หากเราถามคุณว่า ถ้าจะไปซื้อคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์จำพวกไอทีต่าง ๆ คำตอบในใจพวกคุณมีร้านอะไรกันบ้าง? ให้เวลาคิด 10 วินาที...
คำตอบในใจของพวกคุณมีร้าน Advice อยู่หรือไม่ ถ้ามีแล้ว แสดงว่าคุณอาจเห็นร้านของเขากำลังล้อมรอบตัวคุณอยู่ แต่ถ้าคุณยังไม่มีคำตอบนั้น วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักร้านโทนสีน้ำเงินนี้กันให้มากขึ้นกว่าเดิมกัน
Advice คือ บริษัทจำหน่ายปลีก-ส่ง สินค้าไอทีแบบครบวงจร และสมาร์ทโฟน ผ่านช่องทางอินเตอร์เน็ตและหน้าร้าน ที่เราสามารถเห็นได้ทั่วประเทศไทย ทุกจังหวัด และเกือบทุกอำเภอเลยด้วย และจากเหตุการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19 ตั้งแต่ปี 2020 ที่ทำเอาหลายอุตสาหกรรมยิ้มไม่ออก เพราะได้รับผลกระทบอย่างหนัก แต่กลับกัน Advice เป็นหนึ่งในร้านที่ยิ้มออก เพราะความต้องการคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ไอทีมีเยอะขึ้นจากการต้อง Work From Home หรือเรียนออนไลน์ของคนไทย
เพราะฉะนั้นวันนี้ The Growth Master จึงอยากพาคุณไปรู้จัก Advice กันให้มากขึ้น ไปดูตัวเลขการเติบโตและกลยุทธ์ที่เขาใช้จนทำให้มีสาขาทั่วประเทศกว่า 350 สาขา และยังไปไกลถึงสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวอีกด้วย
เส้นทางของ Advice จาก Software House สู่ร้านขายอุปกรณ์ไอทีแบบครบวงจร
Advice Holdings Group (AVH) เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ ปี 2009 โดย คุณณัฏฐ์ ณัฐนิธิการัชต์ (CEO) ผู้ก่อตั้งที่มีประสบการณ์ในแวดวงไอทีมาไม่ต่ำกว่า 17 ปี โดย CEO กล่าวว่า ตอนแรก Advice เน้นให้บริการด้านซอฟต์แวร์เป็นหลัก หรือที่เรียกว่าเป็น Software House ก่อนที่จะผันตัวมาขายพวกฮาร์ดแวร์หรืออุปกรณ์ไอทีต่าง ๆ เหมือนที่เห็นกันในปัจจุบัน
Advice เกิดขึ้นจากการรวมตัวของร้านค้าไอทีทั่วประเทศ มีรูปแบบการดำเนินการที่เรียกว่า Advice Distributions โดยการนำเอาร้านค้าไอทีที่เป็นลูกค้าขายส่ง มาสร้างเครือข่ายและเชื่อมโยงระบบหลังบ้านเข้าด้วยกัน โดยที่ Advice ไม่ต้องเข้าไปบริหาร แต่ให้เจ้าของกิจการเดิมเป็นคนทำธุรกิจเอง
หรือกล่าวง่าย ๆ ว่า เป็นร้านธุรกิจท้องถิ่นที่เคยขายสินค้าไอทีมาก่อน และเล็งเห็นโอกาสการเติบโตในการขยายธุรกิจสินค้าไอที จึงเปลี่ยนมาเป็นตัวแทนจำหน่ายในนามของ Advice และบริหารธุรกิจต่อด้วยตัวเอง
ซึ่ง Advice ได้มีการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ผ่านระบบจัดการทางอินเทอร์เน็ตที่เชื่อมต่อกันครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อช่วยในการบริหารงานในร้าน นั่นคือ ระบบการสั่งซื้อ Smart Ordering Program หรือ SOP ที่เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าได้สั่งซื้อสินค้าผ่านหน้าเว็บไซต์ของ Advice ทำให้สามารถเช็กจำนวนสินค้าและราคาได้แบบ Real-time เลย
