Service
Business Tech Stack ConsultantClickUp ConsultantSAP APITech ReviewEndlessloop ConsultantMarketing Service
Service
All Articles
Growth Trends
Growth Video
We Need Tool Talk
Startup Partners
Community
Advertise
ClickUp Course
Subscribe
🔥 Hot!
สอบถามทุกปัญหาเกี่ยวกับการสร้างธุรกิจด้านดิจิทัลที่นี่
Service
Business Tech Stack ConsultantClickUp ConsultantSAP APITech ReviewEndlessloop Consultant
Service
All Articles
Growth Trends
Growth Video
We Need Tool Talk
Startup Partners
Community
Advertise

Growth Update

หรือจะมีข่าวใหญ่! Microsoft เตรียมปิดดีลซื้อกิจการ Nuance บริษัทพัฒนาระบบซอฟต์แวร์สั่งการด้วยเสียง

Microsoft กำลังจะซื้อกิจการของ Nuance บริษัทด้านระบบซอฟต์แวร์สั่งการด้วยเสียงที่อยู่เบื้องหลังฟังก์ชันที่เกี่ยวข้องกับการสั่งการด้วยเสียงของหลายธุรกิจด้วยจำนวนเงินกว่า 16,000 ล้านดอลลาร์
By
Pea Tanachote
April 12, 2021
Light
Dark
ส่งต่อเรื่องราวดีๆ
Pea Tanachote
Pea Tanachote

อดีตนักร้อง ที่ผันตัวมาเขียนคอนเทนต์ ชอบดูฟุตบอลและ Blackpink เป็นชีวิตจิตใจ นักเขียนคอนเทนต์ที่ใคร ๆ ก็ต้องการตัว (โดยเฉพาะตำรวจ)

นักเขียน

กลายเป็นข่าวใหญ่ของวงการเทคโนโลยีประจำสัปดาห์นี้เลยก็ว่าได้หลังจากที่เมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้ (12 เมษายน) มีกระแสข่าวหลุดออกมาว่า Microsoft บริษัทผู้นำด้านเทคโนโลยีของโลกกำลังจะเตรียมปิดดีลซื้อกิจการของ Nuance บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านระบบซอฟต์แวร์สั่งการด้วยเสียงที่อยู่เบื้องหลังฟังก์ชันที่เกี่ยวข้องกับการสั่งการด้วยเสียงของหลายธุรกิจดัง

ซึ่งถึงแม้จะยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการจาก Microsoft ออกมาแต่สื่อต่างประเทศหลายสำนักก็กำลังประโคมข่าวเรื่องนี้กันอยู่ และเชื่อว่ามีโอกาสที่ Microsoft จะปิดดีลซื้อกิจการของ Nuance ได้อย่างแน่นอนในช่วงไม่เกินเดือนนี้

โดยตัวเลขของการซื้อการครั้งนี้คาดการณ์ว่า Microsoft จะต้องควักกระเป๋าจ่ายเงินให้แก่ Nuance เป็นจำนวนกว่า 16,000 ล้านดอลลาร์ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขการซื้อกิจการที่สูงเป็นอันดับต้น ๆ ในประวัติศาสตร์วงการธุรกิจเทคโนโลยี 

แล้วสงสัยไหมว่าทำไม Microsoft ถึงต้องการซื้อกิจการธุรกิจอย่าง Nuance ที่เป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีด้านเสียงขนาดนี้ Microsoft มีแผนการที่จะพัฒนาอะไรอยู่ บทความนี้มีคำตอบให้คุณ ไปติดตามกัน

Nuance คือใคร? รู้จักธุรกิจยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีด้านเสียง ผู้อยู่เบื้องหลังฟีเจอร์เด่นของหลายธุรกิจ

เชื่อว่าหลายคนอาจจะยังไม่รู้จักหรือแม้แต่เคยได้ยินชื่อของ Nuance ว่าธุรกิจนี้ทำอะไร มีโปรไฟล์เด่นดังอะไรบ้างถึงทำให้ Microsoft มุ่งเป้าหมายการซื้อกิจการมาที่พวกเขาได้ขนาดนี้ โดย Nuance (หรือชื่อเต็ม Nuance Communication) คือบริษัทที่ให้บริการด้านการพัฒนาระบบซอฟต์แวร์เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ “เสียง” เช่นระบบสั่งการด้วยเสียง (Voice Command) ระบบ AI จดจำเสียง (Speech Recognition) ที่ก่อตั้งขึ้นมาในปี 1992 

