รวมเทคนิคดีๆ สำหรับเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์สำหรับปรับแต่งหน้าเว็บไซต์ของคุณ มาทำให้ลูกค้ากดเพิ่มสินค้าจนล้นตะกร้ากับ CRO Hack ตอนที่ 3 กันได้เลย!
The Growth Master Team ผู้รักในการเรียนรู้ หลงใหลในเทคโนโลยี และแฮปปี้กับการเติบโต
รวมเทคนิคดีๆ สำหรับเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์สำหรับปรับแต่งหน้าเว็บไซต์ของคุณ มาทำให้ลูกค้ากดเพิ่มสินค้าจนล้นตะกร้ากับ CRO Hack ตอนที่ 3 กันได้เลย!
ก่อนที่ลูกค้าจะกดเพิ่มสินค้าลงในตะกร้า สิ่งที่ลูกค้าจะได้เห็นเป็นภาพตัวแทนสินค้าของคุณ ดังนั้นภาพสินค้าจึงเป็นโฆษณาอย่างหนึ่งที่มีผลต่อการตัดสินใจของลูกค้าเป็นอย่างมาก เพราะภาพนี้จะเป็นภาพตัวแทนสินค้าที่ลูกค้าจะได้รับ ดังนั้นภาพที่ใช้นั้นจะต้องสื่อถึงมูลค่าของสินค้าได้ด้วย
มาลองดูตัวอย่างกันดีกว่า
ตอนนี้เราอยากให้คุณสวมบทบาทเป็นพ่อค้าแม่ค้าที่กำลังลงภาพสินค้าในเว็บไซต์ ถ้าสินค้าของคุณคือ “ส้ม” ภาพที่คุณใช้จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร ป.ล. อย่าลืมว่าคีย์เวิร์ดของเราคือภาพนั้นจะต้องสื่อถึงมูลค่าของสินค้าได้ด้วยนะ
ลองนึกภาพในหัวเล่นๆ สัก 5 วินาทีว่าภาพส้มของคุณจะเป็นอย่างไร เริ่ม!
5
.
4
.
3
.
2
.
1
.
เป็นอย่างไรกันบ้างพ่อค้าแม่ค้าส้มสมมติของเรา ทีนี้มาลองดูกันว่าภาพส้มที่เราเลือกมาเป็นตัวอย่างนั้นเหมือนหรือคล้ายกับภาพส้มที่คุณคิดไว้หรือไม่
จะเห็นได้ว่าภาพส้มแต่ละภาพสามารถแสดงให้ลูกค้าเห็นได้ในรูปแบบที่แตกต่างกัน เช่น ส้มผลใหญ่เหมาะกับนำไปจัดกระเช้าฝากผู้หลักผู้ใหญ่ ส้มเนื้อฉ่ำน้ำเยอะเหมาะกับการทำน้ำส้มคั้น หรือส้มไร้เมล็ดเนื้อแน่นสีสดรสชาติเข้มข้น เพราะภาพที่สื่อออกมาต่างกันก็แสดงถึงแมสเสจหรือมูลค่าสินค้าที่ต่างกันได้
ทีนี้เราขอมอบโจทย์ใหม่ ครั้งนี้เราอยากให้คุณลองลงดีเทลมากขึ้นอีกสักนิด ถ้าหากคุณต้องการขายส้มสดๆ จากไร่ของคุณเอง ภาพที่ใช้จะหน้าตาเป็นอย่างไร?
และนี่คือภาพส้มสดๆ จากไร่ของเรา มีแสงแดดส่องสีทองให้ความรู้สึกถึงความเป็นธรรมชาติและสดชื่น โดยเราตั้งใจเลือกภาพส้มที่ยังอยู่บนต้นในไร่ส้ม เพื่อต้องการสื่อว่าส้มที่ลูกค้าจะได้เป็นส้มที่เพิ่งเด็ดออกมาสดๆ จริงๆ แล้วภาพของคุณล่ะ มีไอเดียอะไรบ้าง?
มาถึงตรงนี้คุณคงเข้าใจแมสเสจที่เราอยากบอกคุณแล้ว สเต็ปถัดไป เราอยากให้คุณลองดูภาพซีเรียลนี้ดูว่าภาพนี้นำไปใช้ได้หรือไม่? หรือคุณอยากจะจัดหรือแก้ไขภาพนี้อย่างไร? ให้เวลาสักนิดและลองใช้จินตนาการคุณดู 3 2 1 เริ่ม!
