อีลอน มัสก์ ล้มดีลซื้อ Twitter อ้างยังไม่ได้รับข้อมูลความโปร่งใสของบัญชีตามต้องการ

เจ้าของบริษัท Tesla และ SpaceX อย่าง Elon Musk ได้ออกมาประกาศล้มดีลมูลค่า 1.5 ล้านล้านบาทเพื่อที่จะซื้อแพลตฟอร์ม Social Media ยักษ์ใหญ่ของโลก Twitter ผ่านจดหมายที่เขาได้ส่งไปยังบอร์ดผู้บริหารรายใหญ่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ซึ่งสัญญาณของการล้มดีลนี้ก็เริ่มต้นมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยเหตุผลและรายละเอียดของการล้มดีลนี้มาจากอะไร วันนี้ The Growth Master จะมาอธิบายให้กับคุณ

Elon Musk ล้มดีลซื้อ Twitter ในราคา 1.5 ล้านล้านบาท

Elon Musk ได้ตกลงที่จะซื้อแพลตฟอร์ม Social Media ยักษ์ใหญ่อย่าง Twitter ในราคาหุ้นละ 1950 บาท ซึ่งเมื่อรวมราคาหุ้นทั้งหมดก็จะอยู่ที่ราคา 1.5 ล้านล้านบาท โดยเบื้องต้นแล้วบอร์ดบริหารของ Twitter ยินดีกับการตัดสินใจนี้และโหวตให้ผ่านกันอย่างท่วมท้น

แต่ทว่า ทาง Elon Musk ก็ได้ส่งจดหมายไปยัง Twitter และได้ถกเถียงว่า Twitter ยังไม่ได้ส่งข้อมูลสำคัญมาให้ ซึ่งข้อมูลเหล่านั้นคือ บัญชีปลอมและบัญชีสแปม รวมถึงยังพบว่าทางแพลตฟอร์มโซเชียลยักษ์ใหญ่ยังไม่มีมาตรการที่จะตรวจสอบและปิดบัญชีเหล่านี้อีกด้วย ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมาต่อเนื่องเป็นเวลาถึง 2 ปีแล้ว

ด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้ Elon Musk อ้างได้ว่า Twitter ได้กระทำการละเมิดสัญญา โดยได้แจ้งว่าได้เริ่มละเมิดมาตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน ทำให้ดีลใด ๆ ก็ตามที่ได้กระทำไว้ถูกยุติลงโดยสิ้นเชิง

จากการล้มดีลของ Elon Musk ก็ทำให้บอร์ดบริหาร Twitter ไม่พอใจเป็นอย่างมาก โดยประธานบริษัท Bret Taylor ก็ได้ออกมากล่าวว่าพวกเขาเตรียมปิดดีลการซื้อนี้ตามราคาที่ได้ตกลงเอาไว้ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็จำเป็นต้องดำเนินคดีกับ Elon Musk ต่อไป ซึ่งเขาก็มั่นใจว่าเขาจะได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน

สรุปทั้งหมด

การก้าวเข้ามาซื้อแพลตฟอร์ม Twitter ของ Elon Musk มีความตั้งใจในการปรับปรุงพัฒนาแพลตฟอร์มให้ปลอดจากสแปมและบอทหลอกลวง (Scam Bot) รวมถึงต้องการเสนอฟีเจอร์ใหม่ ๆ เช่นการแก้ไขทวีตและดูประวัติการแก้ไขได้

แต่เมื่อ Elon Musk ไม่ได้รับข้อมูลบัญชีสแปมตามที่ต้องการ ก็ทำให้เขาต้องยุติดีลการซื้อลงไป ซึ่งเหตุการณ์ต่อไปจะเป็นอย่างไรก็ต้องติดตามกันต่ออย่างใกล้ชิด

แหล่งที่มา : cointelegraph