หลังจากที่บริษัทแม่อย่าง Google พึ่งจะประกาศว่าจะทดลองนำเทคโนโลยี AI มาใช้เพิ่มความแม่นยำในการค้นหา ที่จะเริ่มใช้งานเต็มรูปแบบในช่วงสิ้นปีนี้ คราวนี้ก็ถึงตาของบริษัทลูกอย่าง Youtube ที่จะขอเริ่มเคลื่อนไหวบ้าง
เพราะล่าสุด Youtube ผู้นำด้านวิดีโอแพลตฟอร์มของโลกได้ประกาศว่าพวกเขาจะเริ่มนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในฟีเจอร์ Video Chapters เพื่อทำให้การสร้างสรรค์คอนเทนต์ของเหล่าครีเอเตอร์ ง่าย สะดวก และประหยัดเวลามากขึ้น
สำหรับฟีเจอร์ Video Chapters เชื่อว่าหลายคนอาจจะยังไม่คุ้นหู เพราะทาง Youtube พึ่งจะเปิดตัวเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยหน้าที่ของฟีเจอร์นี้ก็คือให้เหล่าครีเอเตอร์ได้สามารถสร้างสารบัญของวิดีโอ ให้ผู้ชมสามารถกดเลือกชมเฉพาะ Topic ที่สนใจได้ (เหมือนเราอ่านหนังสือ แล้วเปิดไปที่หน้าสารบัญ เพื่อค้นหาหน้าของหัวข้อที่คุณสนใจ)
และการนำเทคโนโลยี AI มาใช้งานในครั้งนี้ ทำให้เหล่าครีเอเตอร์ไม่จำเป็นที่จะต้องมาสร้าง TimeStamps ในแต่ละคอนเทนต์แล้ว แต่ระบบ AI จะทำการแบ่ง Topic มาให้เลยแบบอัตโนมัติ ซึ่งทางฝั่งของ Youtube เองก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการนำเทคโนโลยี AI เข้าใช้งานจะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับทั้งครีเตอร์และผู้ชมได้
ฟีเจอร์ Video Chapters คืออะไร ?
ฟีเจอร์ Video Chapters คือฟีเจอร์ที่ทาง Youtube พัฒนาขึ้นมาในปี 2020 นี้เอง (เปิดใช้งานเมื่อเดือนพฤษภาคม) โดยรูปแบบของฟีเจอร์ Video Chapters นี้ก็เหมือนกับ “สารบัญ” ของวิดีโอ หน้าที่ของมันก็คือทำให้ผู้ชมคอนเทนต์สามารถเลือกจิ้ม Topic ที่สนใจในคอนเทนต์นั้น ๆ เพื่อรับชมได้เลย โดยไม่ต้องมาเลื่อนกรอวิดีโอให้เสียเวลา
โดยหน้าตาของฟีเจอร์ Video Chapters ก็จะเหมือนกับรูปตัวอย่างด้านบนครับ ในแต่ละ Topic จะถูกแบ่งเป็นบล็อกไว้อย่างชัดเจน และจะมีคำอธิบาย Topic ปรากฎขึ้นมาด้วย เพื่ออธิบายว่าแต่ละ Topic ของคอนเทนต์นี้มีอะไรบ้าง
ซึ่งฟีเจอร์ Video Chapters ปัจจุบันก็สามารถใช้งานได้แล้วทั้งผ่าน Desktop หรือ Smartphone (ทั้ง IOS และ Andriod) ซึ่งในมุมของครีเอเตอร์การจะสร้าง Video Chapters ให้กับคอนเทนต์ของตัวเองใน Youtube นั้น วิธีการก็ง่ายมาก ๆ ครับเพียงแค่คุณเริ่มใส่ TimeStamps ไว้ในช่องคำอธิบาย (Description) ของคอนเทนต์ เพื่อให้ผู้ชมได้รู้ว่าเวลาไหน เป็น Topic เรื่องอะไร ความยาวประมาณเท่าไร
TIPS : ข้อควรระวังสำหรับครีเอเตอร์ ทางฟีเจอร์ Video Chapters มีกฎอยู่ 3 ข้อสำหรับการใช้งานดังนี้ครับ
- กฎข้อแรก ในการใส่ TimeStamps เพื่อทำ Video Chapters นั้นคุณต้องเริ่มจากวินาทีที่ 0:00 ของคอนเทนต์ (หรือตอนเริ่มคลิป) เท่านั้น
- กฎข้อสอง ในแต่ละตอนที่คุณแบ่ง Chapter เอาไว้ต้องมีความยาวมากกว่า 10 วินาทีขึ้นไป
- กฎข้อสาม ในการแบ่ง Video Chapter ไม่ว่าคอนเทนต์จะมีความยาวเท่าไร คุณต้องแบ่ง Chapter ให้ได้ 3 ช่วงเวลาขึ้นไป
เบื้องหลังของ Youtube กับการนำเทคโนโลยี AI มาใช้กับฟีเจอร์ Video Chapter
