หลังจากที่กระแสของ Metaverse เริ่มถูกเป็นที่พูดถึงมากขึ้น จากการเปิดตัว Meta และการประกาศเตรียมพัฒนาผลิตภัณฑ์เข้าสู่โลกเสมือนของ Mark Zuckerberg เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ทำให้ธุรกิจระดับโลกหลายอุตสาหกรรมเริ่มหันหน้าเข้าสู่ Metaverse กันมากขึ้น
ล่าสุดถึงตาของ Nike แบรนด์ผลิตภัณฑ์อุปกรณ์กีฬาและแฟชั่นระดับโลก ที่กำลังประกาศว่าพวกเขาจะเดินหน้าผลักดันธุรกิจเข้าสู่โลก Metaverse อย่างเต็มตัว ด้วยการเข้าซื้อกิจการ RTFKT (อาร์ติแฟกต์) สตาร์ทอัปสตูดิโอออกแบบของสะสม ประเภทรองเท้าและแฟชั่น NFT สำหรับ Metaverse
โดยทาง Nike ก็ได้ออกมาเปิดเผยถึงเบื้องหลังของการซื้อกิจการครั้งนี้ว่า พวกเขาต้องการขยายธุรกิจไปยังระบบของ Metaverse ที่ตอนนี้กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก และมีทิศทางการเติบโตที่รวดเร็ว
ซึ่งเบื้องหลังการซื้อกิจการของ Nike ในครั้งนี้ ย่อมมีอะไรที่น่าสนใจมากกว่าการขยายธุรกิจเข้าสู่ โลกเสมือน Metaverse แน่นอน แต่จะมีอะไรที่น่าสนใจให้คุณได้ศึกษากันนั้น ติดตามต่อได้ในบทความ
RTFKT คือธุรกิจแบบไหน ทำไม Nike ถึงต้องเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ ?
RTFKT (อ่านว่า Artifact - อาร์ติแฟกต์) คือสตาร์ทอัปสตูดิโอออกแบบของสะสมสินค้าแฟชั่นแบบ NFT (Non-Fungible Token) สำหรับ Metaverse ที่ก่อตั้งเมื่อปีในช่วงเดือน มกราคม ปี 2020 โดย Benoit Pagotto, Steven Vasilev และ Chris Le โดยทั้ง 3 คนร่วมกันเป็น Co-Founder ของบริษัทนี้
ซึ่งทั้ง 3 คนมีเป้าหมายเดียวกันในตอนแรกที่เริ่มต้นสร้างธุรกิจขึ้นมาคือ ต้องการเพิ่มมูลค่าให้กับผลงานศิลปะ พวกเขาจึงมองเห็นว่าการใช้นวัตกรรม NFT เพื่อสร้างสรรค์ผลงานให้อยู่บนเครือข่าย Blockchain จะเป็นอะไรที่สามารถสร้างมูลค่าให้กับผลงานศิลปะเหล่านั้นได้จริง
แต่ผลงานที่ทาง RTFKT Studio ถูกพูดถึงและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ก็คือผลงานการออกแบบรองเท้าที่ได้ Collabs กับแบรนด์คาแรคเตอร์ NFT ที่โด่งดังมากมาย เช่น Bored Apes, CryptoPunks และที่ประสบความสำเร็จที่สุดก็คือการจับมือร่วมกับ Fewocious ศิลปินแนวสตรีทชื่อดังออกแบบรองเท้า NFT คอลเลคชันใหม่ขึ้นมา ที่สามารถสร้างยอดขายถล่มทลายกว่า 3 ล้านดอลลาร์หรือกว่า 100 ล้านบาท ภายในเวลาเพียงแค่ 7 นาทีหลังจากเปิดวางจำหน่าย
รวมถึงโปรเจกต์ที่เป็นกระแสในกลุ่มคนที่ชอบสะสมงาน NFT และแฟชั่นอย่าง ‘CloneX’ ที่เป็นโปรเจ็กต์ที่ทาง RTFKT Studio สร้าง Avatar ร่วมกับศิลปินชื่อดังมากมาย (เข้าไปดูผลงานทั้งหมดและความเคลื่อนไหวของ RTFKT Studio ได้ที่ Instagram @rtkktstudio)
