หลังจากที่ OnlyFans แพลตฟอร์มเผยแพร่คอนเทนต์ในรูปแบบ Subscription Model ที่ทำให้ผู้ใช้งานทุกคนสามารถหารายได้เข้ากระเป๋าจากการเป็น Content Creator โดยมีจุดเด่นอยู่ตรงที่สามารถเผยแพร่เนื้อหา 18+ ลงในแพลตฟอร์มได้อย่างอิสระ จนสร้างการเติบโตเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกภายในระยะเวลาแค่ปีกว่า ๆ
แต่ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างเปลี่ยนไป เพราะเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา OnlyFans ได้ออกมาประกาศเองเลยว่าตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม เป็นต้นไป OnlyFans จะไม่อนุญาตให้ Content Creator ทุกคนเผยแพร่เนื้อหา 18+ หรือเนื้อหาเชิงลามกอนาจารเด็ดขาด แถมเนื้อหาเก่า ๆ ที่เคยลงไว้ก็ต้องลบออกจากแพลตฟอร์มก่อนวันที่ 1 ธันวาคม
ซึ่งการตัดสินใจ “ลบจุดเด่นของตัวเอง” ออกจากแพลตฟอร์มของ OnlyFans ในครั้งนี้แน่นอนว่าพวกเขาย่อมมีเหตุผลบางอย่าง ที่เกี่ยวข้องกับการเติบโตของธุรกิจ และทิศทางต่อไปของ OnlyFans ในวันที่ไม่มีคอนเทนต์ 18+ แล้วจะเป็นอย่างไรหลังจากนี้ ติดตามกันได้เลย
อวสานสายเปย์! เผยสาเหตุแท้จริงที่ OnlyFans ต้องยอมแบนคอนเทนต์ 18+ ออกจากแพลตฟอร์ม
เดิมทีแล้ว OnlyFans ไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นแพลตฟอร์มคอนเทนต์ 18+ ตั้งแต่แรก เพราะความเป็นจริง OnlyFans ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสร้างรายได้ให้เหล่าครีเอเตอร์เฉพาะทางเช่น การทำอาหาร เล่นดนตรี ไปจนถึงการออกกำลังกาย และอื่น ๆ แต่ทว่าเนื้อหาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ “คอนเทนต์ 18+” จนสามารถสร้างการเติบโตให้พวกเขาได้มากมาย โดยเฉพาะช่วงโควิด-19 ที่ผู้คนส่วนใหญ่อยู่บ้าน
ในปัจจุบัน OnlyFans มีครีเอเตอร์กว่า 2 ล้านคนบนแพลตฟอร์ม จากผู้ใช้งานกว่า 130 ล้านรายทั่วโลก ทำเงินได้มากกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.7 แสนล้านบาทบนแพลตฟอร์ม (OnlyFans กินค่า Subscription 20%)
แต่อยู่ ๆ OnlyFans ก็ตัดสินใจครั้งสำคัญในการแบน ทุกคอนเทนต์ ที่มีเนื้อหา 18+ เนื้อหาด้านเพศ (ลามกอนาจาร) ออกจากจากแพลตฟอร์มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป โดยยังอนุญาตครีเอเตอร์โพสต์คอนเทนต์ที่เป็นภาพหรือวิดีโอเปลือยได้ แต่จะต้องอยู่ในลิมิต ไม่มีเนื้อหาส่อไปทางลามกอนาจารเด็ดขาด
แถมครีเอเตอร์คนใด ที่เคยโพสต์คอนเทนต์รูปแบบดังกล่าวก็ต้องดำเนินการลบออกจากแพลตฟอร์มก่อนวันที่ 1 ธันวาคม ถ้าใครยังไม่ยอมดำเนินการหรือฝ่าฝืนอัปโหลดคอนเทนต์ลงแพลตฟอร์มอยู่ ระบบของ OnlyFans จะทำการแบนและลบบัญชีออกไปเลย
ซึ่งการตัดสินใจแบนคอนเทนต์ 18+ ของ OnlyFans ครั้งนี้ก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นมากมาย โดยเสียงส่วนใหญ่จะโจมตี OnlyFans ว่าเป็นการฆ่าตัวเอง เพราะจริงอยู่ว่าแพลตฟอร์มของ OnlyFans ไม่ได้เจาะจงเนื้อหาทางเพศมาตั้งแต่แรก แต่ปัจจุบันก็ต้องยอมรับว่าสิ่งที่ทำให้ OnlyFans เติบโตก็คือเนื้อหาทางเพศ การทำแบบนี้ก็เท่ากับจุดเด่นของ OnlyFans ได้หายไปแล้ว (เหมือน BurgerKing ที่ไม่ขายแฮมเบอร์เกอร์) แต่ความเป็นจริงเรื่องนี้ซับซ้อนกว่าที่เราคิด..
