Services
Services
Performance MarketingContent Led GrowthLaunchpad WebsiteBranding
PORTFOLIO
Let's Talk
Services
Performance MarketingContent Led GrowthLaunchpad WebsiteBranding
Services
Portfolio
Let's Talk
คุยกับเรา
Thank you! Your submission has been received!
Oops! Something went wrong while submitting the form.

Growth Update

Facebook เผย 5 เทคนิคสร้าง Brand Awareness ต้อนรับปี 2021 อย่างแข็งแกร่ง

แบรนด์ต้องรู้! Facebook เปิดเผย 5 เทคนิคสร้าง Brand Awareness ต้อนรับปี 2021 เพื่อให้ผู้ประกอบการและนักการตลาดได้ทำความเข้าใจการสร้าง Brand Awareness ที่เหมาะสมกับแพลตฟอร์ม
By
Pea Tanachote
November 10, 2020
Light
Dark
ส่งต่อเรื่องราวดีๆ

เมื่อธุรกิจทุกภาคส่วนต่างหันหน้าเข้าหาความเป็นออนไลน์มากขึ้นอันเนื่องมาจากวิกฤตของไวรัส Covid-19 ที่ฉุดให้การดำเนินธุรกิจออนไลน์คือทางรอดของการทำธุรกิจผ่านสถานการณ์ลำบากในปีนี้

และทันทีที่ธุรกิจส่วนใหญ่เริ่มเข้ามาสู่สังเวียนออนไลน์ การแข่งขันของแต่ละแบรนด์แน่นอนว่าก็จะยิ่งทวีความดุเดือดขึ้นเช่นกัน ทำให้เรื่องของการสร้างแบรนด์ให้โดดเด่นและเป็นที่จดจำคือโอกาสที่จะทำให้คุณกุมความได้เปรียบในการแข่งขันครั้งนี้

ในฝั่งของผู้ประกอบการหรือนักการตลาด นี่แหละคือความท้าทายครั้งใหญ่ที่จะวัดความรู้ของคุณ ว่าคุณสามารถสร้าง Brand Awareness ให้ลูกค้าจดจำธุรกิจของคุณได้หรือเปล่า แล้วที่ทำออกไปมันมีประสิทธิภาพพอสำหรับการแข่งขันของตลาดออนไลน์ในปี 2021 ที่กำลังจะมาถึงหรือเปล่า ?

ด้วยเหตุนี้เองทำให้ล่าสุด Facebook อีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่ทรงอิทธิพลด้านธุรกิจออนไลน์ ออกมาเปิดเผย 5 เทคนิคในการสร้าง (Strong) Brand Awareness เพื่อเตรียมความพร้อมให้เหล่าผู้ประกอบการและนักการตลาด วางกลยุทธ์การตลาดในช่วงเทศกาลที่กำลังจะมาถึงเช่น Black Friday, คริสต์มาสต์, ปีใหม่ ที่ถือว่าเป็นช่วงที่เศรษฐกิจจะคึกคักที่สุดในรอบปี

5 เทคนิคสร้าง Brand Awareness ต้อนรับปี 2021 อย่างแข็งแกร่งตามแบบฉบับ Facebook 

โดยเทคนิคสร้าง Brand Awareness ทั้ง 5 ที่ Facebook นำมาฝากกันในครั้งนี้จะครอบคลุมทั้งเรื่องของการสร้างตัวตนให้แบรนด์ ผ่านการใช้รูปภาพ, การเขียน Copywriting, การออกแบบผลิตภัณฑ์ และเรื่องการใช้โฆษณาจาก Facebook Ads เพื่อทำให้ธุรกิจของเราเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายคนอื่น ๆ

ซึ่งเทคนิคในการสร้าง Brand Awareness ตามแบบฉบับ Facebook มีรายละเอียดด้วยกันดังนี้ครับ

1. Give Your Brand A Voice - สร้าง “เสียง” ให้กับแบรนด์

Facebook แนะนำว่าอันดับแรกนักการตลาดต้องเริ่มการสร้างตัวตนของแบรนด์และค้นหา “เสียง” ของแบรนด์ให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ทางธุรกิจและกลุ่มเป้าหมาย

