Original Content คืออะไร ? แชร์เทคนิคเริ่มสร้างบทความแบบ Original Content อย่างมีคุณภาพ

การทำ Content Marketing ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ทางการตลาดที่ทุกวันนี้สามารถยอมรับได้ว่าสร้างประโยชน์ให้กับการทำธุรกิจของคุณขนาดไหน และเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ทำให้นักการตลาดหรือเจ้าของธุรกิจหลายท่าน เริ่มศึกษากันอย่างจริงจังมากขึ้น

ซึ่งหนึ่งในวิธีการทำ Content Marketing ที่สามารถสร้างการรับรู้ให้แก่กลุ่มเป้าหมายได้ดีที่สุดนั่นก็คือ Blog หรือก็คือการเขียนบทความที่มีประโยชน์ ใส่ลงไปในเว็บไซต์ของตัวเอง

เพื่อเพิ่มโอกาสที่จะให้กลุ่มเป้าหมายค้นหาเจอได้ง่ายขึ้นผ่านการค้นหาด้วย Search Engine อย่าง Google นอกจากนั้นเมื่อพวกเขาได้อ่านบทความแล้ว ก็ยังมีโอกาสโน้มน้าวใจ ที่จะเปลี่ยนให้พวกเขากลายมาเป็น “ลูกค้า” หรือ “สาวก” ของคุณได้อีกด้วย 

แต่ปัญหาก็คือ ปัจจุบันเกือบจะทุกเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นคู่แข่งของเราหรือไม่ ต่างก็มี Blog ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณกันเยอะแล้ว คราวนี้จะทำอย่างไรให้คอนเทนต์ของเราแตกต่างและน่าสนใจกว่าคู่แข่ง นั่นแหละคือสิ่งท้าทายสำหรับนักการตลาดอย่างคุณ

โดยในบทความนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับเทคนิคในการสร้างบทความ Original Content หรือบทความคุณภาพที่ไม่เหมือนใครและไม่เคยมีใครทำมาก่อน พร้อมไกด์วิธีการหาไอเดียและการสร้างบทความ Orginal Content ตั้งแต่ต้นจนจบ ไปติดตามกันได้เลยครับ !

Original Content คืออะไร ? และจะช่วยสร้างความโดดเด่นให้กับธุรกิจคุณได้แค่ไหน 

คำว่า Original Content จริงๆ แล้วมันก็คือการสร้างสรรค์ Content ขึ้นมาโดยคอนเทนต์นั้นจะไม่ซ้ำหรือเหมือนกับเจ้าอื่นๆ ในตลาด หรือเรียกได้ว่าเป็นคอนเทนต์แนว “ต้นฉบับ” เลยก็ว่าได้

แล้วถ้าถามว่า Original Content ที่ว่า มันจะเป็นคอนเทนต์ลักษณะไหนกัน ? เพราะถ้าผมบอกว่าคอนเทนต์ที่ไม่เหมือนใคร คำนี้อาจจะดูยากและกว้างไปหน่อยถูกต้องไหมครับ

เอาเป็นว่าสำหรับนักการตลาดท่านใด ที่เคยเจอบทความแนวๆ ว่า รีวิว ถอดบทเรียน วิเคราะห์ ประสบการณ์จริง ประมาณนี้ไหมครับ นั่นแหละครับคือตัวอย่างของบทความแนว Original Content ที่เกิดจากการวิเคราะห์และเรียบเรียงขึ้นมาเองของผู้เขียน ไม่ได้เป็นการเอามาจาก Refference อื่นๆ

แต่คุณสามารถใช้บทความหรืองานวิจัยจากที่อื่น นำมาอ้างอิงได้นะครับ แต่ต้องไม่ใช่การยกบทความจากที่อื่น มาใส่ในเว็บไซต์ของตนเอง (The Growth Master เราก็ใช้วิธีนี้อยู่)

และแน่นอนว่าการทำ Original Content สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด ก็คือบทความที่คุณเขียนต้องสามารถสร้างคุณค่า (Value) ให้กับผู้อ่านได้

