Growth Marketing คืออะไร? ทำไมถึงเป็นศาสตร์การตลาดเพื่อการเติบโตของธุรกิจที่คุณต้องรู้

Growth Marketing คืออะไร? ทำไมถึงเป็นศาสตร์การตลาดเพื่อการเติบโตของธุรกิจที่คุณต้องรู้
Light
Dark
Pea Tanachote
Pea Tanachote

อดีตนักร้อง ที่ผันตัวมาเขียนคอนเทนต์ ชอบดูฟุตบอลและ Blackpink เป็นชีวิตจิตใจ นักเขียนคอนเทนต์ที่ใคร ๆ ก็ต้องการตัว (โดยเฉพาะตำรวจ)

นักเขียน

Growth Marketing หรือเรียกอีกชื่อว่า การตลาดเพื่อการเติบโต ถือเป็นศาสตร์กลยุทธ์ใหม่ของการทำการตลาดในปัจจุบัน ที่จะโฟกัสไปที่การสร้างการเติบโตให้แก่ธุรกิจเป็นหลัก ซึ่งแน่นอนว่าจะแตกต่างจากกลยุทธ์การตลาดอื่นๆ ที่คุณใช้อยู่อย่างสิ้นเชิง

ขออธิบายให้ชัดเจนขึ้น กลยุทธ์การตลาดโดยทั่วไป ก็มักจะมุ่งเน้นไปที่การหาลูกค้าใหม่ๆ การให้ลูกค้ามารู้จักกับแบรนด์หรือธุรกิจของคุณให้ได้มากที่สุดใช่ไหมครับ

แต่ Growth Marketing จะโฟกัสไปที่เรื่องของการเติบโตของธุรกิจเป็นหลัก และออกแบบผลิตภัณฑ์พยายามสร้างคุณค่าให้กับลูกค้าให้ได้มากที่สุด จนสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจคุณแบบยั่งยืนในยุคที่ธุรกิจเกิดการแข่งขันสูง

ผมขอยกตัวอย่างจาก Grab ครับ ถ้าในมุมของกลยุทธ์ Digital Marketing จะโฟกัสที่ยอดดาวน์โหลดของแอปพลิเคชั่นว่าเดือนนี้/ปีนี้ มียอดผู้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นกี่คน จะทำอย่างไรให้เราได้ลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น

แต่ถ้า Growth Team เมื่อไร เป้าหมายจะเปลี่ยนทันทีครับฝั่ง Growth จะหาสิ่งที่เป็นคุณค่าของผู้ใช้เช่น ลูกค้าเรียกรถแล้วสะดวกสบาย ความเร็วในการเรียกรถ ไปจนถึงยอดผู้ใช้งานต่ออาทิตมีมากน้อยแค่ไหน เพราะฝั่งของ GrowthTeam จะมองว่าถ้าลูกค้าเห็นคุณค่าในธุรกิจมากเท่าไร ผู้ใช้ก็จะยิ่งรัก และใช้บริการมากขึ้นเท่านั้น

ในบทความนี้ The Growth Master เลยขออาสาพานักการตลาดทุกท่านมาทำความรู้จักกับศาสตร์ที่ชื่อว่า Growth Marketing ถึงความหมาย ข้อแตกต่างระหว่าง Growth Marketing กับการตลาดทั่วไป และทำความเข้าใจฟันเฟืองสำคัญของกลยุทธ์นี้อย่าง Growth Marketer หรือนักการตลาดเพื่อการเติบโต

แล้วกลยุทธ์ Growth Marketing จะมีเนื้อหาอะไรให้คุณได้ศึกษากันบ้างนั้น ลองติดตามกันได้เลยครับ

ไม่พลาดทุกข้อมูลที่ช่วยให้ธุรกิจคุณเติบโตได้เร็วยิ่งขึ้น

ติดตามได้หลากหลายช่องทางที่คุณสะดวก ไม่ว่าจะเป็น e-mail, line หรือ youtube
Subscribe

Growth Marketing คืออะไร ?