เพราะเหตุผลที่ OnlyFans ต้องยอมแบนคอนเทนต์ 18+ นั้นมาจากการที่พวกเขาถูกกดดันจากบรรดาธนาคารและผู้ประมวลผลการชำระเงินที่แจ้งข้อกังวลเกี่ยวกับเนื้อหาภายในแพลตฟอร์ม ที่ส่อไปทางคอนเทนต์ 18+ เยอะเป็นพิเศษ ซึ่งขัดกับการดำเนินงานของธนาคาร สถาบันทางการเงินหลายราย ที่ไม่สนับสนุนเนื้อหาประเภทนี้ทุกกรณี ประกอบกับความต้องการในการระดมทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ (3.3 หมื่นล้านบาท) เพื่อใช้ในการเติบโตของธุรกิจ
เพราะทาง OnlyFans เริ่มกังวลว่าการมีคอนเทนต์ 18+ อยู่ในแพลตฟอร์มมากเกินไป (บางคนบอกว่าไม่ต่างอะไรจาก Pornhub) จะทำให้ผู้ใช้งานไม่ได้มองภาพลักษณ์ของ OnlyFans ในการเป็นแพลตฟอร์มเผยแพร่คอนเทนต์เสรีอีกต่อไป แต่จะมองเห็นเป็นแพลตฟอร์มสื่อลามกแทน ซึ่งถ้ายังปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป ภาพลักษณ์แบบนี้น่าจะส่งผลเสียต่อการระดมทุนของ OnlyFans ด้วยแน่นอน จนพวกเขาต้องยอมเอาเนื้อหาประเภทนี้ออกจากแพลตฟอร์มอย่างไม่มีทางเลือก เพื่อการเติบโตของตัวเอง
เรื่องนี้โฆษกของ OnlyFans ได้ออกมาเปิดใจว่า “ต่อไปนี้การเผยแพร่คอนเทนต์ในแพลตฟอร์มจะมีความเข้มงวดขึ้น มีทั้งระบบ AI และระบบมนุษย์ในการตรวจสอบคอนเทนต์ที่เข้าข่ายเป็นคอนเทนต์ 18+ แต่ทั้งหมดที่เราทำไป ก็เพื่อให้แพลตฟอร์มยังคงอยู่กับเราไปอย่างยั่งยืน”
อย่างไรก็ตาม แม้ OnlyFans จะสูญเสียจุดขายของตัวแพลตฟอร์มไป แต่ไม่แน่ว่าทิศทางต่อไปของพวกเขาอาจจะเป็นอะไรที่น่าจับตาและทำให้ทุกคนต้องอึ้งอีกครั้ง
อะไรก็เกิดขึ้นได้! สื่อคาด OnlyFans อาจต้องรับคริปโต เป็นสกุลเงินบนแพลตฟอร์มในอนาคต
ถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครที่ออกมาเปิดเผยว่า OnlyFans จะเตรียมกลยุทธ์สร้างการเติบโตอย่างไรต่อไป รวมถึงฝั่งครีเอเตอร์เองก็ยังไม่ทราบว่า OnlyFans จะมีแผนอะไรเผื่อยึดให้ครีเอเตอร์ที่มีอยู่เกือบ 2 ล้านกว่าคนให้ยัง Active ในแพลตฟอร์มต่อไป
แต่ Techcrunch สื่อด้านเทคโนโลยีชื่อดังได้ออกมาเปิดเผยว่า มีความเป็นไปได้ที่ OnlyFans จะหันไปใช้สกุลเงิน Cryptocurrency ในการใช้จ่ายบนแพลตฟอร์มในอนาคตแทน เพื่อให้ OnlyFans อยู่นอกเหนือระบบของธนาคารหรือผู้ให้บริการชำระเงินเจ้าอื่น ๆ ตามคอนเซปต์ของเทคโนโลยี Blockchain เพราะเมื่อไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับระบบธนาคาร ก็ไม่มีความจำเป็นที่ OnlyFans จะต้องแบนคอนเทนต์ 18+ ออกจากแพลตฟอร์ม