ตัวอย่างการสร้างสรรค์ Original Blog Content จาก Medium

ตัวอย่างการสร้างสรรค์ Original Blog Content จาก The Growth Master

จริงๆ สำหรับนักการตลาดด้านคอนเทนต์ การสร้างสรรค์ Original Content นั้นจะช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับธุรกิจคุณได้ครับ เพราะอย่างแรกเลยคือ คอนเทนต์จะเข้ามาช่วยสร้างความแปลกใหม่ให้กับธุรกิจคุณ และกระตุ้นการรับรู้ของกลุ่มผู้อ่านได้ดีกว่าคอนเทนต์บทความในลักษณะอื่น

จากสถิติของ Dex Manager ได้ทำการสำรวจถึงลักษณะของบทความที่สามารถสร้างการรับรู้ได้ดีที่สุด ซึ่งในอันดับ 2 อย่าง Different&Original Content ได้เปอร์เซนต์ไปสูงถึง 88% มากกว่า Useful Content หรือคอนเทนต์แนวสร้างประโยชน์เสียอีก 

เรียกได้ว่าการสร้างสรรค์ Original Content เป็นอีกหนึ่งเทคนิคของการทำ Content Marketing ที่เหมาะกับการสร้างความโดดเด่นเหนือคู่แข่ง ให้กับธุรกิจคุณได้อีกวิธีหนึ่งเลยครับ

ในมุมของการทำ SEO ล่ะบทความ Original Content จะเข้ามาช่วยอะไรได้บ้าง ?

นอกจากประโยชน์ในการสร้างความโดดเด่นเหนือคู่แข่งแล้ว ในมุมของการทำ SEO Original Content ก็สามารถเข้ามาทำให้ Ranking ของเว็บไซต์ของคุณดีขึ้นได้เช่นกันครับ

เพราะหากคุณเลือกเขียนคอนเทนต์ที่มาจากการคิดค้นของตัวคุณเอง ที่มีความแตกต่างจากเจ้าอื่นๆ ใน Search Engines ทาง Google ก็จะเลือกให้คะแนนเว็บไซต์คุณเยอะ จนสามารถไปติดอันดับต้นๆ ของหน้าการค้นหาได้  (ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับ Keyword และการทำ SEO โดยรวมของคุณด้วยนะครับ)

แต่ในกรณีกลับกัน ถ้าคุณสร้างบทความที่เหมือนกับของเจ้าอื่นๆ ทั้งชื่อบทความและเนื้อหาด้านใน ระบบ Algorithm ของ Google มีสิทธิ์ที่จะประเมินคะแนนให้คุณต่ำได้ทันที (หรือเราจะเรียกว่า Duplicate Content)

และยิ่งไปกว่านั้น กรณีที่คุณยกเอาบทความจากที่อื่นมา มาใส่ในเว็บไซต์ตัวเอง ถ้า Google เกิดจับได้ขึ้นมาอาจมีสิทธิ์ถึงขั้นที่ Google จะไม่สนับสนุนเว็บไซต์ของคุณได้อีกเลยครับ (Google จะเลือกให้ความสำคัญกับเว็บไซต์ที่มี SEO Score ที่สูงกว่าเป็นอันดับแรกเช่นพวกเว็บไซต์ดังๆ หรือเว็บไซต์ที่มีมานาน)

แชร์เทคนิคเริ่มสร้างบทความ Original Content อย่างมีคุณภาพ สำหรับนักการตลาดสายคอนเทนต์

มาถึงหัวข้อนี้ เราจะพานักการตลาดทุกท่านไปเรียนรู้เทคนิคในการเริ่มสร้าง Original Blog Content บนเว็บไซต์อย่างมีคุณภาพ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับการทำคอนเทนต์และสร้างความโดดเด่นเหนือคู่แข่ง แต่จะมีเทคนิคไหนบ้าง ไปติดตามกันครับ

