หากคุณเป็นคนหนึ่งที่เคยไปนั่งรอตาม Lounge ที่สนามบิน, ร้าน Car Care หรือตามร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดส์ เช่น Taco Bell, Texas Roadhouse, Burger King แล้วร้านนั้นเปิด TV ที่แสดงวิดีโอคอนเทนต์ต่าง ๆ หรือเปิดเพลงคลอเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศในขณะนั้น แสดงว่าคุณเคยได้เห็นผลงานของ Atmosphere มาแล้ว
โดย Atmosphere เป็นสตาร์ทอัปสัญชาติอเมริกา ที่ TikTok ตัดสินใจจับมือร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ เพื่อหวังให้วิดีโอคอนเทนต์จาก TikTok ไปแสดงบน TV ตามร้านอาหาร หรือห้องนั่งรอ (Waiting Room) ทั่วโลก โดยจุดประสงค์ของการร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ในครั้งนี้ คือ TikTok หวังว่าจะเข้าถึงผู้ชมในวงกว้างมากขึ้น นอกเหนือจากผู้ใช้งานบนโทรศัพท์
แต่สำหรับรายละเอียดของดีลในครั้งนี้เป็นอย่างไร The Growth Master ก็ได้สรุปมาให้ในบทความนี้แล้ว ไปติดตามกันต่อได้เลย
TikTok จับมือ Atmosphere สตาร์ทอัปที่ดูแลด้าน TV Streaming ตามร้านอาหารหรือพื้นที่สาธารณะ
Dan Page (Head of Global Business Development ของ TikTok) กล่าวว่า TikTok เป็นแอปพลิเคชันที่สร้างความสนุกสนานให้กับผู้ใช้งานมากกว่าพันล้านคนทั่วโลก พร้อมยังเป็นแหล่งสร้างแรงบันดาลใจให้ได้ลองทำสิ่งใหม่ ๆ และผู้คนยังได้พบปะกับ Community ที่ตัวเองสนใจ
TikTok จึงได้ร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับ Atmosphere เพื่อให้ผู้คน ทุกเพศ ทุกวัย ทั่วโลก สามารถเข้าถึง TikTok ได้มากขึ้น และสร้างประสบการณ์รูปแบบใหม่ เพื่อให้ผู้ชมได้พบกับความสนุกและความคิดสร้างสรรค์มากขึ้นบนจอแก้ว
ซึ่งปัจจุบัน Atmosphere ได้สตรีมวิดีโอให้กับร้านอาหาร, บาร์, ยิม, ห้อง Waiting Room รวมถึงสถานที่อื่น ๆ มากถึง 18,000 แห่งทั่วโลก สำหรับดีลในครั้งนี้ Atmosphere จะรวบรวมวิดีโอที่เป็นไวรัลจาก TikTok ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอกีฬาพาดโผน, ไลฟ์สไตล์, ศิลปะ, ธรรมชาติ หรือความบันเทิงต่าง ๆ
แต่ Atmosphere จะนำวิดีโอเหล่านั้นมาตัดเสียงออก แล้วใส่เสียงเพลงคลอที่สร้างบรรยากาศของตัวเองเข้าไปแทน หรือบางวิดีโอก็ทำเป็นแบบไร้เสียง และใส่คำบรรยายลงไปแทน เพราะบางสถานที่ อย่างเช่น ร้านอาหาร ซึ่งบางร้านอาจเป็นร้านที่มีเสียงพูดคุยของลูกค้าแบบครื้นเครงอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องใส่เสียงลงไป เพียงแต่เปิดวิดีโอเพื่อสร้างบรรยากาศให้ร้านมีชีวิตชีวาขึ้น
ซึ่งในตอนนี้ TikTok ก็มี Channel สำหรับวิดีโอที่ได้รับการดูแลจัดการจากแพลตฟอร์มโดยเฉพาะเรียบร้อยแล้ว และสำหรับดีลในครั้งนี้ Techcrunch กล่าวว่าทั้ง 2 บริษัทจะทำงานร่วมกันด้วยระยะเวลาทั้งหมด 8 เดือน
สำหรับใครที่อยากดูว่า TikTok Channel มีหน้าตาเป็นอย่างไร สามารถเข้าไปดู Demo ได้บนเว็บไซต์ของ Atmosphere ซึ่งบนหน้าฟีดจะแสดงวิดีโอของ TikTok โดยจัดเรียงตาม Hashtag เช่น #lifeisrandom และ #coolrunning (แสดงอยู่ตรงมุมล่างซ้ายของหน้าจอ)
นอกจากนั้น Atmosphere ยังทำการเพิ่มเพลงของตัวเองและนำวางวิดีโอบนพื้นหลังภาพเคลื่อนไหว ส่วนชื่อผู้ใช้ของ Creator ก็ยังคงปรากฏให้เห็นในแต่ละวิดีโอเหมือนเดิม
สรุปทั้งหมด
เรามาติดตามดูกันว่า ภายในระยะเวลา 8 เดือนนี้ TikTok จะสามารถขยายฐานผู้ชมวิดีโอได้ตามที่ต้องการหรือไม่ ซึ่งนี่ก็ถือว่าเป็นกลยุทธ์ครั้งสำคัญที่จะเข้ามาสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่ให้กับผู้ชมทั่วโลก จากที่เคยรับชมวิดีโอของ TikTok ได้แค่ในสมาร์ทโฟนหรือบนเว็บไซต์เท่านั้น แต่บนหน้าจอ TV ก็ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ TikTok ได้ขยายช่องทางการรับชมให้กว้างออกไป