Growth Marketing คือ กลยุทธ์การตลาดที่โฟกัสการเติบโตของธุรกิจโดยเฉพาะ เป็นกระบวนการทดลองในการทำการตลาดและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อหาวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการทำให้ธุรกิจเติบโต (Experiments Based)

จะว่าไป Growth Marketing เปรียบเสมือนเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดปรับปรุงใหม่ เข้าใจความต้องการของลูกค้าเฉพาะบุคคล ผ่านการทำการตลาดให้ผู้ใช้มาเจอกับผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบประสบการณ์ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยสร้างคุณค่าให้กับผู้ใช้ได้รวดเร็วที่สุด ผ่านการใช้เทคโนโลยีและกระบวนการในการทดลองทางการตลาด

ที่เป็นส่วนผสมระหว่างการใช้เทคโนโลยีและการทดลอง (หรือปรับปรุง) ที่จะทำให้คุณรู้และเข้าใจความต้องการของลูกค้าเพิ่มมากขึ้นนั่นเองครับ

ภาพจาก consitientglobal solution

Growth Marketing นั้นจะมีการวัดผลที่ใช้ Growth Rate เป็นเป้าหมาย โดยจะดูว่าธุรกิจของคุณสามารถบรรลุ North Star Metric ที่ตั้งไว้ได้หรือไม่ (แนะนำให้อ่านบทความเรื่อง North Star Metric เพื่อทำความเข้าใจก่อนครับ)

เป้าหมายของ Growth Marketing นั้นแน่นอนว่าการทำให้ธุรกิจเติบโตได้มากที่สุด และบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยไม่สนใจถึงวิธีการหรือขั้นตอนใดๆ ทั้งสิ้น ขอแค่ธุรกิจบรรลุเป้าหมายเป็นพอ (แอบมีความเผด็จการเล็กๆ)

ซึ่งในหัวข้อถัดไปผมจะขอพาทุกคนมารู้จักกับฟันเฟืองสำคัญของ Growth Marketing นั่นก็คือสิ่งที่เรียกว่า Growth Marketer

Growth Marketer คือใคร ทำไมถึงสำคัญกับกลยุทธ์ Growth Marketing ?

ตามที่ผมได้บอกไปในหัวข้อที่แล้วว่า Growth Marketing จะมีความแตกต่างจากกลยุทธ์การตลาดแบบทั่วไป 

สำหรับกลยุทธ์ Digital Marketing ทั่วไปที่เราคุ้นเคยกัน ในส่วนของการทำงาน จะมีการแบ่งออกเป็นแต่ละหน้าที่/ตำแหน่ง เช่น Media Planner , Content Writer , Copywriter , Ads Specialist หรืออื่นๆ ในองค์กร ซึ่งแต่ละคนก็จะดูแลแค่หน้าที่ในตำแหน่งของตนถูกต้องไหมครับ

แต่กลับกันถ้าเป็นองค์กรของคุณเลือกใช้งานกลยุทธ์ Growth Marketing จะต้องมี 1 ตำแหน่งที่จะถูกเพิ่มเข้ามาในองค์กรของคุณทันที นั่นก็คือ “Growth Marketer” หรือนักการตลาดเพื่อการเติบโต

ภาพจาก comm100

โดยหน้าที่ของ Growth Marketer จะเปรียบเสมือนตำแหน่งงานที่สามารถทำงานในส่วนของ Marketing ได้หลายอย่างได้ในคนเดียว หรือเรียกว่า “รับจบ” ได้ในตัวคนเดียวและใช้เวลาได้อย่างรวดเร็วที่สุด และเปรียบเสมือนผู้ที่พาลูกค้ามาเจอกับคุณค่าของธุรกิจด้วย

ตัวอย่างเช่นใน Growth Marketer 1 คนจะสามารถวางกลยุทธ์เป็น รู้เรื่อง SEO  สร้างสรรค์ Content ได้หลากหลายรูปแบบ , เข้าใจกระบวนการทำงานและยิง ADS เป็น , วัดผลระบบหลังบ้านได้ หรืออื่นๆ นั่นแหละครับคือคุณสมบัติของ Growth Marketer 

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า Growth Marketer จะต้องทำงานทั้งหมดด้วยตัวคนเดียว ยังไงการทำงานเป็นทีม ก็ยังคงเป็นสิ่งสำคัญของ Growth Marketing อยู่ดี