เทคนิคที่ 1 : Identify Trends

ในปัจจุบันเราจะสังเกตุได้เลยว่า Original Blog Content ที่ได้รับความนิยมนั้น จะเลือกใช้กระแส Real-Time เป็นหลัก หรือก็คือการเอากระแสที่กำลังเป็นที่พูดถึงในปัจจุบันมาเป็นเนื้อหาของคอนเทนต์ 

แน่นอนว่าถ้าคุณพูดอะไรถึงสิ่งที่กำลังเป็นที่สนใจจากสังคมอยู่ ก็มีโอกาสที่กลุ่มเป้าหมายจะสนใจในคอนเทนต์ของคุณมากขึ้น แต่ปัญหาก็คือแล้วคุณจะนำไอเดียอะไรมาสร้าง Original Content ของคุณล่ะ ?

ถ้าเป็นนักการตลาดมือใหม่ก็อาจจะเลือกใช้สื่อ Social Media ทั่วไปอย่าง Facebook , Twitter ในการดูว่าตอนนั้นอะไรกำลังเป็นเทรนด์ แต่คุณต้องอย่าลืมว่าเรากำลังสร้างสรรค์ Content สำหรับ “Blog” 

เพราะฉะนั้นนอกจากเรื่องของการดูว่าสิ่งใดที่กำลังเป็นเทรนด์ในตอนนี้แล้ว คุณจำเป็นที่จะต้องใช้เครื่องมือช่วยในการดูค่า Score ต่างๆ เช่นความยากง่ายในการทำอันดับบนหน้า SERP , จำนวน Engagement ของเทรนด์ต่างๆ 

ซึ่งเครื่องมือที่เหมาะสำหรับการ Identify Trends ในขั้นตอนแรกก็คงหนีไม่พ้นเครื่องมือเจ้าประจำอย่าง Quora , Buzzumo ในการช่วยคุณหาไอเดียเพื่อการสร้างสรรค์ Content เพียงใส่ Keyword ที่คุณต้องการลงไปเท่านั้น

แอบกระซิบว่า Buzzumo สามารถดูค่า Engagement ของบทความที่กำลังเป็นที่นิยมได้ด้วย ซึ่งจะทำให้นักการตลาดอย่างคุณเห็นเลยว่า ไอเดียคอนเทนต์แบบไหนที่สร้าง Engagement ได้ดีเยี่ยมที่สุด

เทคนิคที่ 2 : Content Tranformation 

หากเว็บไซต์หรือธุรกิจของคุณ อาจจะไม่เหมาะกับการนำกระแสมาเขียนคอนเทนต์อย่างในเทคนิคแรก การใช้เทคนิค Content Tranformation จะเข้ามาช่วยเว็บไซต์คุณได้ครับ

Content Tranformation ก็คือการนำเอาตัวอย่างจากเว็บไซต์ที่เป็นต้นฉบับจากต่างประเทศ มาแปลเป็นภาษาไทย แต่ก็ไม่ใช่ว่าแปลด้วย Google Translate แล้วก็นำมาแปะนะครับ

การ Tranformation ในที่นี้ก็คือการเพิ่มคุณค่าให้เหมาะสมกับ Character ของการทำคอนเทนต์ของธุรกิจคุณมากที่สุด ตรงไหนที่คิดว่าไม่น่าจะตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายของคุณเท่าไร ก็สามารถตัดออกหรือแก้ไข หรือหาต้นฉบับมาจากหลายๆ เว็บไซต์ แล้วค่อยนำมาสรุปใจความ ให้กลายเป็นคอนเทนต์คุณภาพ  ( The Growth Master ก็เลือกใช้วิธีนี้)

เทคนิคที่ 3 : Ask your Audience (ถามกลุ่มเป้าหมายเลยว่าต้องการอะไร)

หากคุณยังมีความกังวลว่า กลัวทำคอนเทนต์แล้วไม่ได้รับความสนใจจากกลุ่มเป้าหมาย ทางแก้ง่ายๆ แค่ถามพวกเขาไปเลยว่าต้องการอะไร ?

