หลังจากที่สัปดาห์ที่แล้วเราได้นำเสนอบทความ Spotify เพิ่มคำแนะนำด้านเนื้อหาสำหรับพอดแคสต์ที่พูดถึง Covid-19 หลังจากที่มีประเด็นโต้เถียงเกี่ยวกับเรื่องคอนเทนต์ที่พูดถึง Covid-19 แบบผิด ๆ ในช่อง The Joe Rogan Experience แล้วมีคนหลากหลายสายงานออกมาประท้วงให้ Spotify ลบคอนเทนต์นั้นออกไป
แต่ประเด็นเก่ายังไม่หายไป ประเด็นใหม่ก็เข้ามาใหม่ เพราะ Joe Rogan ได้เผลอหลุดพูด N-word หรือคำที่ใช้เหยียดสีผิวออกมาในพอดแคสต์ Episode ต่าง ๆ ของเขา ซึ่งเจ้าตัวก็ได้ออกมาขอโทษแล้วว่า เขาไม่ได้มีเจตนาตั้งใจพูดในเชิงเหยียดสีผิวเพื่อความบันเทิง และมันเป็นการกระทำที่โง่เขลามาก ๆ อีกด้วย
ในวันนี้ Spotify ก็ได้มีการเคลื่อนไหว และมีการประกาศจากตัว CEO เองว่า Spotify ได้ลบคอนเทนต์เจ้าปัญหาของ Joe Rogan กว่า 70 คอนเทนต์ออกจากแพลตฟอร์มแล้ว
Daniel Ek ซีอีโอ Spotify ประกาศลบพอดแคสต์ของ Joe Rogan จำนวน 70 ตอน ออกจากแพลตฟอร์ม
Daniel Ek ซีอีโอของ Spotify ได้ส่ง Memo ถึงพนักงานของเขาว่า “เขารู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง” และ ขอ “ประณามอย่างรุนแรง” ต่อคำพูดที่อยู่ในพอดแคสต์ของ The Joe Rogan Experience ที่ส่งผลต่อผู้คนที่รับฟัง เกี่ยวกับการใช้ N-word ในรายการ
และเขาก็ได้ดำเนินการลบพอดแคสต์ของ The Joe Rogan Experience จำนวน 70 ตอน ออกจากแพลตฟอร์ม เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตอนนี้ถ้าหากรวมตอนของ The Joe Rogan Experience ที่โดนลบออกไป จะมีทั้งหมด 113 ตอน ซึ่งเป็นตอนที่บันทึกมาตั้งแต่ปี 2009-2018 ก่อนเกิดเหตุการณ์ Covid-19 (จากรายงานของเว็บไซต์ JRE Missing)
Daniel Ek บอกว่า “เราควรมีเส้นแบ่งกฎที่ชัดเจนเกี่ยวกับเนื้อหา รวมถึงวิธีการดำเนินการเมื่อมีคนข้ามเส้นนั้นมาอย่างรัดกุมกว่านี้”
นอกจากนี้ เขายังกล่าวอีกว่า บริษัทกำลังขยายจำนวนผู้เชี่ยวชาญภายนอกบริษัท เพื่อให้คำปรึกษาเกี่ยวกับวิธีการสร้างความปลอดภัยของผู้ใช้ และ “การแสดงออกของเหล่า Creator” ซึ่งจะมีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมในครั้งต่อไป
สรุปทั้งหมด
รายการของ Joe Rogan ถือว่าเป็นหนึ่งในรายการพอดแคสต์บน Spotify ที่ได้รับความนิยมและมีจำนวนผู้ติดตามไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะมีจำนวนผู้ฟังเฉลี่ยกว่า 1 ล้านคนในแต่ละตอน ซึ่งก็นับว่าถ้าหากตัว Creator ทำสิ่งที่ผิดพลาดออกมา ก็เท่ากับว่าเป็นแรงสั่นสะเทือนไม่น้อยเลยทีเดียวให้กับตัวรายการและแพลตฟอร์มเอง
เราก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าต่อไป Spotify จะมีกฎระเบียบหรือนโยบายที่ออกมาอย่างชัดเจนและรัดกุมมากขึ้น สำหรับการทำคอนเทนต์ต่าง ๆ เพื่อที่ว่าจะไม่มีประเด็นที่เป็นประวัติศาสตร์ซ้ำรอยแบบนี้อีกครั้งหนึ่ง