เพราะระบบการทำงานของ Growth Marketing จะใช้การทำงานแบบ Scrum (การทำงานที่ไม่เน้นเรื่องกำแพงกั้นของแต่ละฝ่าย ทุกคนทำงานเป็นทีม เน้นการสื่อสาร) ทำให้ได้งานอย่างรวดเร็วและปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา ซึ่งจะแตกต่างจาก Waterfall Process ที่ทุกอย่างต้องเป็นระบบ ส่งงานกันเป็นทอดๆ

ภาพจาก INSCMagazine

Growth Marketer กับ Growth Hacker แตกต่างกันอย่างไร ?

ถ้าใครที่ได้ติดตามบทความล่าสุดของเราที่พูดถึงเรื่องของ Growth Hacking จะพบว่าในเนื้อหานั้นเราจะมีการพูดถึง Growth Hacker ถึงตรงนี้เราอาจจะพบว่าทั้ง Growth Marketer และ Growth Hacker ดูมีบทบาทและหน้าที่ที่คล้ายกันเอามากๆ

แต่ทั้ง 2 อย่างก็มีข้อแตกต่างอยู่ครับนั่นก็คือ Growth Marketer จะโฟกัสเฉพาะสโคปงานของฝั่ง Marketing เท่านั้น แต่ Growth Hacker จะต้องรับผิดชอบในสเกลที่ใหญ่กว่าเช่น ต้องรู้เรื่อง Marketing ด้วย แล้วยังต้องรู้ในระบบงานเบื้องหลังเช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Development) พฤติกรรมผู้บริโภค (Consumer Behavior) + ข้อมูล (Data) + เครื่องมือ (Automation) หรือพูดง่ายๆว่าต้องมีส่วนร่วมอยู่ในทุกส่วนของบริษัทที่สามารถเติบโตได้

ภาพจาก verbiddencommunication

ข้อเสียของ Growth Marketer

อย่างไรก็ตามถึงแม้เราจะเห็นว่า Growth Marketer ดูจะเป็นอะไรที่ดีและสร้างการเติบโตต่อองค์กร แต่ขณะเดียวกัน Growth Marketer ก็ข้อเสียอยู่เหมือนกันดังนี้

  • มีความยากในการ Recruitment : เพราะอย่างที่กล่าวไปว่า Growth Marketer จะต้องเป็นคนที่มีความเก่งในศาสตร์การตลาดรอบด้าน (Talent People) และมี Growth Mindset ที่พร้อมจะเรียนรู้อะไรใหม่ตลอดเวลา ซึ่งค่อนข้างหายากมากในไทย
  • ต้องอาศัย Growth Lead ที่มีความสามารถ : การจะทำให้ธุรกิจเติบโต ก็ต้องเกิดจากการมี Leader หรือผู้นำที่มีความรอบรู้และมีความสามารถและเป็นเหมือนหัวเรือใหญ่ในการพาองค์กรเติบโต ซึ่งแน่นอนว่าต้องใช้ความรู้ ความสามารถพอตัว

หลังจากที่เรารู้ถึงบทบาทของ Growth Marketer ไปแล้วต่อมาเราจะมาดูกันครับว่าในส่วนของยุทธวิธี Growth Marketing จะแตกต่างจากกลยุทธ์ทั่วไปอย่างไร

Growth Marketing แตกต่างจากกลยุทธ์ Digital Marketing ทั่วไปอย่างไร ?

ในส่วนของกระบวนการทำงาน Growth Marketing จะมีความแตกต่างจากกลยุทธ์ Digital Marketing ทั่วไปอย่างสิ้นเชิง โดย Growth Marketing นั้นจะมุ่งเป้าไปที่การเติบโตอย่างรวดเร็ว บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ใช้การทำงานเป็นทีม โดยอาศัยการทดลองไอเดียทางการตลาดใหม่ๆ อยู่เสมอและสามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็วหากเจอวิกฤตต่างๆ

ซึ่งจะแตกต่างจาก Digital Marketing ที่จะเป็นกลยุทธ์ที่เดินตามกรอบ ไม่มีการปรับเปลี่ยนใดๆ การทำงานจะถูกแบ่งเป็นแผนก ซึ่งเมื่อเกิดวิกฤตหรือปัญหาใดๆ ก็จะทำให้สิ่งที่เตรียมมาล้มไม่เป็นท่า