ในกรณีที่ธุรกิจคุณมี Social Media หรือช่องทางในการสื่อสารกับลูกค้าอยู่แล้ว อย่าปล่อยไว้ให้เสียเปล่าครับ คุณสามารถใช้ช่องทางเหล่านั้นในการสอบถามถึงคอนเทนต์ที่พวกเขาต้องการที่สุด 

ตัวอย่างเช่น คุณอาจจะทำ Social Post ขึ้นมาสัก 1 โพสต์หรือทำ Research ผ่าน Form ต่างๆ เพื่อสอบถาม Feedback ที่กลุ่มเป้าหมายผู้อ่านของคุณมีให้กับคอนเทนต์ แล้วนำมาผลลัพธ์ที่ได้มาเริ่มสร้าง Original Content ของคุณต่อไป (อีกทั้งยังได้รับความคิดเห็นอื่นๆ จากมุมของ Audience ด้วย) 

เทคนิคที่ 4 : สร้างสรรค์ Original Blog Content ด้วยเรื่องราว , ประสบการณ์ของคุณเอง

บางครั้งบทความที่มีคนกดเข้าไปอ่านเยอะ อาจไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นบทความแนวการสอน หรือความรู้เท่าไรนะครับ บางทีการที่คุณหยิบเรื่องราวหรือประสบการณ์จากตัวคุณเองมาสร้างเป็นบทความ อาจทำให้ผู้อ่านเห็นภาพตามและเกิดอารมณ์ร่วมได้ดีกว่า

ยิ่งถ้าคุณเป็นเจ้าของธุรกิจหรือพอมีชื่อเสียงในสังคม คุณจำเป็นอย่างยิ่งเลยครับที่ต้องเริ่มสร้างสรรค์ Originals Content ลักษณะแบบนี้ เพราะวิธียังเป็นการเพิ่ม Testimonial ด้านดีให้ตัวคุณและบริษัทได้ด้วย 

และจากการสำรวจของ ghost.org พบว่าหากคุณอยากลองทำบทความลักษณะนี้ ให้เริ่มถามคำถามนี้กับตัวเอง และตอบลงไปในบทความ จะทำให้ผู้อ่านเกิด Emotional ร่วมได้ดีกว่าครับ

• คุณเรียนรู้อะไรบ้างในเวลานั้น? (เล่าถึงอดีตของคุณ)
• มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างตั้งแต่คุณเริ่ม (เล่าถึงปัจจุบันของคุณ)
• หากคุณต้องย้อนกลับไปและให้คำแนะนำกับตัวเองเมื่อเริ่มอาชีพของคุณ มันจะเป็นอย่างไร? 
  

เทคนิคที่ 5 : โฟกัสที่ชื่อบทความ (Headline) ที่มอบ Benefits ให้ Audience

“80% ของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตจะเลือกอ่านแค่ Headline ของบทความ และมีเพียง 20% เท่านั้นที่จะกดเข้าไปอ่านบทความของคุณ” - Neil Patel

ต่อให้คุณมีการสร้างสรรค์ Original Blog Content ที่มีเนื้อหาข้างในที่น่าสนใจเพียงใด แต่ถ้าชื่อเรื่องหรือ Headline มันดูไม่มีความดึงดูดเลย แล้วแบบนี้จะมีใครกดเข้ามาอ่าน

ทางแก้ไขของคุณก็คือการตั้งชื่อเรื่องให้น่าสนใจเท่านั้นครับ เพื่อเปลี่ยนเอา 80% นั้นให้ตัดสินใจ “กด” เข้ามาอ่านให้ได้ ซึ่งในการคิดชื่อ Headline ของบทความให้ดึงดูดนั้นก็มีด้วยกันหลายวิธีนะครับ ทั้งในด้านของ SEO และ Traffic & Engagement

อย่างในฝั่ง SEO คุณอาจจะต้องลองหา Keyword ที่เกี่ยวข้องกับบทความ และนำมาใส่ใน Headline รวมไปถึง Meta Tags และ Description ต่างๆ เพื่อให้ได้คะแนน SEO รวมไปถึงอันดับในการแสดงผลของ Google ที่ดีขึ้น