อย่างไรก็ตาม Advice เรียกได้ว่าเป็นบริษัทที่ขายส่งสินค้าผลิตภัณฑ์ไอทีผ่านเว็บไซต์รายแรกของไทยอีกด้วย และมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน นอกจากนั้น ยังเป็นเครือข่ายร้านไอทีที่มียอดขายในส่วนของสินค้าไอทีเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทยอีกด้วย
ในปัจจุบัน Advice เป็นผู้นำด้านค้าส่งตลาดไอทีแบบครบวงจร ที่มียอดขายพุ่งทะลุหมื่นล้านบาทตั้งแต่ปี 2012 ด้วยร้านค้าจำนวน 350 สาขาทั่วประเทศ ครอบคลุมทุกจังหวัดในประเทศไทย และยังโกอินเตอร์ไปเปิดสาขาถึงประเทศลาวอีกด้วย
โดยขายสินค้าไอทีทุกประเภท ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ต่าง ๆ, โน๊ตบุ๊ก, แท็บเล็ต, สมาร์ทโฟน และ Accessories ของทุกแบรนด์ที่กำลังเป็นที่นิยมของตลาดปัจจุบัน นอกจากนั้น ยังมีเครื่องเสียง, เครื่องใช้ไฟฟ้า, อุปกรณ์ CCTV ต่าง ๆ อีกด้วย นั่นทำให้ Advice มียอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอดทุกปี
ตัวเลขการเติบโตของ Advice ที่มีมูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท
Advice เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2009 จนถึงปัจจุบันมีอายุกว่า 12 ปีแล้ว แต่การเติบโตของ Advice นับว่าเป็นตัวเลขที่มีความน่าสนใจเลยทีเดียว เพราะมีรายได้แตะหลักหมื่นล้านตั้งแต่ปี 2012
ปี 2017 มีรายได้รวม 9.8 พันล้านบาท แบ่งเป็นกำไร 146 ล้านบาท และคิดเฉพาะยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ของ Advice เพียงอย่างเดียวมีมูลค่าประมาณ 900 ล้านบาท
ปี 2018 มีรายได้รวม 42.8 ล้านบาท และมียอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ขยายตัวเพิ่มมากขึ้นจากปี 2017 เป็น 1,300 ล้านบาทในปีนั้นด้วย (เพียงปีเดียวเพิ่มขึ้น 400 ล้านบาท ถือว่าไม่ธรรมดาจริง ๆ)
ส่วนปี 2019 มีรายได้รวมทั้งสิ้น 29.4 ล้านบาท ยอดขายทางช่องทางออนไลน์ 1,000 ล้านบาท ซึ่งในปีนี้ Advice มีการขยายช่องทางการขายผ่าน E-marketplace อย่าง Shopee อีกด้วย
ถ้ากล่าวถึงในเรื่องของจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ โดยเราเน้นแค่ 10 อันดับร้าน E-Commerce ขายสินค้าไอทีสัญชาติไทย จากข้อมูลของ iPrice ระบุว่า เมื่อนำจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์โดยเฉลี่ยของไตรมาสที่ 4 ปี 2019 มาเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 1 ปี 2020 จะเห็นว่า “มีร้านค้าจำนวนกว่าครึ่ง ที่มีผู้เข้าชมสินค้าเพิ่มขึ้นกว่าเดิม โดย Advice เป็นหนึ่งในนั้นและเพิ่มสูงสุดถึง 3.6% แต่เจ้าอื่นเพิ่มโดยเฉลี่ย 1% เท่านั้น”
นอกจากนั้น ถ้าเทียบในตลาด E-Commerce ในประเทศไทย ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2020 Advice จะเป็นร้านค้าที่อยู่ลำดับที่ 5 แต่ถ้าเทียบเฉพาะตลาดอุตสาหกรรมด้านสินค้าไอที Advice จะถือว่าอยู่อันดับที่ 1 ทันที ด้วยยอดผู้เข้าชม 1.99 ล้านคนต่อเดือน
กลยุทธ์อะไรที่ทำให้ Advice เป็นหนึ่งในร้านขายสินค้าไอทีชั้นนำในประเทศไทย?
