เมื่อธุรกิจทุกภาคส่วนต่างหันหน้าเข้าหาความเป็นออนไลน์มากขึ้นอันเนื่องมาจากวิกฤตของไวรัส Covid-19 ที่ฉุดให้การดำเนินธุรกิจออนไลน์คือทางรอดของการทำธุรกิจผ่านสถานการณ์ลำบากในปีนี้
และทันทีที่ธุรกิจส่วนใหญ่เริ่มเข้ามาสู่สังเวียนออนไลน์ การแข่งขันของแต่ละแบรนด์แน่นอนว่าก็จะยิ่งทวีความดุเดือดขึ้นเช่นกัน ทำให้เรื่องของการสร้างแบรนด์ให้โดดเด่นและเป็นที่จดจำคือโอกาสที่จะทำให้คุณกุมความได้เปรียบในการแข่งขันครั้งนี้
ในฝั่งของผู้ประกอบการหรือนักการตลาด นี่แหละคือความท้าทายครั้งใหญ่ที่จะวัดความรู้ของคุณ ว่าคุณสามารถสร้าง Brand Awareness ให้ลูกค้าจดจำธุรกิจของคุณได้หรือเปล่า แล้วที่ทำออกไปมันมีประสิทธิภาพพอสำหรับการแข่งขันของตลาดออนไลน์ในปี 2021 ที่กำลังจะมาถึงหรือเปล่า ?
ด้วยเหตุนี้เองทำให้ล่าสุด Facebook อีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่ทรงอิทธิพลด้านธุรกิจออนไลน์ ออกมาเปิดเผย 5 เทคนิคในการสร้าง (Strong) Brand Awareness เพื่อเตรียมความพร้อมให้เหล่าผู้ประกอบการและนักการตลาด วางกลยุทธ์การตลาดในช่วงเทศกาลที่กำลังจะมาถึงเช่น Black Friday, คริสต์มาสต์, ปีใหม่ ที่ถือว่าเป็นช่วงที่เศรษฐกิจจะคึกคักที่สุดในรอบปี
5 เทคนิคสร้าง Brand Awareness ต้อนรับปี 2021 อย่างแข็งแกร่งตามแบบฉบับ Facebook
โดยเทคนิคสร้าง Brand Awareness ทั้ง 5 ที่ Facebook นำมาฝากกันในครั้งนี้จะครอบคลุมทั้งเรื่องของการสร้างตัวตนให้แบรนด์ ผ่านการใช้รูปภาพ, การเขียน Copywriting, การออกแบบผลิตภัณฑ์ และเรื่องการใช้โฆษณาจาก Facebook Ads เพื่อทำให้ธุรกิจของเราเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายคนอื่น ๆ
ซึ่งเทคนิคในการสร้าง Brand Awareness ตามแบบฉบับ Facebook มีรายละเอียดด้วยกันดังนี้ครับ
1. Give Your Brand A Voice - สร้าง “เสียง” ให้กับแบรนด์
Facebook แนะนำว่าอันดับแรกนักการตลาดต้องเริ่มการสร้างตัวตนของแบรนด์และค้นหา “เสียง” ของแบรนด์ให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ทางธุรกิจและกลุ่มเป้าหมาย
แต่คำว่า “เสียง” ในที่นี้ไม่ได้หมายความถึงเสียงพูดหรือเสียงคุยอะไรนะครับ ความหมายของเสียงในที่นี้ก็คือเอกลักษณ์, คาแรคเตอร์ ที่จะใช้ในการสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าของแบรนด์คุณ (บางคนอาจจะคุ้นเคยกับคำว่า Brand Voice)
- Brand Voice คือ ลักษณะเฉพาะของการสื่อสารในแต่ละแบรนด์ เป็นการแสดงออกที่สื่อถึงข้อความที่จะสื่อสาร (Message) คุณค่า อารมณ์และบุคลิกของแบรนด์ ผ่านการใช้คำและรูปแบบการนำเสนอ ถือว่าเป็นหลักการสร้าง Brand Awareness ที่มีนานแล้วในการทำการตลาด แต่ก็ยังได้รับความนิยมทุกยุคสมัย
ยิ่งถ้าเป็นแพลตฟอร์มอย่าง Facebook หรือ Instagram ที่เป็นช่องทางที่ใช้คอนเทนต์เป็นการสื่อสาร การสร้างเอกลักษณ์ในการสื่อสารของแบรนด์ถือเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง
โดยแต่ละแบรนด์/สินค้าแต่ละอย่างก็จะมีวิธีการใช้ “เสียง” ในการสื่อสารที่แตกต่างกันออกไปซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับลักษณะของสินค้าที่คุณขาย เช่น ถ้าธุรกิจของคุณขายอะไหล่รถยนต์ การสื่อสารผ่าน Social Media ก็ควรให้ความรู้สึก เป็นมิตร (Friendly) , เชี่ยวชาญ (Expert) กับลูกค้ามากที่สุดเพราะถือเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของลูกค้า เป็นต้น
หลายแบรนด์ประสบความสำเร็จจากการสร้างคาแรคเตอร์ของการสื่อสารกับลูกค้าที่โดดเด่น Facebook แนะนำว่าสิ่งนี้อาจเป็นกุญแจที่สามารถสร้าง Brand Awareness และทำให้ “เสียง” ของคุณมีความสม่ำเสมอทุกแพลตฟอร์มคือสิ่งสำคั
2. Position Your Products - ภาพถ่ายสินค้าต้องดึงดูดพอ
ทั้ง Facebook และ Instagram ต่างก็เป็น Visual Platform หรือแพลตฟอร์มที่นำเสนอคอนเทนต์ผ่านสื่อรูปถ่าย, วิดีโอ ดังนั้นการที่แบรนด์สร้างคอนเทนต์บอกเล่าเรื่องราวของสินค้าด้วยการใช้ภาพถ่าย จึงเป็นวิธีที่เหมาะสมและสร้าง Brand Awareness ได้ดีบนแพลตฟอร์มที่สุด
โดยทาง Facebook ได้ออกมาบอกเทคนิคในการทำให้ภาพสินค้าน่าสนใจและดึงดูดลูกค้า ด้วยการ "วางผลิตภัณฑ์ไว้ตรงกลาง เพื่อให้ลูกค้ารู้ว่าคุณกำลังโฆษณาอะไร และต้องระบุข้อความที่เชื่อมโยงหรือทำให้ลูกค้ารู้ด้วยว่าแบรนด์ของคุณคือใคร”
ส่วนของวิดีโอเทคนิคก็คือ การสร้างวิดีโอให้อยู่ในรูปแบบแนวตั้ง (Vertical Video) จะสามารถดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้มากกว่าแนวอื่น ๆ และภายใน 4 วินาทีแรกคือ Golden Time ที่ลูกค้าจะให้ความสนใจมากที่สุด
สำหรับใครที่สนใจเรื่องการสร้างสรรค์ Facebook Video Content ให้ดึงดูดลูกค้า คุณสามารถกดเข้าไปอ่านบทความ 5 เทคนิคสร้างสรรค์ Facebook Video Content ให้ดึงดูดกลุ่มเป้าหมายเพิ่มมากขึ้น จาก The Growth Master ได้เลยครับ
3. Say It With Words - บอกให้ชัด! อะไรคือ “คุณค่า” ของธุรกิจคุณ
หนึ่งเทคนิคสำคัญที่จะช่วยดึงดูดลูกค้าให้มาสนใจในธุรกิจของคุณ นั่นก็คือการหาจุดเด่นหรือจุดแตกต่าง ที่ธุรกิจคุณโดดเด่นกว่าคู่แข่งเจ้าอื่นในตลาด และใส่มันลงไปในคำโฆษณา (Copywriting Text) เพราะในการแข่งขันยุคปัจจุบันแค่มีภาพสินค้าสวย มันยังไม่เพียงพอ
Facebook แนะนำว่าแบรนด์หากต้องการสร้าง Awareness ให้กับลูกค้าคุณควรต้องเพิ่มคุณค่า ด้วยการอธิบายว่าเหตุใดลูกค้าถึงต้องซื้อสินค้า/บริการของคุณ คุณแตกต่างกว่าคนอื่นอย่างไร, ลูกค้าจะได้รับประโยชน์หรือคุณค่าอะไร จากการซื้อสินค้า/บริการของคุณ
นอกจากนั้นคุณยังสามารถแทรกข้อความหรือสโลแกนของแบรนด์ลงใน Copy Ads ของคุณได้อีกด้วย เพื่อสร้างการจดจำที่ง่ายขึ้นให้กับกลุ่มลูกค้าของคุณ
4. Create Branded Packaging - สินค้าแพ็กเกจสวยงาม ใคร ๆ ก็ชอบ
นอกจากการใส่ใจในเรื่องออนไลน์แล้ว Facebook ยังนำเสนอเทคนิคที่ครอบคลุมไปถึงจุดเริ่มต้นอย่างการออกแบบ Packaging ของสินค้า เพราะต่อให้คุณมีการทำการตลาดที่ดี แต่ถ้าสินค้ากลับไม่ดึงดูดกลุ่มลูกค้าเลย ทั้งหมดที่ทำมาก็จะไม่มีความหมายไปโดยปริยาย
Facebook แนะนำว่าการออกแบบ Packaging ที่สวยงามนั้นสามารถช่วยสร้างประสบการณ์ของลูกค้าที่ดีให้กับลูกค้าในการจดจำแบรนด์ของคุณได้ โดยเฉพาะช่วงสิ้นปีที่ใกล้จะมาถึงการทำ Package ให้ดูเหมือนของขวัญหรือใส่ความเป็นเทศกาลลงไป เช่นดีไซน์ Package ให้เข้ากับเทศกาลคริสต์มาส หรือแนบการ์ดอวยพรปีใหม่แถมไปในสินค้าด้วย ลูกค้าจะรู้สึกว่าเราใส่ใจพวกเขาและจดจำแบรนด์ของคุณได้อีกนาน