เป็นอย่างไรกันบ้าง? พอจะได้ไอเดียกันบ้างไหม?
ในทริคนี้เราอยากแนะนำให้คุณรู้จักวิธีการ mental interaction กับลูกค้า หรือการสร้างปฏิสัมพันธ์ทางจิตใจโดยการจัดวางสินค้าให้ตรงกับวิธีที่ลูกค้าใช้งาน เช่น จากภาพตัวอย่างด้านล่าง เราได้เลือกตัวอย่างซีเรียลที่พร้อมรับประทาน เติมผลไม้ เทนม วางช้อนไว้ด้านข้าง เพื่อให้ลูกค้าได้เห็นภาพสินค้าของเราเมื่อได้นำไปใช้จริงมากที่สุด
เทคนิคนี้ยังสามารถนำไปใช้กับสินค้าอื่นๆ ได้ ไม่ใช่เฉพาะของกินเพียงอย่างเดียว เช่น หากคุณต้องการขายผ้าปูที่นอน ภาพที่คุณใช้ก็ควรเป็นภาพเตียงที่ปูด้วยผลิตภัณฑ์ของคุณ ไม่ใช่ภาพผ้าปูที่นอนที่อยู่ในแพ็ค หรือหากคุณต้องการขายลิปสติก คุณอาจจะใช้ภาพนางแบบที่ใช้จริงเพื่อให้ลูกค้าของคุณได้เห็นภาพตัวอย่างของสีลิปสติกเมื่ออยู่บนใบหน้าได้
บอกเทคนิค mental interaction เพิ่มกันอีกสักนิด จะเห็นได้ว่าภาพลิปสติกนั้นอยู่ทางด้านขวา นั่นเป็นเพราะคนส่วนใหญ่ถนัดข้างขวา และอย่าลืมเปิดฝาผลิตภัณฑ์ให้พร้อมใช้งานด้วยล่ะ!
เทคนิคข้อนี้เราอยากให้คุณนำไปใช้กับ Target Plan ของคุณ
Target Plan คือ แพลนหรือสินค้าที่เราตั้งใจอยากให้ลูกค้าซื้อ เช่น หากคุณมีข้อมูลของลูกค้าอยู่แล้วว่าลูกค้าเป็นคนแบบไหน มีไลฟ์สไตล์อย่างไร ชอบหรือไม่ชอบอะไร คุณก็สามารถใช้ Target Plan เพื่อเสนอสินค้าที่ตรงตามความต้องการของลูกค้าที่สุดได้
งานวิจัยของ Armel, Beaumel, & Rangel ค้นพบว่าคนเรามักจะเลือกตัวเลือกที่เราได้ใช้เวลาในการมองมากที่สุด ดังนั้นสิ่งที่คุณต้องทำคือการทำให้ลูกค้ามอง Target Plan ของคุณให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ นั่นเป็นเพราะว่า…
และวิธีการที่เราจะเสนอให้คุณก็คือการใช้สีนั่นเอง!
เมื่อคุณมี Target Plan ที่ต้องการเสนอให้ลูกค้า คุณสามารถใช้สีช่วยเน้นทำให้ Target Plan ของคุณโดดเด่นขึ้นมากกว่า Product อื่นๆ ได้ เพื่อให้ Target Plan ของคุณเด่นสะดุดตา ทำให้ลูกค้าใช้เวลามองสินค้ามากขึ้น และนำไปสู่การตัดสินใจได้ โดยการทำตามภาพตัวอย่างด้านล่างนี้
และนี่คือตัวอย่างที่เราเตรียมมาเพื่อให้คุณเห็นภาพได้ง่ายยิ่งขึ้น คุณอาจจะใช้สีอ่อนสีเข้ม ใช้คู่สีตรงข้าม หรือใส่เป็นกรอบสีให้เด่นขึ้นก็แล้วแต่ดีไซน์ของคุณเอง!
ต่อจากเทคนิคในข้อที่แล้ว ในแฮกนี้เรายังใช้หลักการเดิมเพิ่มเติมคือเราจะใช้การจัดวางตำแหน่งเข้าช่วยให้ Target Plan ของคุณเป็นจุดสนใจมากขึ้นไปอีก และตำแหน่งที่ดีที่สุดของ Target Plan ของคุณคือตรงกลางนั่นเอง!
