ผ่านไปแล้วอีกปีกับ 2021 ซึ่งเป็นปีที่เราได้เห็นสิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นใหม่มากมาย โดยเฉพาะในเรื่องของเทคโนโลยีที่เหล่านักพัฒนาคอยหาอะไรใหม่ ๆ มาตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้งานอยู่เสมอ และหนึ่งแอปพลิเคชั่นที่เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ขยันอัปเดต ออกฟีเจอร์ใหม่เก่ง คงหนีไม่พ้น ClickUp เครื่องมือด้าน Project Management
จากบทความ ClickUp แอปที่ช่วยจัดระเบียบการทำงานให้คุณมีเวลาเพิ่มขึ้นอีก 20% เราจะพาคุณไปดูว่า มาถึงตอนนี้ ClickUp มีฟีเจอร์ใหม่ ๆ หรืออัปเดตอะไรไปแล้วบ้าง ตามมาดูกันเลย
รวม 5 ไฮไลท์ฟีเจอร์ใน ClickUp 2022
หน้า Home รูปแบบใหม่ สำหรับจัดการ Task ส่วนตัว
เพราะการทำงานร่วมกับผู้อื่นใน Workspace เดียวกัน ปัญหาที่ตามมาคือ หา Task ตัวเองไม่เจอ จนบางทีงานตกหล่น ลืมไปว่าต้องส่งวันนี้ ClickUp จึงพัฒนาหน้า Home ส่วนตัวเวอร์ชัน 2 หรือ Home V2 พร้อมทั้งแถบเตือนถึงสิ่งที่ต้องทำและปฏิทินโดยจะเห็นทั้งหมดนี้ภายในหน้า Home หน้าเดียว ช่วยให้ผู้ใช้งานแต่ละคนสามารถจัดการกับเวลาและงานต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น
ซึ่งในหน้า Home V2 นี้ประกอบไปด้วย
- My Work: สำหรับดู Task ต่าง ๆ โดยจะแบ่งเป็น Today, Overdue, Next และ Unscheduled เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถจัดการกับลำดับงานได้ง่ายขึ้น และสามารถดูได้ว่ามีใคร Mention หรือ Comment อะไรถึงเราบ้าง
- Calendar & Google Calendar Events: บนแถบด้านข้างในหน้า Home จะมีปฏิทินส่วนตัวสำหรับแสดง Task และอีเวนต์ต่าง ๆ ซึ่งเป็น Integration กับ Google Calendar ทำให้สามารถระบุอีเวนต์ตามปฏิทินของ ClickUp และ Google Calendar ได้โดยตรง
- Trending & LineUp: อยู่บนแถบบนสุดของหน้า Home แสดงถึง Task ที่ต้องทำเป็นลำดับแรก ๆ
โดยทั้งหมดนี้ เราสามารถลาก Task ไปมา จัดให้อยู่ในแถบที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย
Email ClickApp รับ-ส่งอีเมลได้ในที่เดียว
ClickUp สามารถเชื่อมต่อเข้ากับอีเมลได้ ทำให้สามารถรับ-ส่งอีเมลได้โดยตรงผ่านแต่ละ Task เพียงแค่กดคอมเมนต์ จะพิมพ์ข้อความ, แนบเอกสาร หรือ ลิงก์ Task แล้วแท็กคนในทีมก็ทำได้ ซึ่งอีเมลต่าง ๆ ที่ส่งไปจะแสดงในรูปแบบ Threaded Comments ช่วยให้คนในทีมสามารถ Tracking การตอบอีเมลได้สะดวกยิ่งขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น เมื่อมีลูกค้าติดต่อเข้ามาผ่านทางอีเมล อีเมลนั้นจะขึ้นแสดงเป็น Task บน ClickUp เราสามารถเปิดดู Task นั้นแล้วพิมพ์ข้อความส่งกลับไปได้ทันที หรือถ้าจะอัปเดตงานหรือความคืบหน้าของโปรเจกต์ให้ลูกค้า สามารถใช้ Email Automation โดยการสร้างเทมเพลตข้อความและเติม Variable Field ที่ปรับเปลี่ยนไปตามแต่ละ Task และในแพ็กเกจ Business สามารถเลือกเทมเพลตอีเมลและตั้ง Signature ได้อีกด้วย
Whiteboard เปลี่ยนไอเดียดี ๆ ให้เป็น Task
Collaborative Whiteboard เป็นหนึ่งเครื่องมือที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในช่วงการทำงานแบบ Remote และ Hybrid ซึ่งหลาย ๆ ครั้งที่หลังจากมี Session ระดมไอเดียแล้ว Whiteboard เหล่านั้นก็ถูกลืม ไม่มีใครจัดการต่อ
