อมูลที่คุณได้เรียนรู้มาจาก Persona นั้นๆ เพื่อให้พวกเขารู้สึกว่าอีเมลล์ของเรานั้นมีคุณค่าและถูกเขียนมาใช้สำหรับพวกเขาเพียงคนเดียว
มาถึงตรงนี้แล้ว คุณคงอยากรู้แล้วใช่มั้ยครับว่า การทำ Buyer Persona นั้นมีขั้นตอนการทำยังไงบ้าง ?
วิธีการสร้าง Buyer Persona for Growth
โดยผมจะแบ่งขั้นตอนการสร้าง Buyer Persona for Growth อย่างมีประสิทธิภาพออกเป็น 3 ขั้นตอน
1. การแยก Persona อย่างชัดเจน
2. เจาะลึกรายละเอียดของ Persona
3. รวบรวมข้อมูล
ไปเริ่มกันเลยดีกว่าครับ….
1. การแยก Persona อย่างชัดเจน
ในการทำ Buyer Persona สิ่งที่จำเป็นอย่างแรกเลยคือการแยก Persona แต่ละอันของเราให้ได้ก่อน โดยเราจะเริ่มมองจากภาพใหญ่และค่อยๆลงลึกไปถึงรายละเอียดของมัน (ธุรกิจส่วนใหญ่มักมี Buyer Persona มากกว่า 1 อัน)
ตอนนี้เราได้ออกมาแล้วสองกลุ่มใหญ่ๆ โดยเราจะลงลึกไปที่กลุ่ม End Consumer เพราะกลุ่มนี้สามารถแบ่งแยกออกได้เป็นหลายกลุ่ม ซึ่งถือว่าเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับขั้นตอนการทำ Persona ครับ
ขั้นตอนต่อไปนั้นจะขึ้นอยู่กับประเภทของสินค้าคุณ ในกรณีนี้เราจะแบ่ง End consumer ออกเป็น 2 กลุ่ม
โอเคครับตอนนี้เราก็สามารถแบ่ง Buyer Persona ของเราได้ออกเป็น 2 อัน แล้ว ในหัวข้อถัดไปเราจะทำการเจาะลึกถึงข้อมูลของแต่ละ Persona กันครับ
2. เจาะลึกรายละเอียดของ Persona
หลังจากที่เราแบ่ง Persona ออกมาได้แล้ว เราจะเริ่มกำหนดรายละเอียดของ Persona กัน โดยการกำหนดนั้นเราจะอิงจากข้อมูลรีเสิร์ชต่างๆ เพื่อให้ Persona ของเรานั้นชัดเจนและเป็นไปได้มากที่สุด (ไม่ใช่การเดา) ดังนั้นธุรกิจของคุณจะต้องเริ่มดำเนินการมาแล้วระยะนึงแล้ว และมีการเก็บฐานข้อมูลของลูกค้ามาแล้ว
ข้อแนะนำ : การทำ Buyer Persona นั้นอาจจะไม่เหมาะกับผู้ที่ยังไม่เริ่มต้นธุรกิจ หรือธุรกิจที่ยังไม่มีฐานข้อมูลของลูกค้าที่ชัดเจน แต่ถ้าธุรกิจของคุณอยู่ในกลุ่มนี้ ก็ไม่เป็นไรครับ บทความนี้จะเป็นแนวทางที่สำหรับคุณในอนาคตแน่นอน
สุดท้ายแล้วผมขอเน้นย้ำว่า Buyer Persona ของเรานั้นจะต้องพัฒนาไปกับธุรกิจเราเรื่อยๆ ไม่มีวันหยุดนิ่ง เพราะลูกค้านั้นก็พัฒนาไปพร้อมกับการเติบโตของเรา เมื่อคุณได้เรียนรู้ข้อมูลใหม่ๆหรือค้นพบกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ Persona นั้นก็จะถูกเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ
โดยการกำหนด Persona และเน้นไปที่กระบวนการพัฒนาให้เป็น Buyer Persona for Growth นั้นถือเป็นโอกาสสำหรับการวางแผนกลยุทธ์ที่ดีขึ้น ซึ่งมันสามารถเพิ่มจำนวน engagement ในโซเชียลมีเดีย ไปจนถึง ROI ที่สูงขึ้น ดังนั้นผมคงต้องบอกว่าการให้ความสำคัญกับการทำ Buyer Persona for Growth นั้นจะทำให้ธุรกิจของคุณนั้นเติบโต ด้วยการรู้จักและเข้าใจลูกค้าของคุณ “อย่างแท้จริง”