ซึ่งหลังจากที่กระแสนี้การเปลี่ยนมาใช้คริปโตของ OnlyFans หลุดออกมา ก็สร้างความฮือฮาให้กับผู้ที่สนใจไม่น้อย ถึงขั้นที่ผู้คนส่วนใหญ่ออกมาบอกให้ OnlyFans สร้างเหรียญของตัวเองอย่าง “OnlyFans Crypto” ไปเลย
โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าถ้า OnlyFans ตัดสินใจเปิดรับสกุลเงินคริปโตมาใช้งานจริงบนแพลตฟอร์ม จะเป็นอะไรที่น่าสนใจไม่น้อยและสามารถอนุญาตให้คอนเทนต์ 18+ เผยแพร่อยู่บนแพลตฟอร์มต่อไปได้ ที่นอกจากจะทำให้ครีเอเตอร์ไม่หนีไปไหน ยังดึงดูดผู้ใช้งานใหม่ ๆ ที่มีความสนใจในสกุลเงินดิจิทัลให้เพิ่มมากขึ้นในแพลตฟอร์มด้วย
อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์มองว่า OnlyFans อาจต้องใช้เวลาสักพักถ้าต้องการเปิดรับคริปโตมาใช้งานบนแพลตฟอร์ม โดยอาจจะต้องให้ Influencer เบอร์ใหญ่ ๆ ของ OnlyFans หันมารับสกุลเงินดิจิทัลในการชำระค่าสมัครสมาชิกกันมากขึ้นกว่านี้ก่อน เพื่อสร้างฐานการใช้งานให้มากขึ้น แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีข้อมูลว่า Influencer เหล่านั้น จะเชื่อมั่นในสกุลเงินดิจิทัลมากแค่ไหน เลยยังไม่มีการแถลงถึงเรื่องนี้จาก OnlyFans
ทำให้ตอนนี้เหล่าครีเอเตอร์ 18+ ทั้งหลายต้องโบกมือลา เตรียมหาแพลตฟอร์มใหม่แทนที่ OnlyFans ที่กำลังจะเปลี่ยนสู่แพลตฟอร์มขาวสะอาดภายในเดือนตุลาคมนี้ โดยคาดว่าครีเอเตอร์กลุ่มนั้นน่าจะกลับไปใช้บริการ Twitter ที่ตอนนี้เหลือเพียงแพลตฟอร์มเดียวที่อนุญาตให้เผยแพร่คอนเทนต์ 18+ บนแพลตฟอร์มได้ และมีฟีเจอร์รองรับการใช้งานแบบ Paid Subscription อย่าง Super Follow ที่มีลักษณะการใช้งานใกล้เคียงกับ OnlyFans มาก ๆ
สรุปทั้งหมด
สำหรับครีเอเตอร์สาย 18+ นับว่า OnlyFans ยังอนุโลมให้ทยอยลบเนื้อหาได้ถึงเดือนธันวาคม และยังสามารถโพสต์ภาพ-วิดีโอเปลือยต่อไปได้เรื่อย ๆ (ห้ามมีเพศสัมพันธ์) แต่ก็ต้องยอมรัยกันตรง ๆ ว่าจุดขายหลักของ OnlyFans ก็ได้หายไปเกินครึ่งแล้ว แม้พวกเขาจะบอกว่าทำเพื่ออนาคตของแพลตฟอร์ม แต่ก็อาจจะต้องแลกมาด้วยจำนวนผู้ใช้งานที่ลดลงแน่ ๆ
ก็คงต้องมาดูกันแล้วว่า OnlyFans ถ้าแบนคอนเทนต์ 18+ ออกไปจากแพลตฟอร์มแล้ว พวกเขาจะสร้างจุดเด่นอะไรมาทดแทนสิ่งที่หายไป แล้วความหวังเรื่องการใช้คริปโต ชำระค่าบริการต่าง ๆ ในแพลตฟอร์มจะมีแนวโน้มเป็นจริงมากขึ้นแค่ไหน เร็ว ๆ นี้มีคำตอบแน่นอน