วันนี้ The Growth Master จะพาทุกคนไปดูกลยุทธ์ที่ทำให้ Advice ใช้มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ที่ทำให้มียอดการเติบโตมูลค่ามหาศาล รวมไปถึงการขยายสาขากว่า 350 สาขาทั่วประเทศ และไปไกลถึงสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวอีกด้วย จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันได้เลย
1. ตั้งร้าน Stand Alone ทั่วประเทศ
ถึงแม้ว่าเราอาจจะไม่ค่อยได้เห็นร้าน Advice ในกรุงเทพฯ กันสักเท่าไร เนื่องจากตัวเลือกเชนร้านค้าไอทีต่าง ๆ สำหรับคนกรุงเทพฯ มีค่อนข้างหลากหลายแล้ว และปัจจุบันในเมืองหลวงของเราก็มีร้าน Advice เปิดเพียงแค่ 6 สาขาเท่านั้น และ 5 สาขาตั้งอยู่ในศูนย์การค้าเป็นหลัก (ข้อมูลจาก Advice)
นั่นเป็นเพราะว่า Advice เน้นกระจายร้านค้าสู่ต่างจังหวัด เพื่อให้ผู้คนเข้าถึงร้านค้าไอทีได้ง่าย เป็นกันเอง และไม่ต้องออกเดินทางไปที่ไหนไกล เพราะ Advice พยายามที่จะเปิดร้านให้ครอบคลุมทุกจังหวัดและอำเภอ ซึ่งเราจะสังเกตเห็นได้ว่ามีร้าน Advice กว่า 90% ที่ตั้งเป็นร้าน Stand Alone เป็นส่วนใหญ่ ทำให้ปัจจุบันมีสาขากว่า 350 สาขาทั่วประเทศ
ข้อดีของการตั้งร้านค้าแบบ Stand Alone กระจายสู่ต่างจังหวัดนั่นเป็นเพราะว่า ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น ถ้าเกิดว่าลูกค้าอยู่ต่างจังหวัดและต่างอำเภอ (ที่ไม่ใช่ในตัวเมือง) แล้วคอมพิวเตอร์เกิดมีปัญหาขึ้นมา ทำให้พวกเขาสามารถเข้าไปที่ร้าน Advice ในอำเภอนั้น ๆ ได้เลย ไม่ต้องเดินทางไปที่ไหนไกลหรือเสียเวลาเดินทางเข้าไปยังตัวเมือง
และในปี 2020 ที่ผ่านมา ที่มีเหตุการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19 ร้านค้าไอทีใดที่ตั้งอยู่ในศูนย์การค้าชั้นนำได้รับผลกระทบไปเต็ม ๆ เลย เนื่องจากมาตรการ Lockdown ที่ทำให้ศูนย์การค้าทุกแห่งจำเป็นต้องปิดตัวลงชั่วคราว แต่ร้าน Advice ที่เป็นแบบ Stand Alone กลับไม่ได้รับผลกระทบมากนัก สามารถเปิดร้านได้ตามปกติ
นอกจากนั้น เหตุการณ์ของ Covid-19 ก็ส่งผลให้มีคนหันมาใช้คอมพิวเตอร์กันมากขึ้น เพราะวัยทำงานต้อง Work From Home ส่วนนักเรียนนักศึกษาก็ต้องเรียนออนไลน์ ทำให้ Demand ของการซื้อสินค้าไอทีมีมากขึ้น และ Advice ก็ได้รับผลเชิงบวกไปเต็ม ๆ จากการที่กระจายร้านค้าในต่างจังหวัด ทำให้คนเข้าถึงร้านนี้ได้มากขึ้นอีกด้วย ซึ่งนี่ก็เป็นข้อดีของการตั้งร้านค้าแบบ Stand Alone ของ Advice นั่นเอง
2. ขายสินค้า Multibrand เลือกได้จบในร้านเดียว
Advice ขายสินค้าแบบ Multibrand มีแบรนด์ให้เลือกหลากหลาย ทำให้ลูกค้าที่เข้ามาเลือกซื้อของกับ Advice สามารถเปรียบเทียบสเปคและราคากันที่ร้านได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาไปดูหลาย ๆ ร้าน