ภาพจาก relecura

ซึ่งบริษัท Nuance ก็ถือว่าเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของฟีเจอร์เด่นของหลายธุรกิจ เช่น Siri ระบบสั่งการด้วยเสียงสุดอัจฉริยะของ Apple ที่ถือเป็นเทคโนโลยีแห่งยุคก็ได้ Nuance นี่แหละที่คอยวางรากฐานและพัฒนาระบบ Siri ให้สามารถเข้าใจคำสั่งและจดจำเสียงของเจ้าของอุปกรณ์ตั้งแต่ช่วงที่ Siri ยังไม่ได้ปล่อยให้ใช้บริการ หรือพูดง่าย ๆ ว่าถ้าไม่มี Nuance ในวันนั้นก็คงไม่มี Siri ให้เราได้ใช้กันในทุกวันนี้แน่นอน

นอกจากนั้น Nuance ก็ยังอยู่เบื้องหลังเทคโนโลยีด้านเสียงอีกหลายธุรกิจเช่น Swype ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยี Keyboard สำหรับสมาร์ทโฟนซึ่งก็เป็น Nuance อีกนี่แหละที่พัฒนาระบบ Voice Keyboard (ใช้เสียงพิมพ์ข้อความ) ให้กับสมาร์ทโฟนทั้งหลาย, เจ้าแรกของการใช้ระบบเสียงปลดล็อคสมาร์ทโฟน (DragonID) รวมถึงงานวางระบบเทคโนโลยีให้กับธุรกิจสายงานอื่น ๆ เช่นธนาคาร Barclays ที่ใช้ระบบจดจำเสียงของลูกค้าเพื่อการยืนยันตัวตนเวลาทำธุรกรรมผ่าน Call Center (เทคโนโลยี Voiceprint) 

ภาพการประกาศใช้เทคโนโลยี Voiceprint ขอ Nuance และ Barclays l ภาพจาก opus

แต่อาจเป็นเพราะการมีทรัพยากรที่บริษัทอื่นไม่มีและเป็นบริษัทที่มีบทบาทกับวงการเทคโนโลยีโลกมาโดยตลอด เลยเป็นเหตุผลให้ตลอดช่วง 10 กว่าปีที่ Nuance เคยเกือบโดนซื้อกิจการมาแล้วหลายครั้งอยู่เหมือนกันไล่ตั้งแต่ Apple, Samsung ไปจนถึงบริษัทลงทุนรายอื่น ๆ แต่สุดท้ายก็ยังไม่ได้มีใครคิดจะซื้อกิจการของ Nuance ได้สักทีจนกระทั่งถึงคิวของ Microsoft ในปีนี้

สร้างประวัติศาสตร์! เมื่อ Microsoft ยอมทุ่มเงินจำนวนมหาศาลเพื่อซื้อกิจการของ Nuance ให้ได้

หลังจากที่เกือบจะถูกซื้อกิจการไปหลายหน ในที่สุด Nuance ก็กำลังจะถูกซื้อกิจการอีกครั้งและคราวนี้ดูท่าทีมีความเป็นไปได้สูงด้วย โดยผู้เข้ามาซื้อกิจการนั่นก็คือ Microsoft ที่ตอนนี้มีข่าวมาว่ากำลังอยู่ในขั้นตอนของการเจรจากับทาง Nuance แล้วด้วย

โดยแหล่งข่าวจาก Bloomberg รายงานว่า Microsoft มีโอกาสสูงที่จะปิดดีลซื้อกิจการของ Nuance ได้ภายในเดือนนี้หรือเร็วสุดคือภายในสัปดาห์นี้ ถึงแม้ว่าทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่ได้ออกมาแถลงข่าวให้ข้อมูลอะไรเลย แต่สื่อต่างประเทศต่างเชื่อว่าตอนนี้ทั้ง 2 ธุรกิจกำลังหาข้อตกลงที่ดีที่สุดร่วมกัน