5. Spend Strategically - ใช้โฆษณาให้ตรงวัตถุประสงค์
เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการทำโฆษณาใน Facebook นั้นสามารถสร้างการรับรู้แบรนด์ (ผ่าน Objective : Brand Awareness ในหน้า Facebook Ads) ให้แก่ธุรกิจของคุณได้ดีแค่ไหน แต่ถ้าคุณอยากจะทำให้แบรนด์ของคุณเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2021 การใช้ Objective แค่ Brand Awareness อาจจะวัดผลได้ไม่ดีพอ
Facebook จึงได้แนะนำเทคนิคในการใช้โฆษณาบนแพลตฟอร์มให้ตรงตามวัตถุประสงค์ของคุณ ผ่านตัวเลือก Objective ที่มีให้เลือกกว่า 10 แบบ เช่นถ้าแบรนด์ของคุณอยากทำให้ลูกค้าจากฝั่งออนไลน์ไปซื้อสินค้าที่หน้าร้าน การใช้ Objective แบบ Store Visits ก็สามารถช่วยเหลือคุณได้
ตัวเลือก Catalog Sales ก็เหมาะสำหรับแบรนด์ที่ต้องการเสนอขายสินค้าที่หลากหลาย และถ้าแบรนด์ของคุณมีช่องทางในการจำหน่ายสินค้าผ่านทาง E-Marketplace (เช่น Shopee, Lazada) ก็สามารถใช้รูปแบบการโฆษณา CPAS ที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มยอดขายให้คุณได้ (อ่านเรื่อง CPAS ทั้งหมดคลิกที่นี่)
หรือในกรณีที่คุณมีเว็บไซต์ คุณอาจจะลองใช้ตัวเลือกในการโฆษณาแบบ Retargeting เข้ามาช่วยเพื่อตามมัดใจผู้ที่เคยเข้ามายังเว็บไซต์คุณให้กลายเป็นลูกค้าของคุณในอนาคตก็สามารถทำได้และเป็นตัวเลือกที่ดี โดย Facebook เปิดเผยว่าการใช้โฆษณา Retargeting ด้วย Display Ads สามารถสร้าง Conversion ให้กับธุรกิจเพิ่มถึง 70% ด้วยกัน
ซึ่งการที่คุณเลือกวัตถุประสงค์การทำโฆษณา Facebook (หรือ Instagram) ให้ตรงกับเป้าหมายของธุรกิจของคุณ ประกอบกับการใช้เทคนิคอื่น ๆ ที่ได้นำเสนอไป มาคอยช่วยซัพพอร์ตกันก็จะทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จและเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2021 และอนาคตต่อไปได้นั่นเองครับ
สรุปทั้งหมด
ช่วงสรุปทิ้งท้ายนี้ทาง Facebook ก็ได้ทิ้งท้ายด้วยตัวอย่างที่ดีและ Tips การสร้าง ฺBrand Awareness ให้กับแบรนด์ต่าง ๆ มาฝากกันด้วย โดยรูปแรกคือตัวอย่างที่ดีในการทำลงคอนเทนต์สร้าง Brand Awareness บนช่องทาง Instagram
และยังได้แนะนำ Tips ในการเขียน Ads Copywriting ที่เหมาะสำหรับการสร้าง Brand Awareness บนแพลตฟอร์มให้แก่เหล่าผู้ประกอบการทั้งหลายได้นำไปปรับใช้กับแบรนด์ได้อีกด้วย (มาในรูปแบบ Formula Diagram ตามรูป)
สุดท้ายสำหรับผู้ประกอบการหรือฝั่งแบรนด์ สิ่งที่กุญแจสำคัญสำหรับการสร้าง Brand Awareness ให้กับธุรกิจของคุณนั้น คุณควรต้องหาสิ่งที่ทำให้ตัวคุณโดดเด่นจากคู่แข่ง พยายามโฟกัสไปที่เรื่องของการมอบ “คุณค่า” ให้แก่ลูกค้า (ซึ่งเป็นหลักการเดียวกันกับ Growth Marketing)
วิธีเหล่านี้จะทำให้ธุรกิจของคุณสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างยั่งยืนในโลกออนไลน์ที่มีการแข่งขันกันอยู่ตลอดเวลา ขอให้ทุกคนโชคดีครับ!