จากที่ Advice เน้นกระจายร้านค้าสู่ต่างจังหวัดและขายสินค้าแบบ Multibrand เพราะเป็นร้านที่เหมาะสำหรับคนที่ชอบทำการ D.I.Y คอมพิวเตอร์เอง คือ คนที่ชอบเลือกอุปกรณ์ชิ้นส่วนฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์มาประกอบเอง เนื่องจาก Advice บอกว่าพฤติกรรมของคนต่างจังหวัดมักชอบใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ประกอบมากกว่า ทำให้ Advice สามารถขายสินค้าประเภทในต่างจังหวัดได้ดีกว่า
ซึ่งแตกต่างจากคนกรุงเทพฯ ที่สมัยนี้นิยมหันมาใช้โน๊ตบุ๊คกันเป็นส่วนใหญ่ หรือไม่ก็แบบ All-in-One (AIO) คือ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่รวมตัวเครื่องกับหน้าจอเข้าด้วยกันเลย (ถ้านึกไม่ออกให้นึกถึง iMac นะคะ) หรือไม่ก็ใช้โน๊ตบุ๊คที่เป็นแบรนด์เนมไปเลย ทำให้เวลาพวกเขามีปัญหากับสินค้าเหล่านั้นก็ยกเครื่องเข้าศูนย์ Interbrand ไม่ค่อยมาเข้าศูนย์ร้านค้าไอทีทั่วไป
จากการเลือกเปิดร้านค้าและขายสินค้าของเจ้านี้ เรียกได้ว่า Advice มีการทำการบ้านไว้ดีมาก เพราะเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย (Target) เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
3. บริหารหน้าร้านโดยบุคคลท้องถิ่น
Advice เป็นร้านค้าที่ให้ผู้ประกอบการที่เป็นคนท้องถิ่นบริหารจัดการร้านค้าด้วยตัวเอง (กลยุทธ์แบบนี้แบรนด์ใหญ่ ๆ อย่าง Shopee หรือ Gojek ก็ใช้เหมือนกัน)
การบริหารแบบนี้เกิดมาจาก CEO ของเขาที่จบด้านบัญชีมา ซึ่งเขาเชื่อว่าการบริหารงานที่ดี เพื่อที่จะทำให้ธุรกิจเติบโตได้ ต้องมีระบบบัญชีที่ดี จึงนำความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมาบวกกับการพัฒนาซอฟต์แวร์ระบบบัญชี และ ERP ที่มีประสิทธิภาพ (คือ ซอฟต์แวร์ที่เชื่อมต่อกระบวนการทางธุรกิจประจำวันต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เช่น การจัดการสินค้าคงคลังและการสั่งซื้อ, การทำบัญชี, ทรัพยากรมนุษย์, การจัดซื้อ และการจัดการลูกค้าสัมพันธ์) เพื่อใช้งานเองภายใน
ก่อนที่จะเอาร้านค้า (ที่เป็นลูกค้า Advice อีกที) มาสร้างเครือข่าย Advice Family เชื่อมโยงระบบหลังบ้านเข้าด้วยกัน โดยที่ Advice ไม่ต้องเข้าไปบริหารเอง แต่ให้เจ้าของกิจการเดิมเป็นคนทำธุรกิจเอง
เพราะนั่นจะทำให้ Advice มีความเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าพื้นที่นั้น ๆ เป็นอย่างดี รวมไปถึงสามารถวางแผนทำการตลาดได้ถูกต้อง และนำ Feedback จากลูกค้าเหล่านั้นมาจัดหาสินค้าและบริการที่จะนำเข้ามาจำหน่ายในร้านค้า เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าในพื้นที่นั้น ๆ ได้อย่างตรงจุด ซึ่งหลักการข้อนี้ถือว่าเป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจของ Advice ต่อไปในอนาคต