แต่คำว่า “เสียง” ในที่นี้ไม่ได้หมายความถึงเสียงพูดหรือเสียงคุยอะไรนะครับ ความหมายของเสียงในที่นี้ก็คือเอกลักษณ์, คาแรคเตอร์ ที่จะใช้ในการสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าของแบรนด์คุณ (บางคนอาจจะคุ้นเคยกับคำว่า Brand Voice)

- Brand Voice คือ ลักษณะเฉพาะของการสื่อสารในแต่ละแบรนด์ เป็นการแสดงออกที่สื่อถึงข้อความที่จะสื่อสาร (Message) คุณค่า อารมณ์และบุคลิกของแบรนด์ ผ่านการใช้คำและรูปแบบการนำเสนอ ถือว่าเป็นหลักการสร้าง Brand Awareness ที่มีนานแล้วในการทำการตลาด แต่ก็ยังได้รับความนิยมทุกยุคสมัย

ยิ่งถ้าเป็นแพลตฟอร์มอย่าง Facebook หรือ Instagram ที่เป็นช่องทางที่ใช้คอนเทนต์เป็นการสื่อสาร การสร้างเอกลักษณ์ในการสื่อสารของแบรนด์ถือเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง 

ตัวอย่าง Diagram การหา Social Media Brand Voice ภาพจาก : pinterest

โดยแต่ละแบรนด์/สินค้าแต่ละอย่างก็จะมีวิธีการใช้ “เสียง” ในการสื่อสารที่แตกต่างกันออกไปซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับลักษณะของสินค้าที่คุณขาย เช่น ถ้าธุรกิจของคุณขายอะไหล่รถยนต์ การสื่อสารผ่าน Social Media ก็ควรให้ความรู้สึก เป็นมิตร (Friendly) , เชี่ยวชาญ (Expert) กับลูกค้ามากที่สุดเพราะถือเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของลูกค้า เป็นต้น


ภาพจาก medium

หลายแบรนด์ประสบความสำเร็จจากการสร้างคาแรคเตอร์ของการสื่อสารกับลูกค้าที่โดดเด่น Facebook แนะนำว่าสิ่งนี้อาจเป็นกุญแจที่สามารถสร้าง Brand Awareness และทำให้ “เสียง” ของคุณมีความสม่ำเสมอทุกแพลตฟอร์มคือสิ่งสำคั

2. Position Your Products - ภาพถ่ายสินค้าต้องดึงดูดพอ

ทั้ง Facebook และ Instagram ต่างก็เป็น Visual Platform หรือแพลตฟอร์มที่นำเสนอคอนเทนต์ผ่านสื่อรูปถ่าย, วิดีโอ ดังนั้นการที่แบรนด์สร้างคอนเทนต์บอกเล่าเรื่องราวของสินค้าด้วยการใช้ภาพถ่าย จึงเป็นวิธีที่เหมาะสมและสร้าง Brand Awareness ได้ดีบนแพลตฟอร์มที่สุด

โดยทาง Facebook ได้ออกมาบอกเทคนิคในการทำให้ภาพสินค้าน่าสนใจและดึงดูดลูกค้า ด้วยการ "วางผลิตภัณฑ์ไว้ตรงกลาง เพื่อให้ลูกค้ารู้ว่าคุณกำลังโฆษณาอะไร และต้องระบุข้อความที่เชื่อมโยงหรือทำให้ลูกค้ารู้ด้วยว่าแบรนด์ของคุณคือใคร”

ภาพจาก leadpages

ส่วนของวิดีโอเทคนิคก็คือ การสร้างวิดีโอให้อยู่ในรูปแบบแนวตั้ง (Vertical Video) จะสามารถดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้มากกว่าแนวอื่น ๆ และภายใน 4 วินาทีแรกคือ Golden Time ที่ลูกค้าจะให้ความสนใจมากที่สุด

สำหรับใครที่สนใจเรื่องการสร้างสรรค์ Facebook Video Content ให้ดึงดูดลูกค้า คุณสามารถกดเข้าไปอ่านบทความ  5 เทคนิคสร้างสรรค์ Facebook Video Content ให้ดึงดูดกลุ่มเป้าหมายเพิ่มมากขึ้น จาก The Growth Master ได้เลยครับ

