หากจะให้พูดถึงอีกหนึ่งเครื่องมือสำหรับการสื่อสารในรูปแบบ Online Video Conference ที่โด่งดังขึ้นมาจากช่วง Covid-19 ในปีนี้นอกจาก Zoom หรือ Google Meet แล้วเชื่อว่าหลายคนน่าจะต้องนึกถึง (หรืออาจจะใช้งานอยู่) คงหนีไม่พ้น Microsoft Teams
โดย Microsoft Teams นั้นถือเป็นแพลตฟอร์มด้านการสื่อสารออนไลน์ สำหรับทีมแบบครบวงจรที่มีทั้งฟีเจอร์วิดีโอคอล แชท และพื้นที่แบ่งปันข้อมูลในส่วนกลาง นอกจากนั้นยังสามารถเชื่อมต่อกับโปรแกรมอื่น ๆ ที่อยู่ในเครือ Mircosoft ได้ด้วย
ซึ่งในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ก็เรียกได้ว่า Microsoft Teams เริ่มเคลื่อนไหวแล้วหลังจากปล่อยให้แพลตฟอร์มคู่แข่งคิดค้นฟีเจอร์ใหม่ออกมามากมาย คราวนี้ก็ถึงตาของพวกเขาบ้างแล้วด้วยการเพิ่มฟีเจอร์แบบจัดเต็มนำโดย การเริ่มใช้งานได้ในระบบ CarPlay , บันทึกการประชุมลงระบบคลาวด์อัตโนมัติ , ปรับหน้า UI ของแพลตฟอร์มและอื่น ๆ อีกเพียบ
แต่รายละเอียดทั้งหมดของฟีเจอร์ใหม่ที่ Microsoft Teams เพิ่มขึ้นมานั้นจะมีอะไรบ้าง ไปติดตามต่อได้ในบทความครับ
ฟีเจอร์ใหม่ที่ Microsoft Teams เพิ่มขึ้นมาในครั้งนี้มีอะไรบ้าง ?
ไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ทาง Microsoft ที่ถือเป็นเจ้าของ Microsoft Teams ก็ได้ออกมาประกาศถึงฟีเจอร์ใหม่ที่กำลังจะปล่อยออกมาให้ได้ใช้งานกันในปี 2021 ที่จะมาถึงนี้รวมทั้งหมด 5 รายการ ได้แก่
1. บันทึกการประชุมลงบนระบบ Cloud
เพราะข้อดีของการประชุมแบบ Online Video Conference นอกจากจะสะดวกสบาย ประชุมได้จากทุกที่แล้ว ยังสามารถบันทึกการสนทนาได้อย่างง่ายดาย Microsoft Team เล็งเห็นถึงความสำคัญส่วนนี้ครับ ก็เลยออกฟีเจอร์ที่อนุญาตให้ Admin ของการประชุมในครั้งนั้นสามารถบันทึกการประชุมและเก็บไว้ใน ระบบ Cloud ในเครือ Microsoft อย่าง Onedrive และ Sharepoint ได้เลย
กล่าวคือจากแต่เดิมถ้าใครได้ใช้ Microsoft Teams ในการบันทึกการประชุมแต่ละครั้ง ไฟล์วิดีโอหรือไฟล์เสียงจะไปถูกบันทึกและอนุญาตให้เล่นได้ใน Microsoft Stream ซึ่งคุณจะไม่สามารถส่งไฟล์วิดีโอการประชุมนั้นไปให้คนนอกทีมหรือคนนอกองค์กรได้
แต่หลังจากที่เปลี่ยนมาให้บันทึกไฟล์การประชุมลงไปใน Onedrive และ Sharepoint การส่งนั้นก็จะทำได้ง่ายขึ้นมากและสามารถส่งให้ได้กับทุกคน เพียง Forward Url ให้กับคนที่คุณต้องการ (หลักการเดียวกันกับเราส่งไฟล์ Google Drive) แค่เท่านั้นเลยครับ
2. รองรับการใช้งานบนรถยนต์ด้วยระบบ Carplay
ถือเป็นฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรซ์ให้ใครหลายคน เพราะ Microsoft Teams กำลังจะให้คุณใช้งานได้แม้คุณกำลังขับรถ ด้วยระบบ Apple CarPlay (สำหรับรถยนต์ที่รองรับระบบ Carplay เท่านั้นนะครับ)
ซึ่งข้อดีของการใช้งาน Microsoft Teams ผ่านระบบ Apple CarPlay นั้นนอกจากเรื่องของความสะดวกที่ทำให้คุณประชุมงานได้ทุกที่แม้ตอนขับรถ ยังสามารถให้ผู้ใช้งานสามารถเรียกใช้และออกคำสั่งต่าง ๆ ในแพลตฟอร์มด้วยการสั่งงานผ่าน Siri เหมือนแอปพลิเคชันตัวอื่น ๆ ที่รองรับระบบ Apple Carplay
ทั้งนี้ส่วนของฝั่ง Android อาจจะต้องรอต่อไปนะครับ เพราะทาง Microsoft ยังไม่ได้ระบุว่าจะเพิ่มฟีเจอร์นี้ลงมาในส่วนของรถยนต์ที่มีระบบ Alexa หรือ Andriod Auto เมื่อไร แต่ถ้าใครที่เป็นสาวก Apple และใช้ Microsoft Teams อยู่ในปีหน้าก็เตรียมซ้อมคุยกับ Siri ก่อนได้เลยครับ