แต่ในฝั่งของ Traffic & Engagement (ในกรณีที่ไม่สนใจ SEO) ก็จะแตกต่างตรงที่คุณต้องตั้งชื่อ Headline ให้ดึงดูด Audience ที่สุดโดยมุ่งเน้นไปที่ “Benfits” ที่พวกเขาจะได้รับ จะเป็นการกระตุ้นความรู้สึกของผู้อ่านได้ดี 

จากตัวอย่าง (ของเว็บไซต์เราเอง) Benefits ที่ผมจะมอบให้ก็คือคำว่า “ช่วยให้ธุรกิจ E-Commerce สร้างยอดขายได้มากขึ้น” ซึ่งถ้าคุณเป็นนักการตลาดที่กำลังคิดหนักกับการสร้างยอดขายให้ธุรกิจ E-Commerce แล้วดันมาเจอบทความนี้พอดี แน่นอนว่ายังไงคุณก็ต้องกดเข้ามาอ่าน

แถมหน่อย! สำหรับใครที่อยากได้เครื่องมือสำหรับการ Generate Topic Blog ผมขอแนะนำเครื่องมือที่ชื่อว่า Blog Title Generator โดยการใช้งานก็ง่ายๆ ครับแค่เพียงคุณใส่ Keyword ที่ต้องการแล้วเลือก Category ของ Content ระบบก็จะคิด Headline ที่เหมาะสมกับบทความของคุณให้เลือกได้เลย

แม้จะเป็นภาษาอังกฤษแต่ก็ถือว่าได้ไอเดียใหม่ๆ ในการตั้งชื่อ Headlines ที่ดึงดูดกลุ่มเป้าหมายได้ไม่น้อยเลยนะครับ

เทคนิคที่ 6 : Recap & Combine Content

เทคนิคสุดท้ายที่เราอยากพูดถึงก็คือเทคนิค Recap&Combine Content หรือก็คือการรวมเอาคอนเทนต์หลายๆ อย่างมาอยู่ในบทความเดียวกัน เพื่อสร้าง New Value หรือคุณค่าใหม่ๆ ให้กับคอนเทนต์

ตัวอย่างเช่น คอนเทนต์แนวสรุป (Recap) อย่างช่วยประมาณกลางปีคุณก็อาจจะมีการสรุปให้ดูว่า ครึ่งปีแรก มุมมองจากธุรกิจคุณเป็นอย่างไร ? รวมสิ่งที่น่าสนใจจากครึ่งปีแรก 2020 ก็ถือว่าเป็นการสร้าง Original Blog ได้เหมือนกันครับ

หรือทาง The Growth Master ช่วงปลายปีที่แล้วเราก็มีคอนเทนต์แนวนี้ออกมาเช่นกัน ที่จะมาสรุปว่าบทความไหน ที่ได้ Page Views มากที่สุด 10 อันดับ เพื่อเป็นการสรุปเทรนด์ในแต่ละปีและยังเป็นการเพิ่ม Traffic ให้กับบทความทั้ง 10 ชิ้นได้อีกรอบหนึ่งด้วยครับ

สรุปทั้งหมด

การสร้าง Original Blog Content นั้นนอกจากเรื่องของการทำ SEO และการสร้างสรรค์บทความที่มีความโดดเด่นไม่เหมือนใครแล้วนั้น อีกปัจจัยสำคัญที่ผมจะเน้นย้ำอยู่ตลอดในบทความนั้นก็คือ คุณต้องสร้างอารมณ์ร่วมให้ Audience มีความรู้สึกร่วมไปกับคุณให้ได้มากที่สุด ผ่านความ Creative ในตัวของผู้เขียน

เพราะเชื่อเถอะครับว่าต่อให้คุณเขียนขึ้นมาดีเยี่ยมแค่ไหน แต่ถ้า Audience ไม่คล้อยตามคุณเลย โอกาสในการได้พวกเขามาเป็นลูกค้าก็จะทำได้ยากเช่นกันครับ

Source : vandelaydesign , everyonesocial , ghostorg , justlegal

‍