4. การบริการหลังการขาย
Advice มีการลงทุนลงแรงในด้านของการบริการหลังการขาย (Service Network) ด้วย ถ้าดูจากชื่อ Advice ก็คงไม่ใช่แค่การขายของอย่างเดียวแต่ต้องมีการแนะนำจากร้านค้าที่ดีด้วย ซึ่งก็จริงแบบนั้น เพราะลูกค้าสามารถเข้ามาปรึกษาด้านปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับสินค้าไอที หรือต้องการติดต่อสอบถามอะไรก็เข้ามาพูดคุยกับพนักงานหรือเจ้าของกิจการ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้และจิตวิญญาณด้านการบริการลูกค้าที่ Advice ทุกสาขาทั่วประเทศได้โดยตรง
อีกหนึ่งบริการที่ดีของ Advice คือ การประกันเครื่องเพิ่มเติม หมายความว่า ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์หรือสินค้าไอทีของแบรนด์ไหน หรือไม่ได้ซื้อมาจากร้าน Advice ก็ตาม แต่ถ้า Advice สามารถซ่อมหรือหาอะไหล่มาใส่ให้ได้ Advice ก็รับทำเช่นกัน
เพราะ Advice ยึดมั่นในการดูแลลูกค้าอย่างเต็มที่ และเชื่อว่าบริการหลังการขายเป็นสิ่งที่สร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ได้ดี และทำให้ลูกค้ามีความไว้วางใจตัวแทนจำหน่ายมากขึ้นด้วย ถ้าเกิดว่าสินค้ามีปัญหาขึ้นมา ร้านค้าหนีหายไป หรือไม่สามารถส่งเคลมสินค้านั้น ๆ ได้ ก็จะทำให้ภาพลักษณ์ของตัวแทนจำหน่ายดูไม่ดี และยิ่งเป็นร้านค้าท้องถิ่นด้วย ถ้ามีการบริการที่ไม่ประทับใจลูกค้ากลุ่มนั้น จะทำให้เกิดการบอกต่อ (Word-of-Mouth) กันอย่างรวดเร็วและเป็นวงกว้าง (และคนท้องถิ่นมักจะเชื่อคำพูดของบุคคลใกล้ตัวเองด้วย)
อีกทั้งปัจจุบัน โซเชียลมีเดียก็มีอิทธิพลมากขึ้น ทำให้ทุกคนสามารถรีวิว คอมเมนต์บอกความรู้สึก หรือแสดงความคิดเห็นกับทางร้านค้าได้ ถ้าเกิดมีรีวิวไม่ดีขึ้นมา คนกดแชร์เยอะ ก็ทำให้ภาพลักษณ์เสียหายได้ง่าย ซึ่งก็ต้องใช้เวลากว่าที่จะกลับมาสร้างความน่าเชื่อถือได้ใหม่อีกครั้ง
5. บุกตลาดเกมเมอร์
แอดไวซ์ เดินหน้ารุกตลาดไอทีปี 61 ปักหมุดตลาดเกมเมอร์ เน้นอีสปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง พร้อมผนึกพันธมิตรยักษ์ใหญ่ เตรียมจัดอีเว้นท์ต่อเนื่อง ตลอดทั้งปี ตั้งเป้าขยายฐานกลุ่มเป้าหมายคอเกมเมอร์ รองรับตลาดเกมเติบโตทั้งในประเทศ และระดับโลกอย่างเต็มตัว
Advice ได้มีการมุ่งเน้นการทำตลาดไปในด้านของ E-Sport มากขึ้น จากกระแสและเทรนด์ E-Sport ในกลุ่มเกมเมอร์มีอัตราสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยประเทศไทยก็มาแรงเป็นอันดับต้น ๆ ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย
Advice จึงได้จับมือกับค่ายเกมรวมถึงแบรนด์ยักษ์ไอทีต่าง ๆ เพื่อบุกตลาดเกมมิ่ง ผ่านกลยุทธ์ E-Sport Marketing อย่างเต็มรูปแบบ โดยเป็นผู้สนับสนุนหลักในการแข่งขัน “King of Gamers” ซึ่งเป็น E-Sport Reality ในรูปแบบรายการโทรทัศน์เป็นครั้งแรกของโลกที่ร่วมมือกับ บริษัท กันตนา โมชั่นพิคเจอร์ จำกัด เพื่อหวังให้คนไทยมีความเข้าใจในกีฬา E-Sport มากขึ้น
และยังมีการเปิดการขายสินค้า Gamer Zone บนเว็บไซต์อีกด้วย เพื่อให้เหล่าเกมเมอร์สามารถสั่งซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น คีย์บอร์ด, เมาส์, จอยสติ๊ก, ไมโครโฟน, หูฟัง รวมไปถึงพวกโต๊ะและเก้าอี้สำหรับเกมเมอร์ เพื่อเพิ่มอรรถรสที่ดีขึ้นในการเล่นเกมได้อีกด้วย
6. เน้นขายช่องทางออนไลน์
นอกจากจะมีหน้าร้านท้องถิ่นครบทั่วทุกประเทศในประเทศไทยแล้ว Advice ก็อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถสั่งสินค้าออนไลน์ รอรับที่หน้าบ้านได้เลย ซึ่ง Advice เป็นเจ้าแรกในไทยที่ขายอุปกรณ์ไอทีออนไลน์อีกด้วย
เพื่อขายสินค้าอุปกรณ์ไอทีทั้งปลีกและส่งกว่า 4,000 รายการ และเน้นการกระจายสินค้าไปให้เข้าถึงความต้องการของผู้บริโภคให้มากที่สุด ซึ่งลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าผ่านหน้าเว็บไซต์ของ Advice ทำให้สามารถเช็กจำนวนสินค้าและราคาได้แบบ Real-time อีกด้วย
และ Advice ก็ไม่หยุดสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า เพราะมีบริการจัดส่งที่หลากหลาย หนึ่งในนั้นเรียกว่า WARP2 เป็นบริการส่งสินค้าด่วนภายใน 2 ชั่วโมง ไม่มีขั้นต่ำ แต่มีค่าบริการ 400 บาท ซึ่งตอนนี้ยังครอบคลุมพื้นที่แค่ 6 จังหวัดอยู่ (กรุงเทพฯ, นนทบุรี, ปทุมธานี, สมุทรปราการ, สมุทรสาคร, นครปฐม) แต่ไม่แน่ในอนาคตเราอาจจะได้เห็นบริการนี้ครอบคลุมจังหวัดอื่น ๆ มากขึ้น
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ลิงก์นี้
สรุปทั้งหมด
Advice ก็นับเป็นร้านสินค้าไอทีแบบครบวงจรที่คนไทยหลายคนคุ้นหูคุ้นตากันเป็นอย่างดี ยิ่งถ้าใครใช้คอมพิวเตอร์แบบประกอบด้วยแล้ว ก็ยิ่งต้องเคยเข้าร้านนี้อย่างแน่นอน เพราะด้วยกลยุทธ์ที่ Advice สร้างมาเป็นอย่างดีที่เน้นอำนวยความสะดวกลูกค้าต่างจังหวัด มีร้านค้าครอบคลุมเกือบทุกอำเภอ และยังมีช่องทางซื้อขายออนไลน์อีกด้วย
และปัจจุบันเทคโนโลยีก็มีการพัฒนาขึ้นเป็นอย่างมาก ทำให้ความต้องการสินค้าไอทีของผู้บริโภคสูงขึ้นตามไปด้วย นี่ก็นับเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ของไทยที่มีความน่าสนใจในตัวเลขการเติบโต และเราคงต้องรอดูต่อไปเรื่อย ๆ ว่า Advice จะบุกตลาดคนไทย รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านอย่างไรอีกในอนาคตนี้