ในการจะที่คุณจะพัฒนาตัวเองไปสู่การเป็นคนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นนั้น แน่นอนว่าทุกคนรู้อยู่แล้วว่าสิ่งที่เราจำเป็นต้องมีนั่นก็คือ Growth Mindset ที่จะเป็นเหมือนกุญแจดอกสำคัญที่จะพาให้คุณไปพบกับการเติบโตในเรื่องต่าง ๆ
โดยเรื่องของ “การเติบโตและพัฒนาตัวเอง” ถ้าพูดถึงในเชิงทฤษฎี นักจิตวิทยาเลยได้ทำการแบ่งโซนหรือ “พื้นที่” ของการเติบโตและพัฒนาตัวเองออกมาเป็น 4 โซนด้วยกัน ซึ่ง 4 โซนที่ว่านี้ถือเป็นพื้นที่ ที่ถูกสร้างขึ้นมาจากจิตใจของเราทั้งนั้น ได้แก่ Comfort Zone - Fear Zone - Learning Zone - Growth Zone (ไล่จากซ้ายไปขวา)
เปรียบเทียบง่าย ๆ แบบนี้ครับในตอนแรกเราทุกคนจะถูกสร้างขึ้นมาให้อยู่ใน Comfort Zone ที่เป็นเหมือนบ้านหลังแรก แต่หลังจากนั้นเราทุกคนจะต้องใช้กุญแจที่ชื่อว่า Growth Mindset ในการไขประตูแต่ละบานเพื่อไปสู่โซนต่าง ๆ จนถึง Growth Zone ที่เปรียบเหมือน “ปลายสายรุ้ง” จุดมุ่งหมายที่คนที่รักในการเติบโตล้วนอยากพาตัวเองไปอยู่ในพื้นที่นั้นให้ได้
ในบทความนี้เราจะพาคุณไปเรียนรู้ถึงพื้นที่ทั้ง 4 โดยเฉพาะ Growth Zone ที่เป็นหัวใจหลักของการเติบโต ทั้งของตัวเองและของธุรกิจ รวมถึงเทคนิคในการเริ่มพาตัวเองออกจาก Comfort Zone ในปี 2021 นี้
พื้นที่ทั้ง 4 ของการเติบโตและการพัฒนาตัวเอง มีอะไรบ้าง แต่ละโซนมีความสำคัญอย่างไร ?
อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่าพื้นที่แห่งการเติบโตและการพัฒนาตัวเอง จะถูกแบ่งไว้ใน 4 โซนได้แก่ Comfort Zone - Fear Zone - Learning Zone - Growth Zone เรามาเช็คดูกันดีกว่าว่า แต่ละโซนจะมีรายละเอียด ความสำคัญอย่างไร และปัจจุบันนี้ตัวคุณเองกำลังอยู่ในโซนไหน ?
1. Comfort Zone : พื้นที่ปลอดภัย ควบคุมได้ จุดเริ่มต้นของเราทุกคน
Comfort Zone หรือพื้นที่ปลอดภัย เป็นพื้นที่ที่เปรียบเสมือนบ้านหลังแรกของการเรียนรู้สำหรับเราทุกคน
เพราะเราจะรู้สึกว่าใน Comfort Zone มันปลอดภัย งานทุกอย่างควบคุมได้ ไม่ต้องปรับเปลี่ยนหรือเปลี่ยนแปลงอะไรอีก และเราพอใจที่จะอยู่ในโซนนี้ ไม่ต้องการการเติบโตอะไรอีก ทั้งเรื่องงานและเรื่องการดำเนินชีวิต
ส่งผลให้ Comfort Zone เป็นจุดที่เราทุกคนรู้สึกสบายใจที่จะอยู่ในโซนนี้ เพราะได้ทำอะไรที่เป็นสิ่งที่เราทำได้อยู่แล้ว แต่ข้อเสียที่เปรียบเหมือนภัยร้ายเลยคือ คุณจะไม่มีวันได้พัฒนาตัวเองเพื่อเป็นคนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกเลย
ซึ่งแน่นอนว่าในเรื่องของการทำงาน การที่ปล่อยให้ตัวเองอยู่ใน Comfort Zone มากเกินไปจะขัดกับวิสัยทัศน์ขององค์กรในยุค Technology Transformation ส่วนใหญ่ ที่ต้องการให้บุคลากรในองค์กรเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้บุคลากรสร้างการเติบโตให้กับองค์กรได้มากที่สุด
ประกอบกับโลกการทำธุรกิจทุกวันนี้ คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่ตลอดเวลา เทคโนโลยีที่เริ่มเข้ามามีบทบาทกับการทำงานมากขึ้น การที่เราเป็นคนที่ไม่ยอมเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ แต่กลับปิดตัวเองอยู่แต่ใน Comfort Zone น่าจะส่งผลด้านลบกับตัวเราเองแบบเต็ม ๆ ทั้งในเรื่องงานและชีวิต
ดังนั้นสำหรับใครที่คิดว่าตัวเองมีอาการ “กลัวการเปลี่ยนแปลง ชอบทำงานแบบ Routine ไม่เปิดใจเรียนรู้อะไรใหม่” หากคุณมีอาการลักษณะนี้อยู่ ผมว่าตอนนี้ถึงเวลาแล้วละครับ ที่คุณต้องพาตัวเองออกจากพื้นที่นี้ให้เร็วที่สุด ด้วยการมี Growth Mindset เพื่อก้าวสู่ประตูด่านต่อไปอย่าง Fear Zone
2. Fear Zone พื้นที่แห่งความกลัว บททดสอบแรกสำหรับการเติบโตของคุณ
หลังจากที่เรารวบรวมความกล้าในการพาตัวเองออกจาก Comfort Zone แล้วด่านต่อไปที่คุณจะต้องเจอนั่นก็คือพื้นที่แห่งความกลัว หรือ Fear Zone ซึ่งจะเข้ามาเป็นบททดสอบด่านแรกของคุณ
กล่าวคือตอนที่คุณอยู่ใน Comfort Zone เราทุกคนล้วนต้องใช้ความกล้า และ Growth Mindset ในการตั้งเป้าหมายว่าเราจะต้องเป็นคนใหม่ให้ได้นะ เราจะต้องเก่งขึ้น เราจะต้องพัฒนาตัวเองให้ได้มากกว่านี้ เราพร้อมที่จะเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ แล้ว หรือความรู้สึกอะไรก็ตามที่ได้พาตัวคุณออกจาก Comfort Zone สู่การเติบโต
คุณจะต้องพบเจอกับความรู้สึก “กลัว” เป็นอย่างแรก แต่อยากให้ทำความเข้าใจไว้ครับว่า ความรู้สึกกลัวที่เกิดขึ้นนี้ ไม่ใช่เรื่องผิดหรือแปลกอะไรเลย มันเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์อยู่แล้วเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นกับตัวเรา
มันก็เหมือนกับตอนสมัยเราทุกคนเด็ก ๆ ที่เราร้องไห้ไม่อยากไปโรงเรียนเพราะไม่อยากจากอ้อมอกของพ่อแม่ที่เปรียบเหมือน Comfort Zone ของชีวิตเรานั่นแหละครับ แต่หลังจากที่เวลาผ่านไปเราเริ่มโตขึ้น เราก็จะค่อย ๆ ปรับตัวได้ตามลำดับ
กลับมาสู่ปัจจุบันทุกครั้งที่คุณจะได้เริ่มเรียนรู้อะไรใหม่ หรือได้รับมอบหมายงานในหน้าที่ใหม่ ที่คุณไม่เคยทำมาก่อน เชื่อว่าส่วนใหญ่ก็จะมีอาการวิตกกังวล ไม่มั่นใจในตัวเอง กลัวว่าตัวเองจะทำไม่ได้ อ่อนไหวกับคำติของคนรอบข้าง จนสร้าง Mindset ด้านลบให้แก่ตัวเอง เช่น เราทำไม่ได้แน่ ๆ , ทำไปก็เท่านั้น นี่ไม่ใช่สิ่งที่เราชอบ , เราทำไม่เป็น หรือข้ออ้างอื่น ๆ ที่จะทำให้เรากลับไปอยู่ใน Comfort Zone อันแสนปลอดภัยของเรา