โดย Growth Marketing จะมี Marketing Framework ที่แตกต่างจาก Digital Marketing ทั่วไป หรือที่เราเรียกว่า Growth Funnel ป็นโครงสร้างการตลาดรูปกรวยที่จะคัดกรองจากคนแปลกหน้าไปเป็นลูกค้าที่รักในผลิตภัณฑ์ของเราจนต้องบอกต่อ

Growth Funnel คือต้นแบบ Framework ของ Growth Marketing

ภาพจาก useproof

จะสังเกตุได้ครับว่าฝั่งซ้ายที่เป็น Digital Marketing แบบธรรมดากระบวนการของนั้นจะมุ่งเน้นไปที่ “การหาลูกค้าใหม่แต่เพียงอย่างเดียว” นั่นคือ Stage ของ Awareness , Acquistion 

แต่ลองสังเกตุในฝั่งขวา Growth Marketing จะเข้าถึงทุกกระบวนการใน Growth Funnel ตั้งแต่ Awareness ไปจนถึง Referal หรือสรุปก็คือ Growth Marketing นอกจากจะทำให้ลูกค้ารู้จักแล้วยังต้องสร้าง Activation (การสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้า) 

และเข้าสู่กระบวนการRetention (การกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาใช้ซ้ำ) , Revenue (การสร้างรายได้ให้ธุรกิจ) , Refferal (การให้ลูกค้าชักชวนเพื่อน , คนรู้จักให้กลายมาเป็นลูกค้าของเรา) ก็ถือว่าสิ้นสุดกระบวนการทำงานของ Growth Marketing 

แต่ในปัจจุบัน Funnel กำลังถูกแทนที่ด้วยสิ่งที่เรียกว่า “Loop”

เมื่อเวลาผ่านไป Growth Funnel (หรือ AARRR Funnel) ที่เคยเป็น Framework ของการทำ Growth Marketing มาโดยตลอด ก็ต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น ถ้าคุณสังเกตุ Funnel ที่มีลักษณะเป็นกรวย เราจะพบว่ากรวยนั้นก็มี “จุดสิ้นสุด” ของกระบวนการทำงานอยู่เหมือนกัน 

ทำให้ในปัจจุบัน นักการตลาดด้าน Growth จึงได้ออกแบบ Framework แบบใหม่ที่เป็นในลักษณะของ loop ออกมา (ซึ่งดีกว่าการทำ Funnel ในรูปแบบเดิมๆ)

ตัวอย่างการเปลี่ยน Framework แบบ Funnel สู่ Loop

ภาพจาก kobayashionline

โดย Loop ถือเป็น Marketing Framwork รูปแบบใหม่ที่จะช่วยวางโครงสร้างการตลาดของคุณให้เกิดการวนเป็นลูป เพื่อต้องการให้ Growth Team ได้คิดกลยุทธ์ที่ทำให้ลูกค้าที่มาใช้บริการได้เกิดการใช้ซ้ำและบอกต่อ จนได้เป็นการวนกลับมาใช้บริการอย่างต่อเนื่องไม่มีสิ้นสุด

แล้วถ้าถามว่า Loop จะมีขึ้นตอนกี่ขั้นตอน มี Stage ไหนบ้าง ผมบอกเลยว่าไม่ได้มีระบุไว้อย่างชัดเจนครับ คุณสามารถออกแบบ Loop Stage ออกมาเองได้เลย ผ่านการวัดผลจาก Customer Journey หรือสิ่งที่เป็นเป้าหมายในการทำธุรกิจของคุณ (เช่น ต้องการลูกค้าใหม่ , ต้องการเพิ่มอัตราการใช้ซ้ำของลูกค้า)

แต่ที่สำคัญทุกการออกแบบต้องมี Output (Stage สุดท้าย) ที่พูดถึงเรื่อง Referral , Recommendation หรือการแชร์สินค้า/บริการไปสู้ผู้อื่น แล้วเริ่มวนสู่ Loop ของการสร้าง Action ได้ใหม่อีกครั้งและ Loop จะต้องทำงานเพื่อให้ได้เป้าหมายของ North Star Metric ที่คุณตั้งไว้ในตอนแรกด้วย