สำหรับจำนวนเงินของการซื้อกิจการครั้งนี้นั้นคาดการณ์ว่า Microsoft จะต้องจ่ายเงินให้กับ Nuance เป็นจำนวนกว่า 16,000 ล้านดอลลาร์ (เงินไทยราว 5 แสนล้านบาท) ซึ่งถ้า Microsoft สามารถปิดดีลนี้ได้จริง ๆ จะถือเป็นประวัติศาสตร์ใหม่ของ Microsoft ด้วยเพราะจะทำให้มูลค่าการซื้อกิจการของดีลนี้แซง Skype ขึ้นไปอยู่ในอันดับ 2 ของการซื้อกิจการครั้งใหญ่ที่สุดที่ Microsoft ทำได้ ซึ่งอันดับ 1 นั้นเป็นการซื้อกิจการของ LinkedIn ที่ Microsoft ปิดดีลไปด้วยจำนวนเงิน 26,200 ล้านดอลลาร์ (เงินไทยราว 8 แสนล้านบาท) ในปี 2017 

ภาพจาก cbinsight

ปีนี้เอาจริง! แล้วทำไม Microsoft ถึงสนใจซื้อกิจการของ Nuance ?

ส่วนสาเหตุที่ Microsoft ยอมทุ่มเงินจำนวนมหาศาลเพื่อซื้อกิจการของ Nuance ในครั้งนี้คาดการณ์ว่าคงหนีไม่พ้นประเด็นหลักนั่นก็คือการเอาทรัพยากรด้านเทคโนโลยีของ Nuance มารวมอยู่ในผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ในอนาคตของ Microsoft เพราะอย่างที่รู้กันดีว่า Nuance Communication นั้นถือเป็นบริษัทเนื้อหอมที่มีเทคโนโลยีด้านระบบการสั่งการด้วยเสียงอยู่ในมือ มีความเชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยี AI ด้านเสียงอีกทั้งยังมีความพร้อมด้านประสบการณ์ที่เคยร่วมงานกับแบรนด์ใหญ่มาแล้วมากมาย

ปัจจัยเหล่านี้ Microsoft มองว่าเป็นทรัพยากรที่องค์กรของตนยังขาดความเชี่ยวชาญอยู่ทำให้ Microsoft ตัดสินใจเลือก Nuance เป็นเป้าหมายในการซื้อกิจการครั้งนี้ ก่อนที่จะถูกมือดีอีกหลายเจ้าซื้อไปในอนาคต

ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายที่ในปี 2021 นี้พวกเขาอยากจะเจาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นธุรกิจขนาดใหญ่และรัฐบาลมากขึ้น การได้เทคโนโลยีรวมถึงปัญญาประดิษฐ์ด้านเสียงของ Nuance เข้ามาช่วยพวกเขาจะทำให้ Microsoft สามารถเพิ่มฟีเจอร์อัจฉริยะต่าง ๆ ลงไปในตัวผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่แล้วเช่น ฟีเจอร์ถอดรหัสข้อความเสียงเป็นตัวอักษรใน Microsoft Teams หรือการพัฒนาฟีเจอร์ Voice Search ที่มีความแม่นยำสูงใน Bing (Search Engine ของ Microsoft) 

รวมถึงโอกาสในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ของ Microsoft เองซึ่งมีการคาดการณ์ว่า Microsoft กำลังพัฒนาระบบเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับด้านการแพทย์ หลังจากที่สถานการณ์ของโควิด-19 ทำให้พวกเขามองเห็นโอกาสในการนำเทคโนโลยีด้านเสียงมาใช้กับอุตสาหกรรมนี้ เช่นการพบแพทย์แบบออนไลน์ที่จะทำให้การพูดคุยระหว่างคนไข้กับแพทย์ถูกถอดวิเคราะห์ได้อย่างชัดเจนมากขึ้นหรือด้าน Customer Service สำหรับโรงพยาบาลเป็นต้น

ภาพจาก fiercehelathcare

โดยโปรเจกต์ด้านเทคโนโลยีการแพทย์ที่กล่าวไปข้างต้นดูมีความเป็นไปได้มากที่สุด เพราะในปี 2019 ทั้ง Microsoft และ Nuance เคยทำโปรเจกต์ Cloud HealthCare ซึ่งเป็นระบบเทคโนโลยีสำหรับการพบแพทย์ Online ผ่านการใช้งาน ChatBot ร่วมกันมาแล้วซึ่งก็ได้ผลตอบรับที่ดีพอสมควร 