แต่คนที่มีและศึกษาเรื่อง Growth Mindset มาเป็นอย่างดี พวกเขาจะรับมือกับความรู้สึกนี้ได้อย่างสบาย ด้วยการปรับเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อสิ่งนั้น ๆ เช่น เราอาจจะเริ่มสร้างพลังบวกให้แก่ตนเอง ด้วยการลองอ่าน Case Study ของแต่ละคนที่ประสบความสำเร็จ เพื่อเติมเชื้อไฟให้ตัวเองให้กล้าที่จะลองอะไรใหม่ ๆ
จากนั้นอาจจะเริ่มลิสต์สิ่งคุณกลัวหรือไม่กล้าออกมาเป็นข้อ ๆ ค่อย ๆ จัดการไปทีละจุดอย่างใจเย็นและอดทน อันไหนที่ไม่ได้จริง ๆ ก็ลองปรึกษาเพื่อนร่วมงานหรือผู้มีประสบการณ์ด้านนั้นโดยตรง เก็บเอาคำติชม มาเป็นบทเรียนก็ถือเป็นวิธีที่ทำให้เรามีความกล้าที่จะลองอะไรใหม่ ๆ มากขึ้นครับ (เป็นวิธีที่ผมลองแล้วได้ผลนะ)
ซึ่งเมื่อคุณปรับทัศนคติ ลองเปิดใจและ “กล้า” ที่จะเริ่มทำอะไรใหม่ ๆ แล้ว ยินดีด้วยครับ เพราะคุณกำลังก้าวเท้าออกจาก “Fear Zone พื้นที่แห่งความกลัว” เพื่อมุ่งหน้าไปสู่ประตูบานต่อไป ที่มีชื่อว่า “Learning Zone”
3. Learning Zone พื้นที่แห่งการเรียนรู้ กับความท้าทายที่จะเปลี่ยนคุณสู่คนใหม่
หลังจากที่คุณมี Growth Mindset ที่แข็งแกร่งพอที่จะดันตัวเองให้ออกจาก Fear Zone แล้วด่านต่อไปที่คุณจะต้องเจอนั่นก็คือ Learning Zone หรือพื้นที่แห่งการเรียนรู้ ซึ่งเป็นเหมือนพื้นที่ที่จะเริ่มทำให้คุณได้พัฒนาตัวเองอย่างเต็มรูปแบบ
ใน Learning Zone นี้เองคุณจะได้เริ่มเจอกับการเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ พบเจอกับความท้าทายที่จะทำให้เราได้พัฒนาทักษะใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา แต่ก็จะต้องมีของแถมอย่าง “ปัญหา” ตามมาด้วยทุกครั้งไป ซึ่งคำว่า “ปัญหา” นี่แหละที่จะเข้ามาเป็นมารร้าย คอยก่อกวนคุณในโซนนี้
แน่นอน เมื่อคุณเจอกับปัญหาสิ่งที่จะตามมานั่นก็คือความล้มเหลว ที่รู้สึกว่าทำเท่าไรก็ไม่เป็นดั่งที่หวังไว้ ทำเท่าไรก็ไม่สำเร็จสักที เราก็จะเริ่มรู้สึกถอดใจ ยอมรับกับความล้มเหลวของตัวเอง จนถอดใจและกลับไปอยู่ใน Comfort Zone อีกครั้ง ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องดีเลยถูกไหมครับ
แนะนำว่าอันดับแรกเราควรเริ่มปรับ Mindset ของเราก่อนเลยครับ จากที่เรามองว่า “ความผิดหวังหรือความล้มเหลวคือสิ่งที่ฟ้องว่าเราไม่ประสบความสำเร็จ” ให้คุณลองเปลี่ยนมุมมองเป็น “ความผิดหวังหรือความล้มเหลวต่างหาก ที่เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จ” สิ่งเหล่านั้นคือความท้าทาย ที่จะทำให้คุณพัฒนาตัวเองได้เร็วขึ้น