เพื่อให้เข้าใจภาพตามง่ายขึ้น ผมจะขอยกตัวอย่าง GrowthLoop ของ Pinterest ที่เอาไว้เป็นกระบวนการในการหาลูกค้าใหม่ สังเกตุจาก Loop ด้านล่าง Pinterest จะมีการซ่อนกลยุทธ์ต่างๆ ในแต่ละ Stage อย่างชัดเจนตั้งแต่ Stage1 ไปจนถึง Stage4 

Growthloop ของ Pinterest ภาพจาก reforge

โดยขั้นตอนของ GrowthLoop ของ Pinterest ก็คือ

Stage1 : User จะเจอกับ Content ของ Pinterest ผ่านการค้นหาด้วย Keyword ผ่านทาง Search Engine (เช่นค้นหาว่า ไอเดียแต่งสวน)

Stage2 : Pinterest จะแสดงผลโชว์รูปที่คุณสนใจหรืออาจสนใจเพิ่มเติม ที่ถูกคัดมาแล้วอยู่ในเรื่องเดียวกันกับสิ่งที่คุณค้นหา

Stage3 : เมื่อ User ถูกใจพวกเขาก็จะทำการ Save หรือ Repin เอาไว้ซึ่งก็จะเป็นการสร้าง Content ให้ Pinterest เช่นกัน

Stage 4 : เมื่อ User เริ่มชอบกับการทำงานของ Pinterest ก็จะเป็นผู้สร้าง Content ใหม่อยู่สม่ำเสมอ จน User คนอื่นเข้ามาเจอกับ Content ที่เราสร้างไว้ผ่านทาง Search Engine ก็จะวนกลับไปสู่ Stage ที่1 ใหม่เป็นลูปต่อไปเรื่อยๆ นั่นเอง

ด้วยผลของการทำ Loop ของ Pinterest นี้เองทำให้พวกเขาสามารถหาลูกค้าใหม่แบบไม่มีที่สิ้นสุดและการเป็นอีกหนึ่งแพลทฟอร์ม Media ที่เป็นที่รู้จักในวงกว้างและเติบโตเป็นอย่างมากในปัจจุบัน 

หากต้องการเริ่มสร้าง Loop สำหรับการ Growth Marketing  มีเครื่องมือแนะนำไหม ?

หากเจ้าของธุรกิจท่านใดที่เริ่มเห็นถึงความสำคัญของ Growth Marketing รวมไปถึงตัว Endlessloop แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร ในปัจจุบันก็เริ่มมี Tools ที่ออกแบบมาเพื่อการทำ Loop การทำงานแบบ Growth Team โดยเฉพาะ นั่นก็คือ Endlessloop 

โดย Endlessloop จะเป็น Software ที่สามารถให้คุณกำหนดเป้าหมายและกระบวนการทำงานในแต่ละ Persona Target อย่างชัดเจน เพื่อให้ทุกคนในทีมสามารถมองเห็นเป้าหมายเดียวกันและรู้ถึงขั้นตอนการทำงานในแต่ละ Stage ได้พร้อมพาธุรกิจคุณเติบโตได้อย่างรวดเร็วตามคอนเซปต์ของ Growth Marketing (แอบกระซิบว่า The Growth Master ก็ใช้งานเครื่องมือนี้อยู่)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ :: www.endlessloop.app 

อยากเป็น Growth Marketer ที่มีประสิทธิภาพควรเริ่มต้นอย่างไร ?