3. Say It With Words - บอกให้ชัด!  อะไรคือ “คุณค่า” ของธุรกิจคุณ

หนึ่งเทคนิคสำคัญที่จะช่วยดึงดูดลูกค้าให้มาสนใจในธุรกิจของคุณ นั่นก็คือการหาจุดเด่นหรือจุดแตกต่าง ที่ธุรกิจคุณโดดเด่นกว่าคู่แข่งเจ้าอื่นในตลาด และใส่มันลงไปในคำโฆษณา (Copywriting Text)  เพราะในการแข่งขันยุคปัจจุบันแค่มีภาพสินค้าสวย มันยังไม่เพียงพอ

Facebook แนะนำว่าแบรนด์หากต้องการสร้าง Awareness ให้กับลูกค้าคุณควรต้องเพิ่มคุณค่า ด้วยการอธิบายว่าเหตุใดลูกค้าถึงต้องซื้อสินค้า/บริการของคุณ คุณแตกต่างกว่าคนอื่นอย่างไร, ลูกค้าจะได้รับประโยชน์หรือคุณค่าอะไร จากการซื้อสินค้า/บริการของคุณ

นอกจากนั้นคุณยังสามารถแทรกข้อความหรือสโลแกนของแบรนด์ลงใน Copy Ads ของคุณได้อีกด้วย เพื่อสร้างการจดจำที่ง่ายขึ้นให้กับกลุ่มลูกค้าของคุณ

คุณสามารถนำเทคนิคการใช้รูปที่ดึงดูดจากข้อที่แล้ว มาใช้ร่วมกับเทคนิคนี้ได้ ภาพจาก copyhackers

‍4. Create Branded Packaging - สินค้าแพ็กเกจสวยงาม ใคร ๆ ก็ชอบ

นอกจากการใส่ใจในเรื่องออนไลน์แล้ว Facebook ยังนำเสนอเทคนิคที่ครอบคลุมไปถึงจุดเริ่มต้นอย่างการออกแบบ Packaging ของสินค้า เพราะต่อให้คุณมีการทำการตลาดที่ดี แต่ถ้าสินค้ากลับไม่ดึงดูดกลุ่มลูกค้าเลย ทั้งหมดที่ทำมาก็จะไม่มีความหมายไปโดยปริยาย

Facebook แนะนำว่าการออกแบบ Packaging ที่สวยงามนั้นสามารถช่วยสร้างประสบการณ์ของลูกค้าที่ดีให้กับลูกค้าในการจดจำแบรนด์ของคุณได้ โดยเฉพาะช่วงสิ้นปีที่ใกล้จะมาถึงการทำ Package ให้ดูเหมือนของขวัญหรือใส่ความเป็นเทศกาลลงไป เช่นดีไซน์ Package ให้เข้ากับเทศกาลคริสต์มาส หรือแนบการ์ดอวยพรปีใหม่แถมไปในสินค้าด้วย ลูกค้าจะรู้สึกว่าเราใส่ใจพวกเขาและจดจำแบรนด์ของคุณได้อีกนาน

ตัวอย่างการดีไซน์ Packaging ให้เข้ากับเทศกาลช่วงสิ้นปีจาก Starbuck ภาพจาก starbucks

‍5. Spend Strategically - ใช้โฆษณาให้ตรงวัตถุประสงค์

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการทำโฆษณาใน Facebook นั้นสามารถสร้างการรับรู้แบรนด์ (ผ่าน Objective : Brand Awareness ในหน้า Facebook Ads) ให้แก่ธุรกิจของคุณได้ดีแค่ไหน แต่ถ้าคุณอยากจะทำให้แบรนด์ของคุณเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2021 การใช้ Objective แค่ Brand Awareness อาจจะวัดผลได้ไม่ดีพอ

Facebook จึงได้แนะนำเทคนิคในการใช้โฆษณาบนแพลตฟอร์มให้ตรงตามวัตถุประสงค์ของคุณ ผ่านตัวเลือก Objective ที่มีให้เลือกกว่า 10 แบบ เช่นถ้าแบรนด์ของคุณอยากทำให้ลูกค้าจากฝั่งออนไลน์ไปซื้อสินค้าที่หน้าร้าน การใช้ Objective แบบ Store Visits ก็สามารถช่วยเหลือคุณได้ 

ตัวเลือก Catalog Sales ก็เหมาะสำหรับแบรนด์ที่ต้องการเสนอขายสินค้าที่หลากหลาย และถ้าแบรนด์ของคุณมีช่องทางในการจำหน่ายสินค้าผ่านทาง E-Marketplace (เช่น Shopee, Lazada) ก็สามารถใช้รูปแบบการโฆษณา CPAS ที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มยอดขายให้คุณได้ (อ่านเรื่อง CPAS ทั้งหมดคลิกที่นี่)

