เรียกว่ายังคงเป็นผู้นำอันดับ 1 ด้านเทคโนโลยีการสื่อสารของยุคปัจจุบันอยู่จริง ๆ สำหรับ Facebook ภายหลังจากเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา Facebook นำโดยหัวเรือใหญ่อย่าง Mark Zuckerberg ได้ออกมาแถลงการณ์ผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 ประจำปี 2021
ซึ่งตัวเลขที่ทาง Facebook ได้ทำการเปิดเผยออกมาก็เรียกได้ว่าทำให้ผู้ติดตามข่าวประหลาดใจได้ไม่น้อยเพราะในไตรมาส 2 ของ Facebook สามารถโกยรายได้ไปทั้งหมดกว่า 29,077 ล้านดอลลาร์ ถือว่าเติบโตเพิ่มขึ้น 56% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน
ที่ต้องบอกว่าน่าประหลาดใจเพราะอย่างที่ทุกคนทราบดีว่า Facebook ถือเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับผลกระทบจากการที่ Apple เปลี่ยนระบบความเป็นส่วนตัวใน iOS14.5 ทำให้การโฆษณาใน Facebook กับผู้ใช้งานระบบปฏิบัติการ iOS14.5 ทำได้ยากมากขึ้น แต่ Facebook กลับยังได้รับรายได้จำนวนมหาศาล แถมรายได้หลักก็ยังมาจากโฆษณาเหมือนเดิม
แต่ทำไม Facebook ถึงยังคงสร้างรายได้จากค่าโฆษณาได้อย่างมากมายขนาดนี้ แล้วตัวเลขการเติบโตของ Facebook ในไตรมาสนี้ จะความน่าสนใจตรงไหนที่ผู้รักในการเติบโตอย่างคุณต้องทราบบ้าง เรารวบรวมทั้งหมดมาไว้ให้คุณได้อ่านแล้ว
เปิดผลประกอบการของ Facebook ไตรมาส 2/2021 ยังเติบโตต่อเนื่องทั้งรายได้และผู้ใช้งาน
เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา Facebook ได้ทำการเปิดเผย รายงานผลประกอบการในไตรมาสที่ 2/2564 พบว่าสามารถทำรายได้อยู่ที่ 29,077 ล้านดอลลาร์ (เงินไทยราว 9 แสนล้านบาท) มีกำไรอยู่ที่ 10,394 หมื่นล้านดอลลาร์ (เงินไทยราว 3 แสนล้านบาท) ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นสูงกว่า 101% เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วที่ทำกำไรไปเพียงแค่ 5,178 ล้านดอลลาร์
เรื่องนี้ทาง Mark Zuckerberg ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Facebook ได้กล่าวว่าตัวเลขรายได้บริษัทที่เพิ่มขึ้นนั้น มาจากรายได้หลักเดิมนั่นก็คือรายได้จากการขายโฆษณา 29,077 ล้านดอลลาร์ ถือว่าเพิ่มขึ้นจากช่วงไตรมาสเดียวกันของปี 2020 กว่า 56% (ไตรมาส 2/2020 ทำรายได้ 18,687 ล้านดอลลาร์) โดยตัวเลขรายได้มหาศาลไม่ได้มาจาก Facebook แค่แพลตฟอร์มเดียว แต่รวมถึงแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและการสื่อสารทั้งหมดที่อยู่ในความดูแลของ Facebook INC เช่น Instagram, WhatsApp
ที่ในปัจจุบันทุกแพลตฟอร์มในเครือของ Facebook INC ก็มีผู้ใช้งานทั่วโลกอยู่เป็นจำนวนมากอยู่แล้ว โดยในไตรมาส 2/2021 นี้มีจำนวนผู้ใช้ Facebook, Instagram และ WhatsApp เพิ่มขึ้นกว่า 12% ทำให้ตัวเลขผู้ใช้งานของแพลตฟอร์มทั้งหมดเกิน 2.90 พันล้านคนทั่วโลกไปแล้ว
อีกทั้งในรายงานฉบับเดียวกัน Facebook ก็ยังได้เปิดเผยข้อมูลการเติบโตในด้านของตัวเลขผู้ใช้งานในไตรมาส 2/2021 มาด้วย ซึ่งทุกสถิติก็มีตัวเลขที่เติบโตขึ้นทั้งหมด เช่น
- Facebook daily active users (DAUs) – ตัวเลขผู้ใช้งานรายวัน เพิ่มขึ้นเป็น 1.91 พันล้านคนทั่วโลก เพิ่มขึ้น 7% จากช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว
- Facebook monthly active users (MAUs) – ตัวเลขผู้ใช้งานรายเดือน เพิ่มขึ้นเป็น 2.90 พันล้านคนทั่วโลก เพิ่มขึ้น 7% จากช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว
- Family daily active people (DAP) - มีจำนวนผู้ใช้งานในแต่ละวันของทุกบริการในเครือทั่วโลก 2.76 พันล้านคน เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว
- Family monthly active people (MAP) - มีจำนวนผู้ใช้งานในแต่ละเดือนของทุกบริการในเครือทั่วโลก 3.51 พันล้านคน เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว
- Headcount - จำนวนพนักงานทั้งหมดขององค์กรอยู่ที่ 63,404 คน เพิ่มขึ้น 21% จากช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว
ซึ่งในรายงานผลประกอบการของ Facebook ครั้งนี้ถ้าเราดูภาพรวมก็เหมือนกับว่า Facebook ยังคงความเป็นเบอร์ 1 อยู่จริง ๆ เหมือนหลายปีที่ผ่านมา แต่ถ้าใครที่ทำงานในสายการตลาดจะรู้ว่าตัวเลขการเติบโตของ Facebook ครั้งนี้อาจดูผิดจากความจริงไปหรือเปล่า
เพราะอย่างที่เราทราบกันดีว่าเมื่อช่วง 2 เดือนที่แล้วทาง Apple ได้ทำการปล่อยระบบปฏิบัติการ iOS14.5 (App Tracking Transparency) ออกมาซึ่งในเวอร์ชันนี้จะเข้ามาช่วยในด้านของระบบรักษาความเป็นส่วนตัว ซึ่งไม่อนุญาตให้แอปพลิเคชันต่าง ๆ ทำการ Tracking ข้อมูลและกิจกรรมส่วนตัวเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการทำการตลาด ที่ทาง Facebook ต้องได้รับผลกระทบแน่นอน แต่เพราะเหตุอะไร Facebook ถึงยังไม่ได้รับผลกระทบ แถมสร้างรายได้ได้มากกว่าเดิมอีก
iOS14.5 แล้วไง? Mark Zuckerberg ยันเองไตรมาสนี้ยังทำอะไร Facebook ไม่ได้
เนื่องจากการอัปเดตเวอร์ชันของ iOS14.5 (App Tracking Transparency) ที่ผ่านมาถือว่าส่งผลต่อ Facebook เต็ม ๆ เพราะรูปแบบการทำโฆษณาที่เคยสร้างความได้เปรียบให้ธุรกิจและเป็นจุดขายให้พวกเขาได้ตลอดจำพวก Retargeting หรือการติด Facebook Pixel ต่าง ๆ จะไม่สามารถทำได้ หากผู้ใช้งานกดไม่ยินยอม (จากสถิติเผยว่าส่วนใหญ่จะเลือกกดไม่ยินยอม)
ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้นักการตลาดส่วนใหญ่น่าจะลดปริมาณการใช้โฆษณาทาง Facebook ลดลง เพราะผู้ใช้งานอุปกรณ์ของ Apple ก็มีจำนวนไม่น้อย แต่ทำไมรายได้ของ Facebook ก็ยังเติบโตได้ดีแถมรายได้หลักยังมาจากการโฆษณาอีก เรื่องนี้ Mark Zuckerberg ได้ออกมายอมรับเองเลยว่า จริงอยู่ที่ iOS14.5 จะเข้ามาสร้างผลกระทบให้แก่การทำโฆษณาบน Facebook ส่งผลให้รายได้ของบริษัทลดลงในระยะยาวแน่นอน แต่ในไตรมาสนี้ iOS14.5 ยังไม่ได้สร้างผลกระทบด้านรายได้ให้แก่ Facebook ขนาดนั้น