สำหรับนักการตลาดท่านใดต้องการเริ่มก้าวสู่การเป็นสายงาน Growth Marketer แต่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี ในหัวข้อนี้ผมจะมาบอกถึงคุณลักษณะที่คุณจำเป็นต้องมี หากต้องการเริ่มเป็นนักการตลาดเพื่อการเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ 

จะมีคุณลักษณะอย่างไรมาบ้าง ลองมาติดตามกันครับ

1. T-Shaped Skill To X- Shaped Skills

การที่จะเป็น Growth Marketer ที่มีประสิทธิภาพ อย่างที่เราบอกตั้งแต่ต้นว่าคุณต้องมีความรู้ความสามารถในสายงานการตลาดรอบด้าน แต่การจะไปถึงจุดนั้นได้ คุณต้องเริ่มพัฒนาตัวเองด้วยทักษะการทำงานแบบ T Shaped Skills

T-Shaped Skills คือมีความสามารถในหลากหลายทักษะ แต่จะมีอยู่ทักษะเดียวที่เชี่ยวชาญเป็นพิเศษ (เช่นนาย A  รู้เรื่องการตลาดออนไลน์หลายอย่าง แต่จะเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในด้านการทำ SEO) 

ซึ่งตัว T นั้นเกิดจากการเปรียบเทียบส่วนบนของตัว T เป็นหนึ่งทักษะการเรียนรู้ที่กว้างขวาง หลากหลายขณะที่หางตัว T จะดิ่งลง เปรียบเหมือนความรู้ที่เราเชี่ยวชาญเป็นพิเศษเพียงอย่างเดียว 

ตัวอย่างของ T-Shaped Skills ภาพจาก Moz

แต่สำหรับการเป็น Growth Marketing ที่มีประสิทธิภาพนั้นคุณต้องมี X-Shaped Skills

หลังจากที่คุณลองเริ่มพัฒนาทักษะให้เริ่มมีความเป็น T-Shaped Skills (เชี่ยวชาญในศาสตร์ 1 อย่าง) แล้วคุณต้องหมั่นเรียนรู้และพัฒนาตัวเองด้วย T-Shaped Skills ต่อในทักษะอื่นๆ ด้วยเช่นกัน (เช่นเชี่ยวชาญในด้าน SEO แล้ว ก็ค่อยเริ่มฝึกฝนเกี่ยวกับการยิง Ads จนเชี่ยวชาญ)

และเมื่อคุณพัฒนาตัวเองด้วย T-Shape Skills ได้ในหลายทักษะจบครบทั่วทั้งสายงานแล้ว คุณก็จะกลายเป็นคนที่มีทักษะแบบ X-Shaped Skills ทันที

ซึ่ง X-Shaped Skills ก็คือคนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในทุกด้านของสายงาน เช่นอะไรที่เกี่ยวกับ Digital Marketing คนที่เป็น X-Shaped Skills จะมีความสามารถมากกว่าใคร เข้าใจและทำได้ทั้งหมด (All Specialist) ซึ่งนอกจากความรู้ในสายงานแล้ว X-Shaped Skills ยังรวมถึงเรื่องของการบริหารจัดการทีม (Team Management) และภาวะความเป็นผู้นำด้วย (Leadership) ด้วย 

จาก X-Shaped Model สังเกตได้ว่าแกนแรกจะหมายถึงความรู้ในสายงานทั้งหมด ส่วนแกนที่สองจะหมายถึงการจัดการทีม
 ภาพจาก FourweekMBA

เรียกได้ว่าเป็นบุคคลที่หายากมากๆ ในการทำงานแต่ในขณะเดียวกันก็จะเป็นคนที่สามารถเข้ามาสร้างการเติบโตให้องค์กรได้อย่างรวดเร็ว เพราะฉะนั้นหากคุณต้องการเป็น Growth Marketer ที่มีประสิทธิภาพต้องหมั่นฝึกฝนจาก T-Shaped Skills ในหลากหลายทักษะ และเริ่มปรับตัวเองให้เป็น X-Shaped Skills ให้ได้

2. กล้าที่จะทดลองและเรียนรู้จากความผิดพลาด

ด้วยความที่ Growth Marketing เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่ต้องอาศัยการทดลองเป็นหลัก (Experiments Based) หากคุณต้องการเริ่มต้นการเป็น Growth Marketer ที่ดีคุณจำเป็นที่จะต้องรักและกล้าในการทดลองอย่างเป็นระบบอยู่เสมอ

ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มตั้งสมมติฐาน กล้าทดลองกลยุทธ์ เทคนิควิธีคิด รวมไปถึงเครื่องมือใหม่ๆ ที่จะสามารถช่วยให้การทำธุรกิจของคุณเติบโตได้ เพราะทุกความสำเร็จล้วนเกิดจากการทดลองนับครั้งไม่ถ้วน 

และแน่นอนครับว่าทุกการทดลอง มันก็ไม่ได้สำเร็จทุกครั้งเสมอไป คุณอาจจะต้องพบเจอช่วงเวลาที่ไม่ประสบความสำเร็จ ซึ่งคุณสมบัติของผู้ที่จะเป็น Growth Marketer ที่ดีได้นั้นก็ต้องเรียนรู้จากข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ เหล่านั้น เพื่อนำข้อผิดพลาดมาแก้ไขและปรับปรุงต่อไปในอนาคต

3. ออกแบบ Funnel หรือ Loop ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Framework ถือเป็นสิ่งที่สำคัญในการทำการตลาดไม่ว่าจะกลยุทธ์ใดก็ตาม เพราะเปรียบเสมือนสิ่งที่ทำให้ทุกคนในทีมได้เห็นเป้าหมายและขั้นตอนของกลยุทธ์นั้นๆ อย่างชัดเจน

อย่างที่ผมได้บอกไปในหัวข้อที่แล้วนะครับว่า Growth Marketing สิ่งที่เป็น Framework (ไม่ว่าจะเป็น Funnel หรือ Loops) ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ของกลยุทธ์นี้ซึ่งคนที่ออกแบบ Framework พวกนั้นก็ไม่ใช่ใครครับ คือตัวของคนที่เป็น Growth Marketer นั่นเอง

ภาพจาก saleforce

ซึ่งผู้ที่อยากเป็น Growth Marketer ที่มีประสิทธิภาพต้องเริ่มการวาง Framework เหล่านี้ได้ตั้งแต่การวางขั้นตอน (Stage) ต่างๆ ตาม Customer Journey อย่างมีแบบแผน , กำหนด Persona ของเป้าหมาย , รู้ว่าในแต่ละ Stage มีกระบวนการอย่างไร , จะให้ใครเป็นผู้รับผิดชอบ , จะสื่อสารแบบไหน ใช้ช่องทาง (Channel) อะไรให้กลยุทธ์นั้นประสบผลสำเร็จได้มากที่สุด

และสุดท้ายสำคัญที่สุด คุณยังต้องใส่ใจเรื่องการวัดผล (Measurement) และวิเคราะห์ (Analyst) ผลลัพธ์ในทุกๆ Stage ของ Loop หรือ Funnel เพื่อหาข้อผิดพลาดในแต่ละขั้นตอนแล้วนำข้อมูลที่วิเคราะห์มาได้มาพัฒนาธุรกิจต่อไปในอนาคต

สรุปทั้งหมด

จากเนื้อหาทั้งหมดของกลยุทธ์ Growth Marketing ที่เราได้อธิบายมาในบทความนี้ คุณจะสังเกตได้เลยว่าหัวใจสำคัญของกลยุทธ์ Growth Marketing นั่นก็คือกลยุทธ์นี้สามารถปรับตัวให้อยู่รอดได้ในทุกวิกฤต

เพราะกระบวนการทำงานของกลยุทธ์นี้ที่เน้นการทำงานที่ค่อนข้างรวดเร็ว ยืดหยุ่น และผสมความเป็นทีมไว้ในกลยุทธ์เดียวกัน ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้นมา (เช่นวิกฤต Covid-19) ที่ส่งผลต่อภาพรวมของการทำการธุรกิจของโลก Growth Marketing จึงเป็นกลยุทธ์เดียวที่สามารถเอาชนะวิกฤตได้

ดังนั้นถ้าคุณต้องการให้ธุรกิจของคุณเติบโตในช่วงเวลาแบบนี้ ผมว่า Growth Marketing นี่แหละคือกลยุทธ์ที่จะเข้ามาช่วยองค์กรของคุณได้อย่างแท้จริง ขอให้ทุกท่านโชคดีครับ :)

Source : growforce , useproof , reforge , wjames , clevertap


ไม่พลาดทุกข้อมูลที่ช่วยให้ธุรกิจคุณเติบโตได้เร็วยิ่งขึ้น

ติดตามได้หลากหลายช่องทางที่คุณสะดวก ไม่ว่าจะเป็น e-mail, line หรือ youtube
Subscribe