หนึ่งในนั้นคือ Takashi Murakami ศิลปินชื่อดังชาวญี่ปุ่น เจ้าของแบรนด์ Murakami ซึ่งในโปรเจ็กต์นี้ มีมูลค่าการซื้อขายรวมมากกว่า 65 ล้านดอลลาร์ (ราว 2,170 ล้านบาท) ซึ่งต้องบอกว่าช่วงปีที่ผ่านมา ถือเป็นขาขึ้นของ RTFKT Studio เป็นอย่างมาก
เพราะนอกจากจะสามารถสร้างมูลค่า จากการจำหน่ายผลงาน NFT ในโปรเจ็กต์นี้ทาง RTFKT Studio ยังได้รับเงินทุนกว่า 8 ล้านดอลลาร์ (ราว 267 ล้านบาท) จาก Andreessen Horowitz ที่เป็นบริษัท Venture Captital ใน Silicon Valley ที่มักจะลงทุนในธุรกิจประเภทเทคโนโลยีและคริปโทเคอร์เรนซี ทำให้มูลค่ากิจการเพิ่มขึ้นเป็น 33.3 ล้านดอลลาร์ (ราว 1,112 ล้านบาท) เมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
จนการเติบโตของ RTFKT Studio ก็ได้ไปเข้าตาของ Nike แบรนด์ผู้นำด้านอุปกรณ์กีฬาระดับโลก ที่เห็นถึงการเติบโตของทั้ง RTFKT Studio ตลอดจนเทคโนโลยี Metaverse ที่จะยิ่งเข้ามาผลักดันให้ NFT ได้รับความนิยมมากขึ้นจากผู้คนทั่วทั้งโลก จึงทำให้ Nike รีบเสนอดีลการซื้อกิจการไปหา RTFKT Studio ทันที
เบื้องหลังการซื้อกิจการที่ถูกเปิดเผยจาก Nike และทิศทางต่อจากนี้กับการมุ่งสู่ Metaverse
และเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (13 ธันวาคม) ทาง Nike ก็ได้ประกาศอย่างเป็นทางการผ่านทางหน้าเว็บไซต์ว่าตอนนี้พวกเขาได้ทำการซื้อกิจการของ RTFKT Studio เป็นที่เรียบร้อย โดยตัวเลขมูลค่าที่ Nike ต้องควักกระเป๋าจ่ายเพื่อซื้อกิจการในครั้งนี้ รวมถึงรายละเอียดอื่น ๆ ของดีล ทาง Nike ไม่ได้เปิดเผยออกมาให้เราได้ทราบกัน
แต่ทาง John Donahoe ซีอีโอคนปัจจุบันของ Nike ได้ออกมาเปิดเผยว่า ดีลการซื้อกิจการในครั้งนี้เป็นก้าวที่สำคัญของ Nike ในการเข้าสู่ยุคดิจิทัลเพื่อเชื่อมต่อนักกีฬาและผู้ออกแบบงานผลงานศิลปะ ผ่านกีฬา เกม วัฒนธรรมต่าง ๆ บนโลก Metaverse ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่นานนี้
ซึ่งทาง Nike กำลังหาทีมนักออกแบบที่มีความสามารถในการเชื่อมโยงสิ่งเหล่านี้เข้าไว้ด้วยกัน และ RTFKT Studio นั้นมีทุกอย่างที่ Nike กำลังตามหาและทาง Nike ก็เชื่อเหลือเกินว่า RTFKT Studio จะเข้ามาช่วยเติมเต็มสิ่งนั้นและสร้างการเติบโตไปด้วยกันได้ในอนาคต
ส่วนทาง Benoit Pagotto หนึ่งใน Co-Founder ของทาง RTFKT Studio ก็ได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยเช่นกันว่า การที่ RTFKT Studio ร่วมมือกับ Nike ในครั้งนี้ถือว่าเป็นโอกาสที่พิเศษที่สุดของเรา และทาง RTFKT Studio ก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่จะได้รับความเชี่ยวชาญและความแข็งแกร่งของ Nike ในการสร้างสรรค์ผลงาน NFT รูปแบบใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
โดย Nike นั้นก็เป็นไม่กี่แบรนด์ในโลกที่มี Deep Passion ในนวัตกรรมใหม่ๆ , ความสร้างสรรค์ และ การสร้าง Community โดย RTFKT Studio รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ขยายธุรกิจของเราสู่โลก Metaverse อย่างเต็มตัว
ต้องอธิบายเพิ่มเติมว่าอีกหนึ่งสาเหตุทำให้ Nike ต้องรีบปิดดีลการซื้อกิจการของ RTFKT Studio ให้ได้เร็วที่สุดนั้น ส่วนหนึ่งเพราะทาง Nike กำลังเดินหน้าพาสินค้าและแบรนด์ของตนเองเข้าสู่โลก Metaverse ซึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา Nike ก็ได้ร่วมกับ Roblox แพลตฟอร์มผู้นำด้านเกมแนว Sandbox ชื่อดัง ในการสร้าง “Nikeland” เป็นพื้นที่เสมือนจริงที่ผู้เล่นสามารถมาแข่งขันกีฬาแมตช์เล็กๆ ได้ เช่น เล่นดอดจ์บอล วิ่งลู่ กระโดดไกล
ที่ผู้เล่นสามารถตกแต่งตัวละคร Avatar ในเกมได้ด้วยเสื้อผ้า รองเท้า หรืออุปกรณ์กีฬาอื่น ๆ ของ Nike ได้ทั้งหมด โดยใน Nikeland ยังสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนในการตรวจจับการเคลื่อนไหวในการออกกำลังกายต่าง ๆ เช่น วิ่ง กระโดดสูง เพื่อแปลงเป็นการเคลื่อนไหวภายในเกม รวมถึงยังมี Digital Showroom ที่เอาไว้แสดงสินค้าคอลเลคชันใหม่ ๆ ของ Nike อีกด้วย
ซึ่งค่อนข้างมีความเป็นไปได้ว่าโปรเจ็กต์แรกที่ทาง Nike จะร่วมมือกับ RTFKT Studio อาจจะมาปรากฏอยู่ใน Nikeland ก็เป็นได้ และนอกจากนั้น Nike ยังได้จดสิทธิบัตรของ “Cryptokicks” โทเคนสำหรับรองเท้าบน Ethereum Blockchain ที่ยื่นจดทะเบียนไปเมื่อเดือนธันวาคม 2019 อีกด้วย
สรุปทั้งหมด
ต้องมาจับตาดูกันยาว ๆ สำหรับทิศทางในอนาคตของ Nike ที่ได้เดินหน้ามุ่งสู่ Metaverse อย่างเต็มตัวไปแล้วในปีนี้ ซึ่งถือว่าเป็นการเปิดหน้าสู้กับคู่แข่งตลอดกาลอย่าง Adidas ที่ก็เริ่มมีการผลักดันแบรนด์เข้ามาใน Metaverse หลังจากที่ Adidas เริ่มร่วมมือกับนักออกแบบในการสร้างผลงาน NFT แล้วด้วยเช่นกัน
และต้องบอกว่าไม่ใช่เพียง Nike และ Adidas เท่านั้น แต่ตลาดสินค้ากีฬาแบรนด์อื่น ๆ รวมถึงแพลตฟอร์มด้านการออกกำลังกาย (ประเภท Exercise To Earn) ก็เริ่มเป็นที่พูดถึงด้วย ว่ากำลังจะเข้ามาสร้างประสบการณ์ใหม่ให้การออกกำลังกาย, การเล่นกีฬา ในอนาคตเช่นกัน