ล่าสุด ClickUp ได้พัฒนา Whiteboard สำหรับการระดมสมองคิดค้นไอเดียแบบเรียลไทม์ แต่สามารถเปลี่ยนไอเดียเหล่านั้นบนบอร์ดให้กลายเป็น Task บน ClickUp ได้ทันที เป็น Rich-editing จึงสามารถวาดรูป ใส่ข้อความ โน้ต รูปภาพ ไฟล์ต่าง ๆ ได้มากมาย หรือจะนำ Task ที่มีอยู่แล้วมาใส่ก็ทำได้เช่นกัน แต่ขณะนี้ยังเป็นเวอร์ชันเบต้าและฟีเจอร์เปลี่ยนไอเดียเป็น Task กำลังจะมาในอนาคต
ClickUp Docs ฉบับปรับปรุงใหม่ไฉไลกว่าเดิม
การสร้าง Docs บน ClickUp จะใช้สำหรับเก็บข้อมูลของ List หรือ Folder นั้น ๆ ได้โดยเฉพาะ ทำให้ช่วยประหยัดเวลาในการหาไฟล์ เพราะเอกสารที่ถูกสร้างขึ้นจะโชว์อยู่แถบด้านล่าง Folders และ Lists ที่เกี่ยวข้อง ง่ายต่อการค้นหา หรือจะสร้าง Subpage ขึ้นมาเพื่อเชื่อมโยงเอกสารและทำให้หาง่ายขึ้นก็ได้เช่นกัน
ในเวอร์ชันใหม่มีการเพิ่มฟีเจอร์ของ ClickUp Docs มาถึง 50 ฟีเจอร์ นั่นรวมไปถึงการสร้างที่ยืดหยุ่น สามารถ Customize ได้ตามชอบ เหมาะกับการสร้างเป็นแหล่งข้อมูล หรือเอกสารของบริษัท หรือจะเลือกเทมเพลตเพื่อสร้างเอกสารที่เหมาะสมกับความต้องการและลดเวลา ทำให้การวางโครงเอกสารง่ายขึ้น
Form View สร้างแบบฟอร์มสวย ๆ ด้วย ClickUp
ในการสร้างแบบสอบถาม หรือ ฟอร์มออนไลน์ขึ้นมา สิ่งหนึ่งที่ท้าทายและต้องคำนึงถึงอยู่เสมอคือ จะสร้างฟอร์มยังไงให้ผู้ที่กรอกแบบสอบถามนี้รู้สึกไม่เบื่อที่ต้องมาตอบคำถามทีละข้อ โดยที่ต้องไม่ลืมว่า แบบฟอร์มนั้นต้องดูน่าเชื่อถือ ปลอดภัย และมีหน้าตาเป็นมิตรกับผู้กรอก
ซึ่งใน ClickUp Form จะมี Field Types มากมายที่จะทำให้การกรอกฟอร์มไม่ใช่แค่การพิมพ์คำตอบลงในช่องว่าง ทั้ง วันที่, Dropdown, Labels, Rating และ Checkbox เป็นต้น โดยทั้งหมดนี้สามารถลากและวางบนตำแหน่งที่ต้องการได้เลย พร้อมทั้งสามารถเลือกธีมและสีของปุ่มที่ต้องการได้ และสามารถใส่ Response Message ข้อความหลังกรอกฟอร์มเสร็จ
โดยปกติหลาย ๆ คนน่าจะสร้างฟอร์มเหล่านั้นโดยใช้ Google Form สร้างเสร็จจึงส่งไปให้ผู้ใช้งานกรอกต่อ เมื่อได้คำตอบแล้ว อาจนำข้อมูลเหล่านั้นไปใส่ Excel อีกที แต่สิ่งหนึ่งที่ ClickUp Form พิเศษกว่าคือทันทีที่มีการกรอกฟอร์มเข้ามา ข้อมูลเหล่านั้นจะถูกสร้างขึ้นเป็น Task โดยอัตโนมัติ
นอกจากนี้ยังสามารถนำข้อมูลในฟอร์มมาแสดงบนคำอธิบาย Task ได้ มีเทมเพลตให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมของงาน ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาไปสร้างแบบฟอร์มใหม่ สามารถยึดจากเทมเพลตและปรับแต่งเอง เลือก Assignee เมื่อมีการกรอกฟอร์ม คนที่ถูก Assign ให้มาดูแลในส่วนนี้จะเห็นการแจ้งเตือนและดำเนินการต่อได้ทันที
สรุปทั้งหมด
และนี่คือ 5 ฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ ClickUp ในปี 2021 ซึ่งทุกฟีเจอร์นั้นล้วนถูกพัฒนาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำงานได้ง่ายและสะดวกที่สุด โดยที่การทำงานนั้นยังเต็มไปด้วยประสิทธิภาพและเป็นระบบมากที่สุด ดูเหมือนว่า ClickUp กำลังจะเป็นมากกว่า Task Management Tools ไปแล้ว
ต้องมาดูกันว่าในปี 2022 จะมีอะไรที่น่าตื่นเต้นรอเราอยู่ ClickUp จะออกลูกเล่นอะไรใหม่มาให้เราได้ลองใช้กันอีก เพราะโลกนี้ไม่เคยหยุดหมุน และเทคโนโลยีใหม่ ๆ ก็เกิดขึ้นเสมอ ทุกคนเองก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นเช่นกัน
สุดท้ายนี้ The Growth Master ขอให้ปีหน้าเป็นปีที่ดีและเป็นปีเติบโตสำหรับทุกคน Happy New Year และ Happy Growing ค่ะ :)