แม้ต้องเจอกับความท้าทายมากมายแต่ถ้าเรามองให้เป็นเรื่องสนุก สนุกไปกับงาน สนุกกับการแก้ปัญหา สนุกกับการสร้างความสำเร็จ คุณก็จะรับมือกับความผิดหวังได้เสมอและเห็นว่าการเรียนรู้คือเรื่องสนุกของชีวิตไปโดยปริยาย
หรือต่อให้คุณต้องเผชิญกับความผิดหวังหรือล้มเหลว ก็ขอให้คุณล้มแล้วลุกให้เร็ว และก้าวเดินต่อไปให้เร็ว(เป็นพื้นฐานของ Growth Mindset ด้วย) เพราะเมื่อใดที่คุณจมอยู่กับความล้มเหลวเป็นเวลานานเกินไป จะยิ่งทำให้คุณไม่กล้าแม้แต่ที่จะเริ่มพัฒนาตัวเองอีกครั้ง
หากคุณมี Growth Mindset ที่แข็งแกร่งพอในพื้นที่ Learning Zone นี่แหละที่จะะทำให้คุณได้พัฒนาตัวเองอย่างสุดขีด ผ่านการเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ อยู่เสมอ อาจเป็นทักษะใหม่ หน้าที่ใหม่ กระบวนการทำงานที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ ที่จะหล่อหลอมให้คุณต้องไม่อยู่กับที่และพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา เช่น การหาความรู้เพิ่มเติม อ่านบทความ ถามผู้มีประสบการณ์ ลงเรียนคอร์สออนไลน์ หรือเอาความผิดพลาดมาเป็นบทเรียนสอนเราให้เราพัฒนาตัวเองก็ได้เช่นกันครับ
สุดท้ายเมื่อเราสนุกกับการพัฒนาตัวเองและเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่ตลอดแล้ว Learning Zone แห่งนี้จะกลายเป็น New Comfort Zone ของคุณไปทันที และคุณจะได้พบว่าจริง ๆ แล้วตัวคุณเองสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่เราคิดไว้ตั้งเยอะ ต่อไปนี้จะเป็นความท้าทายแบบไหนก็เข้ามาได้เลย (เพราะเรามีภูมิคุ้มกันอย่างดีแล้ว)
4. Growth Zone พื้นที่แห่งการเติบโต เส้นชัยอันสวยงาม เมื่อคุณกล้าที่จะออกจาก Comfort Zone
มาถึงโซนสุดท้ายกันแล้วนั่นก็คือ Growth Zone หรือ “พื้นที่เพื่อการเติบโต” ปลายสายรุ้งอันสวยงาม จุดมุ่งหมายที่ผู้ที่รักในการเติบโตทุกคนอยากจะไปสัมผัสสักครั้งหนึ่ง
หลังจากที่เรากลายเป็นคนที่รักการเรียนรู้ รักในการพัฒนาตัวเองมาใน Learning Zone เรียบร้อยแล้ว ใน Growth Zone นี้เราจะเริ่มรู้ตัวเองแล้วว่า เป้าหมายที่เราอยากจะไปถึงคืออะไร เต็มเปี่ยมไปด้วย Self Esteem ชอบพาตัวเองไปอยู่ท่ามกลางคนเก่ง ๆ จนเราจะเริ่มรู้ถึงคุณค่าของความสำเร็จว่ามันหอมหวานอย่างบอกไม่ถูก