ภาพจาก Primal 

หรือในกรณีที่คุณมีเว็บไซต์ คุณอาจจะลองใช้ตัวเลือกในการโฆษณาแบบ Retargeting เข้ามาช่วยเพื่อตามมัดใจผู้ที่เคยเข้ามายังเว็บไซต์คุณให้กลายเป็นลูกค้าของคุณในอนาคตก็สามารถทำได้และเป็นตัวเลือกที่ดี โดย Facebook เปิดเผยว่าการใช้โฆษณา Retargeting ด้วย Display Ads สามารถสร้าง Conversion ให้กับธุรกิจเพิ่มถึง 70% ด้วยกัน

ซึ่งการที่คุณเลือกวัตถุประสงค์การทำโฆษณา Facebook (หรือ Instagram) ให้ตรงกับเป้าหมายของธุรกิจของคุณ ประกอบกับการใช้เทคนิคอื่น ๆ ที่ได้นำเสนอไป มาคอยช่วยซัพพอร์ตกันก็จะทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จและเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2021 และอนาคตต่อไปได้นั่นเองครับ

สรุปทั้งหมด

ช่วงสรุปทิ้งท้ายนี้ทาง Facebook ก็ได้ทิ้งท้ายด้วยตัวอย่างที่ดีและ Tips การสร้าง ฺBrand Awareness ให้กับแบรนด์ต่าง ๆ มาฝากกันด้วย โดยรูปแรกคือตัวอย่างที่ดีในการทำลงคอนเทนต์สร้าง Brand Awareness บนช่องทาง Instagram

ภาพจาก facebook business 

และยังได้แนะนำ Tips ในการเขียน Ads Copywriting ที่เหมาะสำหรับการสร้าง Brand Awareness บนแพลตฟอร์มให้แก่เหล่าผู้ประกอบการทั้งหลายได้นำไปปรับใช้กับแบรนด์ได้อีกด้วย (มาในรูปแบบ Formula Diagram ตามรูป)

ภาพจาก facebook business

‍สุดท้ายสำหรับผู้ประกอบการหรือฝั่งแบรนด์ สิ่งที่กุญแจสำคัญสำหรับการสร้าง Brand Awareness ให้กับธุรกิจของคุณนั้น คุณควรต้องหาสิ่งที่ทำให้ตัวคุณโดดเด่นจากคู่แข่ง  พยายามโฟกัสไปที่เรื่องของการมอบ “คุณค่า” ให้แก่ลูกค้า (ซึ่งเป็นหลักการเดียวกันกับ Growth Marketing) 

วิธีเหล่านี้จะทำให้ธุรกิจของคุณสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างยั่งยืนในโลกออนไลน์ที่มีการแข่งขันกันอยู่ตลอดเวลา ขอให้ทุกคนโชคดีครับ!

Source : facebook business , socialmediatoday
ส่งต่อเรื่องราวดีๆ

คุณอาจจะชอบบทความนี้...

สรุปสถิติ Digital และ Social Media จาก We Are Social ที่นักการตลาดทุกคนต้องรู้ อัปเดตปี 2023
รวม 7 บทความการตลาดที่เราแนะนำให้คุณอ่านก่อนปี 2023

ไม่พลาดทุกข้อมูลที่ช่วยให้ธุรกิจคุณเติบโตได้เร็วยิ่งขึ้น

ติดตามได้หลากหลายช่องทางที่คุณสะดวก ไม่ว่าจะเป็น e-mail, line หรือ youtube
Subscribe

เราช่วยธุรกิจของคุณให้เติบโตอย่างยั่งยืนบนโลกดิจิทัลด้วยการใช้ศาสตร์ Growth, เครื่องมือด้านเทคโนโลยี, การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการสร้างทีม

Services
Growth AgencyDesign StudioSoftware ConsultingDigital TalentsOur Portfolio
Category
All ArticlesSoftware ReviewGrowth Trends
Company
We're HiringCommunityContact
ติดตามข้อมูลการตลาด
Growth Hacking ได้เลยทีนี่
มากกว่า 4,000 บริษัทติดตาม The Growth Master ตอนนี้
ไปที่หน้า Subscribe

© Copyright 2024 The Growth Master Company Limited All Rights Reserved