ในเมื่อเคยทำงานร่วมกันมาขนาดนี้มันก็คงไม่แปลกเลยที่ Microsoft จะเห็นแววการเติบโตที่น่าสนใจของ Nuance จนทำให้เป็นที่มาของข่าวลือการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ แต่ถ้าใครที่ติดตามข่าวสารของ Microsoft เป็นประจำจะพบว่าเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Microsoft ก็ตกเป็นข่าวว่ากำลังจะเข้าซื้อกิจการของ Discord แอปพลิเคชันขวัญใจเกมเมอร์มาแล้วด้วย แต่ถึงตอนนี้ผ่านมาแล้วกว่า 3 สัปดาห์ข่าวการซื้อกิจการ Discord ก็ยังคงนิ่งอยู่

ซึ่งตราบใดที่ทาง Microsoft และทาง Nuance ยังไม่ได้ออกแถลงการณ์ผ่านทางหน้า Official Website ก็ยังไม่มีอะไรมายืนยันได้ว่าการซื้อกิจการครั้งนี้จะเป็นความจริง (เหมือนที่ปล่อยข่าวจะฮุบ Discord)

สรุปทั้งหมด

ถึงคราวนี้เชื่อได้เลยว่าในปีนี้ Microsoft คงต้องเดินเกมสร้างการเติบโตอย่างหนักให้สมกับเป็นยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของโลก ซึ่งข่าวลือทั้งการซื้อ Discord ที่ปล่อยออกมาเมื่อเดือนที่แล้วรวมถึงประเด็นร้อนอย่างข่าวการซื้อกิจการของ Nuance น่าจะเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าในปีนี้ Microsoft เอาจริงแค่ไหน

โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเทคโนโลยีการแพทย์ ที่กำลังเป็นอุตสาหกรรมที่ต้องการนำเทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานเป็นอย่างมากจากสถานการณ์โควิด-19 ที่เชื่อว่าโรคระบาดครั้งนี้จะเข้ามาเปลี่ยนโฉมหน้าของอุตสาหกรรมการแพทย์ให้เข้าสู่ยุคใหม่ในอนาคตอันใกล้ 

ซึ่งถ้าดีลระหว่าง Microsoft กับ Nuance เกิดขึ้นจริง ก็คงเป็นข่าวดีของวงการเทคโนโลยีการแพทย์และสาวก Microsoft ทุกคนที่จะได้เห็นเทคโนโลยีอัจฉริยะใหม่ ๆ เกิดขึ้นในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของ Microsoft แต่ดีลนี้จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ เราก็ยังต้องติดตามกันต่อไป ไม่เกินสิ้นเดือนนี้เชื่อว่าน่าจะได้ข้อสรุปแน่นอน 

Source : cnbc , bloomberg
ส่งต่อเรื่องราวดีๆ

คุณอาจจะชอบบทความนี้...

สรุปสถิติ Digital และ Social Media จาก We Are Social ที่นักการตลาดทุกคนต้องรู้ อัปเดตปี 2023
รวม 7 บทความการตลาดที่เราแนะนำให้คุณอ่านก่อนปี 2023

ไม่พลาดทุกข้อมูลที่ช่วยให้ธุรกิจคุณเติบโตได้เร็วยิ่งขึ้น

ติดตามได้หลากหลายช่องทางที่คุณสะดวก ไม่ว่าจะเป็น e-mail, line หรือ youtube
Subscribe
แหล่งเรียนรู้สำหรับคุณและธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนบนโลกดิจิทัลด้วยการใช้ศาสตร์ Growth, เครื่องมือด้านเทคโนโลยี, การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการสร้างทีม
connect@thegrowthmaster.com
Privacy Policy
Terms & Agreement
User Data Deletion
Services
Business Tech Stack
Advertise
Tech Review
Subscribe
Category
Software Review
All Articles
Growth Trends
Company
We're Hiring
Internship Program
Community
Contact
Channels
Facebook
Line OA
Youtube
© Copyright 2020 W JAMES Company Limited All Rights Reserved
"Grow Like a Master"