หลังจากนั้น คุณจะเริ่มสนุกกับทุกการเรียนรู้ จนคุณเป็นคนกระหายการพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา และจะใช้เวลาศึกษาไม่นานด้วย เพราะคุณมี Mindeset ที่พร้อมเปิดรับอะไรใหม่ ๆ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าคุณจะต้องเจอกับเรื่องท้าทายมากแค่ไหน คุณก็จะไม่มีความรู้สึกด้านลบกับมันเลยแม้แต่น้อย แต่จะมองว่าทั้งหมดก็คือสิ่งที่จะทำให้เราเติบโตไปได้ในอนาคต
ที่สำคัญใครที่มาอยู่ใน Growth Zone แล้วคุณจะเริ่มมีการตั้งเป้าหมายให้ตัวเองบ่อยครั้งขึ้น เพื่อหาทางทำให้ตัวเราเองเติบโตอยู่เสมอ และเป็นเหมือนแรงกระตุ้นที่จะทำให้คุณเดินไปข้างหน้าอย่างมีจุดมุ่งหมายอีกด้วย แล้วเชื่อเถอะครับว่าถ้าคุณพาตัวเองมาอยู่ในจุดที่เรียกว่า Growth Zone แห่งนี้ได้แล้ว คุณจะไม่มีทางได้กลับไปอยู่ใน Fear Zone หรือ Comfort Zone อีกแน่นอน
ถึงตรงนี้ ผมเชื่อว่าทุกคนน่าจะเห็นถึงความสวยงามของ Growth Zone กันบ้างแล้วใช่ไหมครับว่ามีความสำคัญและจะส่งผลดีอย่างไรต่อตัวเราบ้าง
4 ขั้นตอนพาตัวเองออกจาก Comfort Zone สู่ Growth Zone อย่างรวดเร็ว ฉบับ The Growth Master
ผมเชื่อว่าใครหลายคนที่กำลังอ่านบทความนี้อยู่ และเริ่มรู้สึกตัวว่า “เราเองมีอาการเหมือนอยู่ใน Comfort Zone เลย” ถ้าใครที่เริ่มรู้ตัวจริง ๆ และอยากพาตัวเองออกจาก Comfort Zone ให้ได้เร็วที่สุด เรามีขั้นตอนในการ “เริ่ม” สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับตัวเองมาฝากกันครับ
ขั้นตอนที่ 1 : เปลี่ยนทัศนคติหรือเริ่มสร้าง Growth Mindset ตั้งแต่ตอนนี้
หากคุณอยากจะก้าวเท้าออกมานอก Comfort Zone จริง ๆ สิ่งแรกที่คุณควรต้องทำ (ตั้งแต่ตอนนี้เลย) คือการเริ่มเปลี่ยน Mindset ของตัวเอง ให้มีความเป็น Growth Mindset มากขึ้นคุณอาจจะลองพาตัวเองไปอยู่ในสถานที่ใหม่ ๆ ที่มีแต่คนที่มีพลังบวก เพื่อเริ่มสร้างภูมิคุ้มกันเกราะแรกให้ตนเอง
จากนั้นก็ลองหาหนังสือหรือบทความที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตัวเองอ่านดู ช่วงแรกก็อาจจะค่อย ๆ ไปก่อนก็ได้ เพราะการกดดันตัวเองหรือเร่งรีบทำอะไรให้เสร็จ ตอนจบมันจะไม่ประสบความสำเร็จเท่าไรหรอกครับ หลังจากนั้น เมื่อเราเริ่มรู้แล้วว่า การที่อยู่ใน Comfort Zone ไปเรื่อย ๆ อนาคตจะเป็นอย่างไร หรือการกล้าออกมาจาก Comfort Zone เราจะได้พบกับอะไร เมื่อนั้นสมองและจิตใจของคุณ ก็จะส่งสัญญาณให้ตัวคุณเริ่มกล้าที่จะพัฒนาตัวเองทันที
ตัวอย่างบทความคุณภาพที่เราอยากแนะนำให้คุณอ่าน ถ้าต้องการเริ่มสร้าง Growth Mindset ตั้งแต่ตอนนี้
เปลี่ยนตัวเองใน 5 นาทีด้วย Growth Mindset
5 สัญญาณความคิดอันตราย ที่อาจเป็นมารร้ายขัดขวางคุณจากการเติบโต