3. Low Data Mode
อย่างที่ทราบกันดีว่าการประชุมแบบออนไลน์ ผ่านการใช้แพลตฟอร์มจำพวก Video Conference แบบนี้ทำให้คุณสามารถสื่อสารกับทีมได้ทุกที่ ทุกเวลา แต่ก็ไม่ใช่ว่า “ทุกที่” จะอำนวยความสะดวกในการสื่อสารให้กับคุณได้
คุณอาจต้องมีการคุยงานสำคัญกับทีมในวันที่ต้องออกนอกสถานที่บ่อย ๆ เช่น คุณอาจต้องประชุมในวันที่ WiFi ของคาเฟ่ช้า หรือคุณอาจจะอยู่ในสถานที่ที่ไม่มีสัญญาณแบบ Cellular (สัญญาณโทรศัพท์) ซึ่งนั่นทำให้การสื่อสารระหว่างคุณกับทีมหรือลูกค้า อาจต้องติดขัดจากสัญญาณที่ไม่ดี
เมื่อเกิดสถานการณ์เหล่านั้นบ่อยขึ้น ย่อมสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ไม่ดีให้กับผู้ใช้ทุกคนแน่นอน และอาจส่งผลเสียต่องานหรือองค์กรได้ ทาง Microsoft Teams จึงได้แก้ปัญหาด้วยการเปิดตัวฟีเจอร์ Low Data Mode หรือโหมดประหยัดข้อมูล ที่จะทำให้โปรแกรมส่งข้อมูลจำพวก Bandwidth ออกไปอย่างจำกัด (ส่งไปเฉพาะเสียง+ภาพที่กำลังสื่อสารเท่านั้น) ทำให้ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตเยอะ
เรียกว่าสำหรับใครที่ต้องออกประชุมนอกสถานที่บ่อย ๆ น่าจะถูกใจฟีเจอร์นี้กันไม่น้อย โดยฟีเจอร์ Low Data Mode นี้จะเริ่มเปิดให้ใช้งานได้ในช่วงประมาณเดือนมีนาคม 2021
4. เปลี่ยนหน้า UI ของฟีเจอร์ Calling ให้มีลูกเล่นมากขึ้น
Microsoft Teams ยังเริ่มเปลี่ยนรูปแบบของการแสดงผล (UI) ให้มีลูกเล่นมากขึ้นเริ่มตั้งแต่ปรับการแสดงผลหน้าจอโทรศัพท์ หรือฟังก์ชันการโทรบน Microsoft Teams โดยหน้าต่างของฟีเจอร์นี้ จะเพิ่มการแสดงรายชื่อผู้ติดต่อ (User Details) รวมถึงการปรับหน้าประวัติการโทร ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น
และอีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงก็คือเมื่อมีการโทรเข้าแบบสแปมจากผู้ใช้อื่น ๆ โปรแกรมจะแจ้งเตือนเราได้ทันทีว่าเป็นการโทรสแปม ซึ่งผู้ใช้จะกดรับหรือไม่รับสายก็ได้ นอกจากนั้นกดเข้าไปดูได้ทันทีว่าใครคือคนกดโทรเข้ามา
5. โอนสายและรวมสายระหว่างมือถือและเดสก์ทอป
ในช่วงต้นปี 2021 ที่กำลังจะถึง Microsoft Teams จะเพิ่มอีกหนึ่งฟีเจอร์น่าสนใจนั่นก็คือ การโอนสายระหว่างโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ เช่น เราเริ่มต้นรับสายที่โทรศัพท์และโอนสายไปยัง Mac เพื่อสนทนาแบบวิดีโอบนหน้าจอที่ใหญ่ได้เลย ผ่านการกดปุ่มเพียงไม่กี่ครั้ง นอกจากนั้นยังสามารถรวมสายสนทนากันได้อีกด้วย เมื่อมีคนโทรเข้ามาซ้อนกัน
เรียกว่าเป็นการดึงตัวเอาฟีเจอร์จุดขายของ Mircosoft Teams อย่างฟีเจอร์ Call (โทรศัพท์จริง) เอามาพัฒนาต่อได้เป็นอย่างดี
สรุปทั้งหมด
ฟีเจอร์ทั้งหมดที่ Microsoft Teams ได้ปล่อยออกมานั้น บางส่วนก็เริ่มปรับเปลี่ยนให้ใช้ได้แล้ว แต่คาดว่าจะใช้งานได้อย่างเต็มระบบช่วงต้นปีหน้า (2021) สำหรับใครที่ใช้ Microsoft Teams ในการทำงานอยู่แล้ว ผมหวังว่าคุณจะได้ประโยชน์จากบทความนี้นะครับ
เพราะปัจจุบันสถานการณ์โควิด-19 ทั้งไทยและต่างประเทศยังไม่มีวี่แววคลี่คลายลง (เริ่มมีการเคลื่อนไหวในไทยอีกแล้ว) ทำให้แพลตฟอร์ม Online Video Conference แบบ Microsoft Teams และอื่นๆ ก็ยังคงจำเป็นต่อการทำงานและองค์กรในปีหน้าอย่างแน่นอน
ยังไงช่วงนี้ไปไหนมาไหน อย่าลืมใส่หน้ากากอนามัย รักษาระยะห่างทางสังคมเพื่อสุขภาพที่ดีของตัวคุณด้วยนะครับ STAY SAFE!