หลายคนมักจะมีคำถามสงสัยในตอนที่ต้องทำ SEO (Search Engine Optimization) ว่า การทำ SEO ให้เว็บไซต์ติดอันดับหน้าแรกต้องใช้เวลาเท่าไร? ซึ่งการทำ SEO นั้น ไม่สามารถระบุระยะเวลาที่แน่นอนได้ เพราะมีหลายปัจจัยที่มีอิทธิพลต่ออันดับของ SEO เช่น การใช้ Keyword, อายุของเว็บไซต์, On-page SEO, Off-page SEO เป็นต้น
ซึ่งในวันนี้ The Growth Master ก็จะพาไปหาคำตอบเองว่า จะทำให้เว็บไซต์ติดอันดับ SEO หน้าแรกต้องใช้เวลาเท่าไร? ไปดูกันเลย
Off-page SEO คือ การใช้ปัจจัยภายนอกเข้ามาทำให้เว็บไซต์ของคุณเป็นที่รู้จักและมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น โดยก่อนที่เราจะทำ Off-page SEO ได้นั้นก็ล้วนเป็นผลพลอยได้มาจากการทำ On-page SEO ทั้งสิ้น
การทำ Off-page SEO เช่น การที่เว็บไซต์อื่นใช้เว็บไซต์เราเป็นแหล่งอ้างอิง แล้วให้เครดิตโดยการติด Backlink กลับมาที่เว็บไซต์ของเรา หรือไปเป็น Guest เขียนบทความให้กับเว็บไซต์อื่น แล้วติด Backlink มาที่เว็บไซต์ของเรา นี่ก็ถือเป็นตัวช่วยที่ทำให้ Google มองว่าเว็บไซต์เราเป็นเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือและมีคุณภาพ ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำอันดับได้สูงขึ้นอีกหนึ่งวิธี
ปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้มักจะเป็นเรื่องของอัลกอริทึมของ Google และคู่แข่ง ซึ่งเราไม่สามารถควบคุมได้ด้วยตัวเอง
1. Google Algorithm
Google Algorithm คือ ระบบการทำงานที่ Google ใช้ในการพิจารณาการจัดอันดับการค้นหาบน Google ที่จะมีการอัปเดตอยู่เป็นประจำ ซึ่งบางครั้งเว็บไซต์ของเราอาจติดอันดับ 1 บนหน้าค้นหาอยู่แล้ว แต่เมื่อ Google มีการอัปเดตอัลกอริทึม ก็อาจส่งผลให้เว็บไซต์ของเราอันดับร่วงทันทีก็ได้ โดยปัจจัยที่มีผลต่อ Google Algorithm เช่น
Backlink ลิงก์ย้อนกลับ
Fresh Content เนื้อหาที่สดใหม่
Keyword Density ความหนาแน่นของคีย์เวิร์ด
User Experience ประสบการณ์ของผู้ใช้
Authority การเป็นศูนย์กลางของข้อมูล
ดังนั้นสำหรับนักการตลาดออนไลน์ทุกคนก็ควรที่จะต้องอัปเดตอย่างสม่ำเสมอว่าในปีนั้น ๆ Google ได้อัปเดตอะไรใหม่ออกมาบ้าง เพื่อที่ว่าเราจะได้รู้ทัน และกลับมาปรับปรุงเว็บไซต์หรือบทความให้มีความสดใหม่อยู่เสมอ
รู้หรือไม่? ข้อมูลจาก Play-media บอกว่า Google Algorithm มีการอัปเดตประมาณ 400-500 ครั้งต่อปี โดยส่วนใหญ่อาจจะไม่ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเจนเท่าไร แต่บางครั้งการอัปเดต 1 ครั้งก็เปลี่ยนแนวทางของการทำ SEO ไปเลย
นอกจากนี้ สำหรับใครก็ตามที่อาจจะยังไม่เชี่ยวชาญด้าน SEO มากนัก การใช้เอเจนซี่การตลาดที่มีผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ทางด้าน SEO เป็นผู้ดูแลให้ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีเช่นกัน
ถ้าหาก Algorithm ของ Google ตรวจพบเจอเมื่อไร Google ก็จะลงโทษและแบนเว็บไซต์ของเรา สิ่งที่เราทำมาทั้งหมดก็จะสูญเปล่าไปทันที ไม่คุ้มที่จะเสี่ยง และนั่นก็ไม่เป็นผลดีต่อเว็บไซต์ที่ต้องการทำธุรกิจในระยะยาวแน่นอน