Entrepreneurial Mindset พัฒนาแนวคิดให้เติบโตแบบผู้ประกอบการ
ตั้งเป้าหมายอย่างไรให้เป็นคนใหม่ในปี 2021 (จากประสบการณ์บันทึกทุกวันกว่า 4 ปี)
ขั้นตอนที่ 2 : รวบรวมความกล้าที่จะลองในสิ่งที่ไม่ถนัด ไม่อยากทำ
ไม่มีการเริ่มต้นครั้งไหน ที่เป็นเรื่องง่ายดาย การที่เราจะกล้าพาตัวเองออกจาก Comfort Zone ต้องอาศัยความกล้าพอสมควร แต่ถ้าคุณไม่เริ่มมัน คุณก็จะติดอยู่ในไปอีกนาน เพราะฉะนั้น “กล้า” ที่จะเจอกับความท้าทายใหม่ ๆ ซะตั้งแต่ตอนนี้ดีกว่า
ซึ่งเมื่อคุณกล้าที่จะลองแล้ว แน่นอนว่าการที่เราต้องทำบางสิ่ง ที่เราไม่ชอบ ไม่ได้คุ้นเคยกับมันนั้น จะสร้างความรู้สึกด้านลบให้คุณอยู่แล้ว แต่อย่าลืมว่าความรู้สึกนั้น มันก็เป็นเพียงแค่สิ่งที่คุณสร้างขึ้นมาเท่านั้น ถ้าเราไม่เปิดใจเริ่มอะไรใหม่ ๆ เราก็จะไม่มีทางได้พัฒนาตัวเองไปไกลมากกว่านี้เลย พยายามมั่นใจในตัวเอง ท่องไว้ในหัวเสมอว่า “เราทำได้ เราทำได้” โดยไม่ต้องสนใจอะไรผลกระทบทั้งนั้น
เชื่อเถอะครับว่าการปลุกใจตัวเองแบบนี้ ผลลัพธ์ที่คุณจะได้ คุณจะไม่มีทางเสียใจกับมันแน่นอน
ขั้นตอนที่ 3 : “อดทนกับปัญหาที่เข้ามา” เพื่อเป้าหมายที่อยู่ข้างหน้า
บ่อยครั้งที่การก้าวเท้าออกมาจาก Comfort Zone และเริ่มเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ ของคุณมักจะต้องพบเจอกับปัญหา (เป็นเรื่องธรรมดา) คนที่ถอดใจ ไม่สู้กับปัญหานั้น ๆ ก็จะยอมเดินกลับไปยัง Comfort Zone พร้อมได้ของแถมเป็นความล้มเหลว ที่คอยเกาะไม่ให้คุณกล้าออกมาจาก Comfort Zone ไปอีกสักระยะ
คนที่จะผ่านไปสู่ Growth Zone ได้คุณจะต้องมีความ “อดทน” ที่จะไม่ย่อท้อต่อปัญหาที่เข้ามา ลองสู้กับมันสักครั้ง ไม่มีปัญหาใดที่มันจะอยู่กับเราตลอดไป (เป็นคำที่ผมท่องไว้บ่อยมาก) เมื่อมันเข้ามาหาเราได้ มันก็ต้องออกไปจากเราได้
ในช่วงแรกมันอาจจะเป็นเวลาที่ยากลำบากของทุกคน ที่กำลังจะออกมาจาก Comfort Zone หรือก้ำกึ่งอยู่ในช่วง Fear Zone แต่ถ้าเราอดทน ยอมรับ และเต็มใจที่จะเผชิญหน้ากับปัญหา ต่อไปในอนาคตคุณก็จะภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่ง เวลาเจอกับปัญหา ซึ่งสิ่งเหล่านี้แหละครับจะคอยหล่อหลอมให้คุณไปสู่ Growth Zone หรือเป้าหมายที่คุณตั้งไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพแน่นอน
ขั้นตอนที่ 4 : คิดไว้เสมอว่าตัวเราเองก็มีดีไม่แพ้คนอื่น และจงภูมิใจกับการเป็นตัวเราในทุกวัน
อีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่ทำให้เราไม่กล้าออกมาจาก Comfort Zone นั่นก็คือเรื่องของ “Self Esteem” หรือคุณค่าของตัวเอง ผู้ที่จมอยู่ใน Comfort Zone จะยึดติดกับความไม่มั่นใจในตัวเอง (เราทำไม่ได้หรอก เราไม่เก่ง เราไม่ได้เรียนมาด้านนี้ เราไม่เคยทำงานแบบนี้มาก่อน)
วิธีขจัดความรู้สึกนี้ คือจงเห็นค่าของตัวเองครับ ขจัดความคิดด้านลบแบบนั้นออกไปก่อน แล้วพยายามมองหาข้อดีของตัวเราให้เจอ งัดมันออกมาเป็นจุดแข็งของเรา คนอื่นทำได้ แล้วทำไมเราจะทำไม่ได้ ไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่กำเนิด ทุกคนล้วนผ่านช่วงเวลาที่ต้องฝึกฝนทักษะต่าง ๆ กันมาทั้งนั้น แล้วทำไมเราจะเป็นหนึ่งในนั้นไม่ได้ วิธีคิดแบบนี้แหละครับที่จะทำให้คุณเห็นค่าในตัวเองมากขึ้น จนนำไปสู่การพาตัวเองออกจาก Comfort Zone
และท้ายที่สุด จงภูมิใจกับการเป็นคุณในทุกวัน อย่าเอาตัวเองไปเปรียบกับคนอื่นจนกลายเป็นการดับไฟที่อยู่ในจิตใจ ทุกคนมีดีในแบบของตนเอง เพราะฉะนั้นการที่เป็นเรา ที่กล้าจะออกมาเจอกับความท้าทายใหม่ ๆ นอก Comfort Zone คือสิ่งที่น่าภูมิใจที่สุดของชีวิตแล้ว
TIPS : แนะนำตัวช่วยในการให้คุณเห็นคุณค่า เห็นพัฒนาการของตัวเอง ผ่านการใช้สมุดแพลนเนอร์ คอยจดบันทึกเรื่องที่ต้อง และเรื่องที่ต้องโฟกัสทุกวัน อย่าง The Growth Planner สมุดแพลนเนอร์จาก The Growth Master ที่จะช่วยทำให้คุณตั้งเป้าหมายในชีวิตคุณสามารถทำได้ทุกวัน เห็นผลทุกเดือน วิเคราะห์ได้ทั้งปี ให้การวางเป้าหมายของคุณทำได้สนุกและมีประสิทธิภาพกว่าเดิม ในราคา 990 บาท ส่งฟรี (ขอบอกว่ามีจำนวนจำกัดนะ) กดที่รูปด้านล่างเพื่อดูรายละเอียดได้เลย
สรุปทั้งหมด
จากทั้งหมดของบทความ คุณจะเห็นได้เลยว่าการที่เราจะเริ่มก้าวเท้าเพื่อไปสู่ Growth Zone นั้นจะต้องใช้
Growth Mindset ที่แข็งแกร่งและต้องใช้ความพยายาม , ความตั้งใจ บวกกับการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนเพื่อที่จะพัฒนาตัวเองไปยัง Growth Zone
การที่เราเริ่มตัดสินใจออกจาก Comfort Zone เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น ถนนที่จะพาคุณไปสู่ Growth Zone คุณจะต้องพบเจอกับอุปสรรค ความท้าทายอีกมากมาย ขอเพียงแค่คุณอย่าหยุดที่จะพัฒนาตัวเอง เชื่อมั่นในตัวเองให้เยอะเข้าไว้ มองความท้าทายให้เป็นเรื่องสนุก เพียงเท่านี้ผมเชื่อว่าทุกคนก็จะไปถึง ปลายสายรุ้งอย่าง Growth Zone ได้เหมือนกัน
และเมื่อวันที่คุณเป็นคนใหม่ที่อยู่ใน Growth Zone แล้ว ถ้ามองย้อนกลับมาในวันที่คุณกำลังตัดสินใจจะออกจาก Comfort Zone เชื่อเถอะครับว่าคุณจะพูดกับตัวเองทันทีว่า “เราตัดสินใจถูกแล้วล่ะ”