ต้องบอกว่าเบื้องหลังที่ Youtube เริ่มนำเทคโนโลยี AI มาใช้กับฟีเจอร์ Video Chapter นี้ทาง Youtube ได้เปิดเผยว่าพวกเขามีความต้องการที่จะสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับทั้งครีเอเตอร์และผู้ใช้งาน โดยระบบ Automated Video Chapter นั้นจะใช้การประมวลผลอันอัจฉริยะของ AI , Machine Learning ของพวกเขาในการฟังคอนเทนต์ และแบ่ง Video Chapters ให้กับเหล่าครีเอเตอร์เองได้เลย
โดยที่ฝั่งครีเอเตอร์ไม่จำเป็นที่จะต้องมากำหนด TimeStamps ของคอนเทนต์ด้วยตัวเองอีกต่อไป ประหยัดเวลา และทำการสร้างสรรค์คอนเทนต์ในแพลตฟอร์มง่ายขึ้นอีกด้วย
แต่ต้องบอกก่อนว่าตอนนี้ทาง Youtube ยังไม่ได้ปล่อยฟีเจอร์ Automated Video Chapters ออกมานะครับ ช่วงนี้ยังอยู่ในช่วงที่ Youtube กำลังพัฒนาเทคโนโลยี AI ตัวนี้ให้มีความแม่นยำมากที่สุดอยู่ ซึ่งพวกเขาบอกแค่ว่า ตอนนี้กำลังทดสอบกับกลุ่มตัวอย่างเล็ก ๆ อยู่และจะนำ Feedback ที่ได้มาพัฒนาระบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ก่อนที่จะปล่อยให้ใช้ได้จริง
ครีเอเตอร์ต้องรู้! ฟีเจอร์ Video Chapter ให้ประโยชน์ที่คุณคาดไม่ถึงในการทำ SEO
นอกจากประโยชน์ในการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ชมคอนเทนต์ ให้ผู้ชมได้เลือกชมเฉพาะหัวข้อที่สนใจได้แล้วนั้น ฟีเจอร์ Video Chapters ยังซ่อนประโยชน์ในการทำ SEO ที่ครีเอเตอร์หรือใครที่กำลังสื่อสารกับลูกค้าผ่าน Youtube ต้องรู้
นั่นก็คือการใส่ Video Chapters (หรือ TimeStamps) จะช่วยให้คอนเทนต์ของคุณถูกค้นหาเจอในหน้า 1 ของ Google ได้ง่ายขึ้นอีกด้วย เพราะในการแบ่ง Topic ของแต่ละ Chapters คุณก็ต้องใส่ชื่อ Topic นั้น ๆ ลงไปช่องคำอธิบาย (Description) ของคอนเทนต์ด้วย
ซึ่งหลักการก็จะเหมือนกับการที่คุณใส่ Description สำหรับการทำ SEO ของเว็บไซต์นั่นแหละครับ ถ้ามีผู้ใช้งานที่ค้นหา Keyword ที่ตรงกับ Text ของคุณใน Description ที่คุณใส่ไว้ โอกาสที่ผู้ค้นหาจะเจอ Youtube Content ของคุณก็มีโอกาสมากขึ้น
และประกอบกับการที่ Google มีการอัปเดต ที่จะเริ่มแสดงผลการค้นหาจาก Youtube มากขึ้น โดยเฉพาะคอนเทนต์ที่ทำการแบ่ง Video Chapter เอาไว้ โดย Google จะแสดงผลแบบ Key Moments ให้ด้วย (มี Chapter ให้เลือกหัวข้อที่สนใจผ่านหน้า SERP เลย)
เรียกได้ว่าสำหรับ Youtube Creator หรือใครที่ต้องทำงานด้าน Youtube ก็อย่าลืมไปสร้าง Video Chapter ลงในคอนเทนต์ของคุณด้วยนะครับ เพื่อโอกาสในการเพิ่ม Traffic ที่มากขึ้น สู่คอนเทนต์ของคุณผ่าน Google Search นั่นเอง
สรุปทั้งหมด
แม้ฟีเจอร์ Automated Video Chapter ที่ Youtube กำลังพัฒนาระบบ AI เพื่อนำมาเป็นส่วนหนึ่งของฟีเจอร์ตัวนี้จะดูมีความน่าสนใจก็จริง แต่อย่างไรก็ดี ฟีเจอร์นี้อาจไม่ได้ช่วยอะไร ถ้าหากว่าวิดีโอนั้นมีการเปลี่ยน Topic Chapters ที่บ่อยครั้งมากเกินไป
ทั้งนี้ก็ต้องมาติดตามดูกันครับว่า Youtube จะพัฒนา AI ตัวนี้ให้อัจฉริยะได้มากแค่ไหน หลายสำนักคาดการณ์ว่าฟีเจอร์ Automated Chapter Video จะเริ่มปล่อยให้ใช้ในอเมริกาภายในปี 2021 แน่นอน แต่สำหรับประเทศไทยก็อาจจะต้องใช้การติดตั้ง Chapter Video แบบ Manual ไปก่อนนะครับ