ป.ล. หากคุณลองสังเกตตัวอย่างของแฮกที่แล้วดูก็จะเห็นว่า Target Plan นั้นอยู่ตรงกลางทุกตัวอย่างด้วย! เพราะฉะนั้นหลังเปลี่ยนสีแล้ว อย่าลืมจัดตำแหน่งใหม่ด้วยนะ (-:
ก่อนอื่นที่จะอธิบายแฮกข้อนี้ เราขอแนะนำให้คุณรู้จัก three main stages of a purchase decision หรือ 3 ขั้นตอนก่อนการตัดสินใจซื้อของลูกค้ากันก่อน ได้แก่
ในเทคนี้ข้อนี้เราอยากให้คุณช่วยทำให้ลูกค้าตัดสินใจง่ายขึ้น โดยการลดขั้นตอนแรกหรือขั้นตอน “จะซื้อหรือไม่?” ออกไปให้กับลูกค้า
เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้นมาดูภาพกันเลยดีกว่า เว็บไซต์ส่วนใหญ่มักจะจัดรายการสินค้าหน้าตาแบบนี้
ภาพจาก promotion2u
จะเห็นได้ว่าเว็บไซต์ส่วนใหญ่จะหน้าตาเหมือนกับการตอบคำถามในขั้นตอนแรก แสดงสินค้าให้ลูกค้าเห็นทีละมากๆ และให้ลูกค้าตัดสินใจในขั้นตอนแรกว่า “จะซื้อหรือไม่?”
แต่ถ้าหากคุณสามารถทำให้ลูกค้าให้ตอบโจทย์กับขั้นตอนที่ 2 ลดการตัดสินใจให้ลูกค้าแล้วสร้างตัวเลือกให้ลูกค้าเปรียบเทียบว่า “จะซื้อชิ้นไหน?” แทนได้ ลูกค้าก็จะสามารถตัดสินใจได้ยิ่งขึ้น
มาลองดูตัวอย่างกันเลยดีกว่า
ยิ่งไปกว่านั้นวิธีการนี้ยังสามารถทำให้สินค้าที่ลูกค้าได้รับนั้นเกิดจากการเลือกทีละขั้นตอนด้วยตัวเอง ต่างจากในแบบแรกที่ลูกค้าจะเลือกสินค้าที่เราเตรียมไว้ให้ หรือกล่าวได้ว่าทำให้ลูกค้าได้ customize สินค้าของตัวเองได้นั่นเอง!
แฮกข้อสุดท้ายสำหรับตอนนี้เป็นเทคนิคง่ายๆ ที่คุณไม่ควรมองข้าม นั่นก็คือการใช้คำช่วยกระตุ้นการตัดสินใจของลูกค้านั่นเอง!
เช่น Best seller สินค้าขายดี, New สินค้าใหม่, Recommend สินค้าแนะนำ, Popular สินค้ายอดนิยม
แนะนำบทความสำหรับคุณ 6 กลวิธีเปลี่ยนผู้เข้าชมเว็บไซต์ให้กลายเป็นลูกค้า
ก่อนจะกดสินค้าลงตะกร้าสิ่งที่ลูกค้าของคุณได้เห็นในขั้นตอนนี้ก็เปรียบดังโฆษณา การที่จะทำให้หน้าเว็บไซต์ของคุณเป็นโฆษณาสินค้าที่ดีได้นั้นก็มีหลายรายละเอียดที่คุณสามารถตามเก็บให้ครบทั้งภาพ สี ตำแหน่ง วิธีการจัดวาง หรือข้อความที่ใช้ กล่าวได้ว่าปัจจัยต่างๆ ที่ปรากฏบนหน้าเว็บไซต์ของคุณนั้นล้วนแต่ส่งผลต่อการตัดสินใจของลูกค้าทั้งสิ้น อย่าลืมปรับแต่งเว็บไซต์ของคุณให้สวยเพื่อยอดขายที่สวยเหมือนหน้าตาเว็บไซต์กันด้วยนะ
แล้วมาพบกับ CRO Hack ตอนต่อไป พร้อมกับเทคนิคเด็ดๆ ที่เรารวบรวมให้คุณไว้ที่นี่กับ The Growth Master
จนกว่าจะพบกันใหม่ (-: