ต้องยอมรับว่าบริษัทเทคโนโลยี ต่างหันมาเตรียมตัววางกลยุทธ์ให้เข้าสู่ Metaverse กันอย่างคึกคัก วันนี้ Epic Games เองก็ออกมาเผยแล้วว่า กำลังจับมือกับ The Lego Group ร่วมสร้างผลงานชิ้นใหญ่ พัฒนาโลก Metaverse ให้เด็กรุ่นใหม่ ‘ได้ใช้เวลาร่วมกับครอบครัว’ โดยเฉพาะ
แน่นอนว่า Epic Games เอง ก็เก๋าเกมในวงการผู้พัฒนา สร้างชื่อเสียงและทำรายได้สูงสุดมาแล้วสำหรับ Fortnite เกมฟอร์มยักษ์ (ที่ล่าสุดรายได้ขยับไปถึง 8.1 พันล้านดอลลาร์) ความน่าสนใจคือการร่วมกับ The Lego Group ผู้สร้าง Minecraft เกมขวัญใจเยาวชน ที่ได้รับความนิยมมาก ๆ เข้าเป็นกำลังเสริมด้วย
งานนี้พวกเขากำลังจะเป็นตัวอย่างสำคัญในวงการผู้พัฒนา Metaverse ผสานรูปแบบความบันเทิง ที่จะ ‘กำหนดอนาคต’ ของโลกเสมือนจริงไปในทิศทางไหน The Growth Master สรุปมาให้คุณแล้วในบทความนี้
Empower Children มอบประสบการณ์ดิจิทัลให้อนาคต
ครั้งนี้ Epic Games และ The Lego Group ตั้งใจสร้างประสบการณ์โลก Metaverse แบบใหม่ ที่ ‘ปลอดภัย สนุก’ สำหรับเด็ก คนในครอบครัว ที่พร้อมจะรับข้อมูลสื่อเทคโนโลยีอยู่ตลอดเวลา ซึ่งทั้งสองค่ายตกลงกันไว้ด้วยข้อกำหนด 3 ประการ (ที่จะเคร่งคัดเพื่อระวังความปลอดภัย) ในช่วงเปิดตัว
โดยยึดหลัก ปกป้องสิทธิในการเล่น, ปกป้องความเป็นส่วนตัว และคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของเยาวชนเป็นอันดับแรก ซึ่งคาดการณ์ด้วยแนวเกมจากฝั่ง Epic Games โหมด ‘แบทเทิลรอยัล’ ที่ฝึกความอดทน วางแผน และสร้างความร่วมมือกันภายในทีมผู้เล่น (ครอบครัว) รวมถึงโหมดรับชมคอนเสิร์ต, ชมภาพยนตร์พร้อมกัน
ขณะที่ The Lego Group ได้รับความนิยมด้วยเกมเพลย์แนว ‘ต่อเติมจินตนาการ’ สร้างแซนด์บ็อกซ์ (ตัวต่อเลโก้) ประดิษฐ์สิ่งของ ก่อสร้าง ปลุกความคิดสร้างสรรค์ ของผู้เล่นมาแล้วนับไม่ถ้วน
นอกจากนี้ในสัปดาห์เดียวกัน ฝั่ง Epic Games ก็ยังปล่อยแผนการอัปเกรด เทคโนโลยี Unreal Engine 5 (รุ่นล่าสุด) ที่ได้รับความนิยมมาก ๆ ในหมู่ผู้พัฒนา และอาจเป็นไปได้ว่า นอกจากความสมจริงของ Metaverse แล้ว ยังมีโอกาสได้เต็มอิ่มกับบรรยากาศ กราฟิกในเกมที่มีประสิทธิภาพ ล้ำไปกว่าเดิมอีกขั้นแน่นอน
(หากสนใจศึกษากลยุทธ์จาก Epic Games ว่าทำไมพวกเขาถึงกลายเป็นค่ายเกม ทำกำไรสูงสุดในโลก สามารถอ่านต่อได้เลยที่ บทความนี้)
สรุปทั้งหมด
เรียกว่าเป็นอนาคตที่กำลังส่งเสริมให้ทั้ง เด็กและผู้ใหญ่ได้ ‘ใช้เวลาร่วมกัน’ ผ่านโลกเสมือนจริง ที่ทุกคนจะมีสิทธิ ‘ควบคุม’ ประสบการณ์ทางดิจิทัลได้อย่างเท่าเทียม (บนการรับรองความปลอดภัย) ด้วยชื่อเสียงจากค่ายเกมฟอร์มยักษ์ทั้งสองเลยทีเดียว
ดังนั้นเราคงต้องมาจับตากันต่อไปว่า บริษัทผู้พัฒนาต่าง ๆ จะสามารถตีความ Metaverse ในแบบฉบับของตนเอง ออกมาได้อย่างไรสำหรับอนาคต ซึ่งเราจะมาอัปเดตให้อ่านกันอีก ติดตามไว้ได้เลย :-)