ทั้งนี้รวมกับข้อมูลที่ David Wehner (ตำแหน่ง Chief Financial Officer ของ Facebook) ได้กล่าวเพิ่มเติมไว้ว่าที่ภาพรวมรายได้ของการโฆษณาบน Facebook ที่เพิ่มขึ้นนั้น เกิดจากราคาเฉลี่ยต่อโฆษณาที่เพิ่มขึ้น 47% และจำนวนโฆษณารวมที่ถูกสร้างมากขึ้น 6% ซึ่ง David Wehner ก็ออกมายอมรับแบบเดียวกับ Mark Zuckerberg ว่าแม้ไตรมาสนี้ Facebook จะยังไม่ได้รับผลกระทบในด้านรายได้จากการเปลี่ยนแปลงของ iOS14.5 แต่เราน่าจะเห็นผลกระทบที่ชัดเจนขึ้นในไตรมาสที่ 3/2021 หรือในไตรมาสปัจจุบัน
เชื่อว่าสาเหตุที่ Facebook ยังไม่โดนผลกระทบจากเปลี่ยนแปลง iOS14.5 ในไตรมาสนี้ก็เพราะยังมีผู้ใช้งานอุปกรณ์ของ Apple บางส่วนที่ยังไม่ได้ทำการอัปเดตเวอร์ชัน, ผู้ใช้งานบางส่วนก็ยอมให้แอปพลิเคชันสามารถ Tracking ข้อมูลได้ต่อตามปกติ และอีกส่วนหนึ่งก็ต้องยอมรับว่าผู้ใช้งานระบบ Android ทั่วโลกก็ยังมีปริมาณเยอะอยู่ แต่ถึงอย่างไรก็ตามในไตรมาส 3/2021 ก็ต้องมาติดตามดูกันต่อไปว่ารายได้และการเติบโตของ Facebook จะออกมาเป็นอย่างไร
เชื่อพี่ได้เลย! Mark Zuckerberg เผยสองสิ่งนี้กำลังจะมาสร้างการเติบโตครั้งสำคัญให้ Facebook
นอกจากเรื่องของรายได้บริษัทในไตรมาส 2/2021 Mark Zuckerberg ยังได้ออกมาพูดถึงทิศทางการเติบโตในอนาคตของ Facebook ด้วยว่าตอนนี้สิ่งที่ Facebook กำลังโฟกัสก็คือ การเพิ่มประสบการณ์การใช้งานของ Video Content ทุกชนิดในเครือบริษัท ไม่ว่าจะเป็น Facebook Watch หรือฝั่ง Instagram อย่าง Reels ฟีเจอร์วิดีโอแนวตั้งที่ทำมาแข่งกับ TikTok
ซึ่ง Mark Zuckerberg กล่าวว่าผู้ใช้งานส่วนใหญ่ใช้เวลาเกือบครึ่งในการเล่นฟีเจอร์เกี่ยวกับ Video Content เหล่านี้ เพราะฉะนั้นด้วย Content รูปแบบนี้แหละที่จะเข้ามาเป็นส่วนสำคัญที่สุดในการเติบโตในอนาคตอันใกล้ของ Facebook
นอกจากนี้เขายังพูดถึงไอเดียในการยกระดับ Facebook ให้ก้าวไปสู่ Metaverse Company หรือบริษัทด้านเทคโนโลยีโลกเสมือนจริง ที่จะเข้ามาทำให้ Facebook ไม่ใช่แพลตฟอร์มที่ผู้คนจะมีปฏิสัมพันธ์กันผ่านหน้าจอสี่เหลี่ยมอย่างเดียว แต่จะทำให้ทุกคนสามารถสร้างปฏิสัมพันธ์กันผ่านโลกเสมือนจริงด้วยเทคโนโลยี VR ภายในระยะเวลาอีก 5 ปีข้างหน้า
ที่ต้องบอกเลยว่าถ้า Facebook สามารถสร้างโลกเสมือนจริงตามความฝันของ Mark Zuckerberg ขึ้นมาได้จริง สิ่งนี้อาจจะเป็น “จุดเปลี่ยน” ครั้งสำคัญของโลกเทคโนโลยีในทศวรรษนี้เลยก็เป็นได้
สรุปทั้งหมด
ต้องมาติดตามกันว่าในเมื่อหัวเรือใหญ่ออกตัวแรงขนาดนี้แล้ว Facebook ของ Mark Zuckerberg จะสามารถใช้ Video Content และ Metaverse ในการสร้างการเติบโตได้มากไปกว่านี้หรือเปล่า รวมถึงทาง Facebook เองจะมีวิธีรับมือกับ iOS14.5 ที่ Apple อัปเดต (แบบแอบแกล้งนิดๆ) ได้ดีแค่ไหน
นี่ถือว่าเป็นโจทย์หินที่ Facebook จะต้องหาวิธีรับมือให้ได้ เพราะทุกการสร้างโฆษณาที่ลดลง ย่อมส่งผลกระทบต่อรายได้ที่พวกเขาจะได้รับในไตรมาสต่อไปแน่นอน
ซึ่งถ้า Facebook มีการแก้เกม ออกฟีเจอร์หรืออัปเดตอะไรมาเมื่อไร The Growth Master จะนำมาอัปเดตให้คุณแน่นอน กดติดตามพวกเราไว้ได้เลยทุกช่องทางทั้ง Facebook Page : The Growth Master , Line Official : @thegrowthmaster และ Subscribe เพื่อไม่พลาดทุกข่าวสารส่งตรงถึง E-Mail ของคุณ